ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เปิดตัวออกมาแล้ว สำหรับมือถือซีรีส์เรือธงกล้องเทพอย่าง Huawei P40 ที่คราวนี้มาด้วยกันถึง 3 รุ่น คือ Huawei p40, P40 Pro และรุ่นท็อปสุด P40 Pro Premium ซึ่งแน่นอนว่ายังคงจัดหนักจัดเต็มในด้านกล้องหลังอยู่เช่นเคย ส่วนสเปค + ฟีเจอร์อื่นๆ รวมถึงประสิทธิภาพกล้องของมือถือซีรีส์นี้จะเทพซักแค่ไหน…มาดูกันเลยครับ
ดีไซน์
Huawei P40 Pro และ Pro+ มากับดีไซน์แบบพรีเมี่ยมด้วยฝาหลังที่ทำจากวัสดุ Nano-Tech Ceramic ความทนทานสูง และทนต่อแรงขีดข่วนได้ดี
Huawei P40 และ P40 Pro มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี คือ สีดำ, สีทอง Blush Gold, สีน้ำเงิน Deep Sea Blue, สีขาว Ice White และสีเงิน Silver Frost
ส่วนรุ่นท็อป Huawei P40 Pro+ มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ Ceramic Black และสีขาว Ceramic White
หน้าจอ
ในรุ่น P40 Pro และ P40 Pro+ ใช้หน้าจอเป็นแบบ Quad-Curve Overflow Display เป็นขอบโค้งทั้ง 4 ด้าน และมีขอบจอที่บางเฉียบ ขอบบน 2.65 มม. และขอบล่างแค่ 3.35 มม. เท่านั้น ส่วนหน้าจอเป็นแบบ Flex OLED มีขนาดอยู่ที่ 6.58 นิ้ว, ความละเอียด 2640 x 1200, รีเฟรชเรท 90Hz, DCI-P3 HDR
กล้องหลังระดับเทพ Ultra Vision
Huawei P40 มากับกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้อง Telephoto 3x Optical 8MP (f/2.4), OIS + กล้องหลัก Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9) + กล้อง Ultra Wide 16MP (f/2.2) และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี
Huawei P40 Pro มีกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย กล้อง Ultra Wide Cine 40MP (f/1.8) + กล้อง Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9), OIS + กล้องซูม Optical 5x 12MP (f/3.4), OIS + กล้อง 3 มิติ ToF และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี
Huawei P40 Pro+ มีกล้องหลังมากที่สุดถึง 5 ตัว ประกอบด้วย กล้อง Ultra Wide Cine 40MP (f/1.8) + กล้อง Ultra Vision Wide 50MP (f/1.9), OIS + กล้องซูม Optical 10x 8MP เลนส์ Periscope (f/4.4), OIS + กล้องซูม Optical 3x 8MP (f/2.4), OIS + กล้อง 3 มิติ ToF และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี
เซ็นเซอร์กล้อง Ultra Vision ความละเอียด 50MP ของซีรีส์ P40 มีขนาดที่ใหญ่กว่ามือถือรุ่นอื่นๆ ในตลาด ทำให้การเก็บภาพต่างๆ ได้รายละเอียดที่มากกว่า และสามารถเก็บแสงได้มากกว่าถึง 40% นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี XD Fusion Image Engine ที่จะเก็บภาพในหลายๆ ช็อต เพื่อเอามาทำภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้เนียนสุดๆ แม้จะถ่ายในที่แสงน้อย
