การเผยโฉมสมาร์ทโฟนของ HUAWEI แต่ละครั้ง มักจะมีนวัตกรรมด้านการถ่ายภาพเจ๋ง ๆ เคียงคู่กันมาอยู่เสมอ ใน P50 และ P50 Pro เป็นอีกครั้งที่บริษัทฯ ได้แสดงให้เห็นเช่นเคย โดยสิ่งที่นำเสนอในครั้งนี้คือเทคโนโลยี XD Optics และเอนจิน XD Fusion Pro เนื่องจากงานเปิดตัวเป็นภาษาจีนล้วน ๆ ทั้งการบรรยาย คำบรรยาย และข้อความบนสไลด์ น่าจะทำให้หลายคนดูแล้วไม่เข้าใจ ผมจึงสรุปมาให้อ่านกันง่าย ๆ ในบทความนี้

ด้วยข้อจำกัดของชิ้นเลนส์ ทำให้ไม่สามารถส่งผ่านคุณภาพได้เต็ม 100%

ยามที่แสงเดินทางผ่านชุดเลนส์ก่อนที่จะมาถึงเซนเซอร์ภาพนั้น จะมีการสูญเสียข้อมูลบางส่วนไปในระหว่างทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกล้องปริทรรศน์ (periscope) จะมีอัตราการสูญเสียข้อมูลที่สูงเป็นพิเศษ อยู่ที่ราว 50% หรือมากกว่านั้น ในขณะที่ชิปประมวลผลภาพ (image signal processor: ISP) สามารถช่วยกู้คืนกลับมาได้เพียง 10% หรือหากมีการใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพเชิงคำนวณจากพลังของปัญญาปริดิษฐ์เข้ามาช่วย อาจกู้คืนรายละเอียดได้เพิ่มขึ้นเป็น 20% นั่นเท่ากับว่า ผลลัพธ์สุดท้ายที่ออกมาจะมีคุณภาพอยู่ที่ 60% แน่นอนครับ นั่นยังไม่ใกล้เคียงกับคำว่า “สมบูรณ์แบบ” เลยแม้แต่น้อย

XD Optics ช่วยดึงข้อมูลที่สูญเสียไปกลับมาได้ 25%

ด้วยเหตุข้างต้นนี้ HUAWEI จึงได้พัฒนาเทคโนโลยี XD Optics ขึ้นมา ซึ่งมีคุณสมบัติในการปรับเทียบเพื่อแก้ไขความผิดเพี้ยนของแสงและกู้คืนข้อมูลรูปภาพที่สูญเสียไปได้ 25% แต่ยังไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ เพราะมี XD Fusion Pro เอนจินประมวลผลภาพตัวใหม่เข้ามาเสริมด้วยอีกแรง ทำให้กู้คืนข้อมูลได้เพิ่มเติมอีก 30% รวมทั้งสิ้นเป็น 81% ((50 + 25%) + 30%)

XD Fusion Pro เอนจินประมวลผลภาพตัวใหม่ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี

จากที่ HUAWEI อธิบายเกี่ยวกับ XD Fusion Pro ผมพอจะสรุปได้ว่า เอนจินนี้จะทำหน้าที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพเชิงคำนวณควบคู่ไปกับชิปประมวลผลภาพ โดยบริษัทฯ ได้นำเสนอเทคโนโลยีเด่น ๆ มา 3 อย่างด้วยกัน ได้แก่ Super Filter, True-Chroma Engine และ Super Dynamic range (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการนะครับ เพราะแปลมาจากภาษาจีนอีกที)

  • Super Filter ช่วยให้ P50 และ P50 Pro รับแสงได้มากขึ้น 103% และให้รายละเอียดมากกว่าเดิม 10% เป็นการยกระดับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยขึ้นไปอีกขั้น โดยเทคนิคที่บริษัทฯ ใช้คือ ถ่ายภาพพร้อมกันหลาย ๆ ใบจากกล้องปกติและกล้องโมโนโครม แล้วค่อยนำมาซ้อนกันเป็นภาพใบเดียวในภายหลัง ซึ่งกล้องโมโนโครมจะมีคุณสมบัติด้านความไวแสงที่มากกว่ากล้องปกติ

  • True-Chroma Engine ทำให้แยกแยะแสงแวดล้อมได้ดีและประมวลผลไวต์บาลานซ์ได้เที่ยงตรงขึ้นอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ P50 และ P50 Pro มีการอัปเกรดเซนเซอร์มัลติสเปกตรัม (เซนเซอร์วงกลมเล็ก ๆ ที่อยู่เหนือแฟลช) ให้รับสัญญาณสีได้ 10 ช่อง จากเดิม 8 ช่อง ดังนั้น ขอบเขตสีที่ฮาร์ดแวร์สามารถรับรู้ได้ในตอนนี้จึงเพิ่มขึ้น 25% จากมาตรฐาน sRGB หรือเทียบได้กับ DCI-P3 ซึ่งเมื่อขอบเขตสีกว้างขึ้น ทำให้จุดปรับเทียบสีมีจำนวนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย จากเดิมมีแค่ 400 จุด ตอนนี้กลายเป็น 2,000 จุดแล้ว

  • Super Dynamic range หลักการทำงานจะคล้าย ๆ กับ Super Filter คือ การซ้อนภาพ แต่อันนี้จะเป็นการซ้อนภาพสีหลาย ๆ เฟรมเข้าด้วยกันเพื่อให้มีช่วงการรับแสงที่สูงกว่าปกติ ให้รายละเอียดครบถ้วนทั้งส่วนมืดและส่วนสว่าง เรียกง่าย ๆ ว่า HDR (High Dynamic Range) นั่นแหละครับ

กล่าวโดยสรุป จากพลังของ XD Optics และ XD Fusion Pro ได้เข้ามายกระดับให้กล้องเทเลโฟโต้ของ P50 และ P50 Pro สามารถซูมได้ไกลมาก ๆ โดยแทบจะไม่สูญเสียรายละเอียด (หรือถ้าพูดให้ถูกจริง ๆ คือ ชดเชยข้อมูลที่สูญเสียไปคืนมาได้มาก) ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้แจ่มขึ้น ไดนามิกเรนจ์กว้างขึ้น และประมวลผลสมดุลสีขาวได้แม่นยำมาก ๆ นั่นเองครับ HUAWEI บอกว่า นี่คือ “ระบบกู้คืนข้อมูลรูปภาพระดับโลก ที่ถูกนำมาใช้งานครั้งแรกในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน” ซึ่งตอนนี้ก็ขึ้นแท่นอันดับ 1 จากการรีวิวประสิทธิภาพกล้องจาก DXOMARK ไปแล้วด้วยครับ