แรกๆ ดูเหมือนว่าสถานการณ์สงครามการค้า (Trade War) ระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะดีขึ้นอยู่แล้วเชียว จนกระทั่งเมื่อเช้ามีข่าวว่า HUAWEI โดนแบนห้ามค้าขายกับบริษัทอเมริกันอีกแล้ว ส่งผลกระทบถึงธุรกิจภาคสมาร์ทโฟนและอื่นๆ ของบริษัทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ล่าสุดก็มีข้อมูลจากจีนหลุดมาเผยว่า P50 series เรือธงตัวถัดไป จะมาพร้อมกับสเปคที่เรียกได้ว่าเขย่าวงการมือถืออย่างแน่นอน

ข้อมูลชุดนี้ได้มาจาก Leaker นิรนามจาก Weibo เผยว่า HUAWEI P50 รุ่นธรรมดาจะมาพร้อมกับหน้าจอที่มีค่ารีเฟรชเรท 90Hz ส่วนรุ่นท็อปที่คาดว่าไม่เป็น P50 Pro ก็รุ่น Pro+ จะอัปเกรดมาใช้เป็นจอ 120Hz และเชื่อว่าประเภทของหน้าจอที่ใส่มาก็น่าจะเป็น OLED เหมือนกับรุ่นผ่านๆ มาแน่นอน โดย HUAWEI P50 series จะเลือกใช้หน้าจอแบบเจาะรูเอาไว้ตรงกลาง คล้ายๆ กับ Galaxy S21 series ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานนั่นเอง

นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังเผยว่าหน้าจอของ HUAWEI P50 series นั้นคุณภาพไม่เป็นสองรองใครเลย ส่วนชิปเซ็ตจะขับเคลื่อนด้วย Kirin 9000 และ Kirin 9000e ที่ต่างผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 5 นาโนเมตรด้วยกันทั้งคู่ โดยในส่วนกล้องหลัง HUAWEI P50 series จะยังใช้เลนส์ที่พัฒนาร่วมกับ Leica เหมือนเดิม ชุดกล้องแทบจะชุดเดียวกันกับ Mate 40 series แต่กล้องซูมจะได้รับการตีบวกขึ้นมา มี Digital Zoom ที่ไกลสุดขอบโลกถึง 200x 

เท่านั้นยังไม่พอ HUAWEI P5o Pro+ อาจรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 135W อีกต่างหาก ขณะที่รุ่นอื่นๆ ในซีรีส์จะรองรับชาร์จไวแบบมีสาย 66W และแบบไร้สาย 50W ซึ่งต้องยอมรับกันตามตรงว่าตัวเลขนี้ถือว่าสูงมากๆ แทบจะท็อปๆ ของวงโลกเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดี ข้อมูลในส่วนแบตเตอรี่เหมือนว่าจะยังอยู่ในขั้นตอนทดสอบใช้งานอยู่นะ ถึงเวลาจริงๆ อาจจะดันตัวเลขไปสูงขนาดนั้นไม่ได้

แต่น่าเสียดายที่ HUAWEI P50 series รุ่น Global จะยังคงไม่มากับระบบปฏิบัติการ Harmony OS 2.0 แต่จะเลือกใช้เป็น EMUI 11 เหมือนเดิม ทั้งนี้รุ่นที่ขายในจีนอาจจะได้ Harmony OS ไปลองใช้งาน

ยังไม่หมดเท่านี้ แหล่งข่าวปิดท้ายว่า HUAWEI P50 series จะมากับลำโพง 4 ตัว และมอเตอร์สั่นที่อัปเกรดขึ้นกว่าเดิมจากรุ่นก่อนหน้า เอาเป็นว่าหาก HUAWEI P50 series มาพร้อมสเปคแบบนี้จริงๆ จะมี GMS หรือไม่มีก็ไม่สนแล้วล่ะครับ น่าสนใจมากจริงๆ เพราะตอนนี้ HMS และ HUAWEI AppGallery ถือว่ามีความพร้อมมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมากๆ

ทุกวันนี้ HUAWEI AppGallery มีแอปยอดนิยมจาก Google Play Store เพียงพอต่อความต้องการแล้วหรือยัง ?

ที่มา: gizchina | LetsGoDigital