โหมดถ่ายภาพในที่มืดก็พัฒนาขึ้นมาได้แบบสุดๆ อีกเช่นกัน โดยสามารถเก็บภาพในที่มืดจนตาเปล่ามองไม่เห็น ให้ออกมาเป็นภาพที่สว่างและคมชัด แถมยังจัดการกับเหล่า Noise ได้อยู่หมัดอีกด้วย
ซูมสูงสุด 100x
รุ่นท็อปอย่าง Huawei P40 Pro+ มากับกล้องซูม Periscope ที่สามารถซูมแบบ Optical ได้สูงสุดถึง 10x, ซูมไฮบริดได้ 20x และซูมแบบดิจิตอลได้สุดๆ ถึง 100x ซึ่งยังสามารถเก็บรายละเอียดได้แบบสวยงามอยู่ ส่วนอีก 2 รุ่นจะมีพลังซูมลดหลั่นกันลงไป
กล้องพลัง AI พร้อมฟีเจอร์ Golden Snap
ฟีเจอร์ Golden Snap ที่ใช้ระบบ AI Scene Recognition ทำให้สามารถคำนวณการเคลื่อนไหวของวัตถุหน้ากล้องได้อย่างแม่นยำ เพื่อเลือกจับภาพในช็อตที่ชัดเจนและสวยงามที่สุด
โหมด Remove Passerby โคตรเทพที่สามารถลบบุคคลที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้เนียนกริบ ด้วยการจับภาพรอบข้างไว้หลายๆ ช็อต จากนั้นจึงเลือกช็อตที่ไม่มีคนเอามาต่อๆ กันจนกลายเป็นพื้นหลังว่างๆ ได้
โหมด Remove Reflection ที่สามารถลบเงาสะท้อนจากการถ่ายภาพผ่านกระจกใสได้แบบเนียนๆ
กล้องถ่ายวิดีโอระดับโปร
Huawei P40 Pro และ P40 Pro+ สามารถถ่ายวิดีโอระดับ 4K ในสภาพแสงที่น้อยสุดๆ แค่ 0.5 Lux ได้แบบชัดเจน
ถ่ายวิดีโอจากกล้อง 2 ตัวพร้อมกัน
ถ่ายวิดีโอจากกล้อง 2 ตัวพร้อมกันด้วยโหมด Dual-View Video ให้เราสามารถบันทึกวิดีโอด้วยกล้อง Ultra wide พร้อมกับกล้อง Telephoto ได้พร้อมๆ กัน โดยไม่ต้องคอยกดเปลี่ยนระยะ
กล้องหน้าความละเอียดสูงพร้อมเซ็นเซอร์ IR
Huawei P40 Pro+ มากับกล้องหน้า 2 ตัว ทั้งกล้องหลัก 32MP (f/2.2) AF Camera + กล้อง IR Depth / Gesture Sensor สำหรับการจับความลึก และจับการเคลื่อนไหวต่างๆ ได้
ถ่ายวิดีโอเซลฟี่ได้ที่ความคมชัดระดับ 4K หรือจะถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอก็เนียนสุดๆ
เซ็นเซอร์ IR Depth / Gesture Sensor ยังใช้ประโยชน์ในการปลดล็อคเครื่องด้วยใบหน้าแบบ 3 มิติ ได้อย่างแม่นยำ และปลอดภัยอีกด้วย
แบตเตอรี่ และระบบชาร์จไวทั้งมีสาย ไร้สาย
Huawei P40 Pro+ มากับแบตเตอรี่ขนาด 4200 mAh และยังรองรับระบบชาร์จไวแบบมีสายที่ 40W และรองรับการชาร์จไร้สายที่เร็วปรี๊ดเท่ากันที่ 40W เลยทีเดียว
EMUI 10.1
ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 มากับฟีเจอร์ล้ำๆ อย่าง Multi Window ให้สามารถเปิดแอปขึ้นมาในหน้าจอเดียวกันได้พร้อมกัน 2 แอป ด้วยการลากแถบแอปจากขอบจอขึ้นมา และเมื่อเปิดแล้วเราจะสามารถใช้งานทั้ง 2 แอปได้พร้อมๆ กัน แถมยังมีความสามารถสุดเจ๋ง อย่างเช่นการลากรูปภาพจากแอปนึง มาใส่ที่แอปนึงได้ รวมถึงสามารถลากตัวอักษรมาใส่อีกแอปนึงก็ได้
นอกจากนี้ หากว่าเรากำลังใช้งานแอปใดแอปหนึ่งอยู่ แล้วมีข้อความเข้ามา เราสามารถเปิดหน้าต่างข้อความขึ้นมาอยู่บนหน้าแอปที่กำลังใช้งานเพื่อตอบข้อความได้ทันที โดยไม่ต้องสลับแอปไปมา
ราคา Huawei P40 / P40 Pro / P40 Pro+
Huawei P40 ความจุ 8GB / 128GB จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2020 เป็นต้นไปในราคา 799 ยูโร หรือประมาณ 28,600 บาท
Huawei P40 Pro ความจุ 8GB / 256GB จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2020 เป็นต้นไปในราคา 999 ยูโร หรือประมาณ 35,700 บาท
และสุดท้ายกับรุ่นท็อป Huawei P40 Pro+ จะเริ่มวางจำหน่ายเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปกับความจุ 8GB + 512GB ในราคา 1399 ยูโร หรือประมาณ 50,000 บาท
ส่วนวันวางจำหน่าย รวมถึงราคาในบ้านเรา ต้องรอติดตามข้อมูลกันอีกซักพักนะครับ เอาไว้เราจะมาอัพเดทให้ทันที
สรุปงานเปิดตัว Huawei P40 Series
สรุปงานเปิดตัว Huawei P40 Series ทั้ง 3 รุ่น มาเป็นคลิปดูให้ดูกันแบบครบๆ
สเปค Huawei P40 , P40 Pro และ P40 Pro+
ส่วนใครอยากดูสเปคแบบละเอียดๆ พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้ง 3 รุ่นก็เชิญที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ
เปรียบเทียบสเปค Huawei P40, P40 Pro และ P40 Pro+ เหมือนหรือต่างกันตรงไหน เลือกซื้อรุ่นไหนดี?
P40 Pro+ แพงเวอร์ไป แต่ตัว P40/40 Pro ถ้าขายไทยในราคายูโรก็พอรับได้นะ เพราะในไทยได้ 5G ทั้ง 2 รุ่น แต่ปกติแล้ว Huawei จะขายในไทยถูกกว่าที่อื่นค่อนข้างมากอยู่แล้ว
นั่งดู live แล้วมาสตั้นตรง Voice Assistant
Hey "Celia" นึกว่า Hey "Siri" พี่แกจะก็อปไปถึงไหน
อันนี้ผมลองเรียกเล่นๆ "Hey Celia" Siri ใน iPad เด้งขึ้นเลย 5555 ตอนแรกนึกว่าบังเอิญ แต่ลอง 10 ครั้ง ก็ขึ้น 10 ครั้ง
Matthattan
เอ้า 5555555555555555555555555555555555555555555555555555555
กล้องเทพ
ถือว่าดี แต่รอข้ามปีเหมือนเดิม
กล้อง 10 ตัวคงได้เห็นเร็วๆนี้
ซูมแข่งกันสนุกเลยแหะ 🙂 🙂
โอเคทุกอย่าง ยกเว้นโอเอสมาไม่ครบนี่ละ ถ้าใช้ google service ได้จะแนะนำทุกคนที่ถามเลยเจ้านี้
กล้าเนอะ ทำพรีวิวเปรียบเทียบให้ซัมซุงดูด้อยขนาดนี้ เกินความเป็นจริงมาก อยากให้P40 วางขายเร็วๆคนจะได้รู้ว่าไอที่พรีวิวมันเฟค ขนาด Galaxy S9 plus ถ่ายภาพกลางคืนยังเทพกว่าในพรีวิวด้วยซ้ำ แล้วนี่กล้ามาเทียบกับ S20 Ultra ที่ผมใช้อยู่ อยากให้ซัมซุงมาอ่านจริงๆ