สวัสดีเพื่อนสมาชิก Droidsans ทุกท่าน วันนี้ผมขอมารีวิวมือถือรุ่นใหม่จาก Huawei ให้เพื่อนๆสมาชิกได้อ่านกัน โดยพระเอกของเราวันนี้ Huawei P8 มือถือรุ่นล่าสุดในตระกูล P series ของ Huawei นะครับ โดยก่อนหน้านี้จะมีคำว่า Ascend ด้วยเช่น Huawei Ascend P7 แต่ในที่สุด Huawei ตัดสินใจตัดออกไปให้อ่านง่าย จำง่าย สั้นๆพอ โดยมือถือ Huawei P8 นั้นถือว่าพลิกโฉมเรื่องงานออกแบบและวัสดุของ P series เลยทีเดียว ตอนนี้ Huawei P8 วางจำหน่ายแล้วในราคา 15,990 บาท เดี๋ยวเรามาดูกันว่าคุ้มค่ากับค่าตัวหรือไม่นะครับ

คำเตือน: โปรดเช็คอินเตอร์เน็ตคงเหลือของท่านก่อนเข้าชม

 

Huawei P8 นั้นถือเป็นรุ่นที่ 3 แล้วของมือถือในตระกูล P series โดยก่อนหน้าจะเป็น P6 และ P7 ที่ทำตลาดมาก่อน ซึ่ง P series นั้นจะเป็นมือถือที่เน้นงานออกแบบสวยงามและการใช้วัสดุพรีเมียมเป็นหลัก สำหรับ Huawei P8 นั้นก็เป็นรุ่นแรกที่ใช้วัสดุเป็นโลหะทั้งตัว เน้นความแข็งแรงและหรูหรา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ใช้กระจกเป็นหลักใน Huawei Ascend P7

ภาพจาก Huawei Device Thailand

 

แกะกล่องกันก่อน

แพ็คเกจกล่องของ Huawei P8 นั้นทำออกมาได้ดูดีเลยทีเดียว แต่จะเป็นแพ็คเกจแบบตั้งตะแคงด้านข้างไม่ใช่แบบวางนอนราบกับพื้นเหมือนกล่องมือถือทั่วไป เวลาจัดเข้าชั้นที่ร้านขายจะเหมือนกับการจัดหนังสือเลย (ว่าไปนู่น) ชั้นนอกสุดเป็นกระดาษสีดำหุ้มกล่องพลาสติกด้านในอีกที

 

หลังจากถอดกระดาษสีดำก็จะเห็นตัวกล่องพลาสติกสีขุ่นพร้อมให้เราเปิดแล้วล่ะครับ

Huawei P8 - Unbox 02.jpg

 

เปิดฝาออกก็จะเห็น Huawei P8 อยู่ข้างใน

 

ลองดึงเจ้า P8 ออกมา มันแน่นเหมือนกันแฮะ ต้องออกแรงนิดๆ

Huawei P8 - Unbox 04.jpg

 

ออกมาแล้ว Huawei P8 พระเอกของบทความนี้

Huawei P8 - Unbox 05.jpg

 

ลองแกะอุปกรณ์ในกล่องออกมาดูสักนิด พอเราเอาฝาครอบออกมา จะเห็นกล่องกระดาษสีดำ 2 กล่อง เล็กและใหญ่ วางอยู่ทางด้านซ้ายและขวา

Huawei P8 - Unbox 06.jpg

 

กล่องเล็กเป็นที่เก็บคู่มือและใบรับประกัน ซึ่งผมเห็นมีบัตร VIP อะไรสักอย่างอยู่ในกล่องด้วย ตอนแรกนึกว่า Huawei จะแจกบัตร member (สวนสนุก) ระดับ VIP ให้ซะแล้ว 😛

Huawei P8 - Unbox 07.jpg

 

กล่องใหญ่เป็นที่เก็บพวกหูฟัง, สาย USB, Adaptor และเข็มจิ้มซิมครับ

Huawei P8 - Unbox 08.jpg

 

ตัว Adaptor ที่แถมมากับ Huawei P8 จ่ายไฟ 5V 1A ครับ ชาร์จนานพอควรเลยล่ะ

Huawei P8 - Unbox 09.jpg

 

หูฟังของ Huawei P8 เป็นแบบ earbud ที่หน้าตาคุ้นพอสมควร เหมือนเคยเห็นที่ไหนนะ สุ้มเสียงนั้นถือว่าดีกว่าหูแถมกับมือถือทั่วไป แต่ก็ไม่ได้ดีมาก เบสพอได้ แต่แหลมไม่มาเลยครับ

Huawei P8 - Unbox 10.jpg

 

ก็มีอยู่ประมาณนี้ครับ สำหรับของที่มีมาในกล่องของ Huawei P8 ต่อไปเรามาว่ากันเรื่องของตัวมือถือกันดีกว่า

 

สเปกของ Huawei P8

 

  • ชื่อและรหัสเครื่อง: Huawei P8 (GRA-UL00)

  • สัดส่วน: 72.1 x 144.9 x 6.4 มิลลิเมตร

  • น้ำหนัก: 144 กรัม

  • หน้าจอ: IPS ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล (424 ppi)

  • เครือข่ายที่รองรับ:

    • 4G FDD LTE: B1/B3/B4/B7 (รองรับทุกเครือข่ายในประเทศไทย)

    • 3G: HSPA 850/900/1900/2100 (รองรับทุกเครือข่ายในประเทศไทย)

    • 2G: GSM 850/900/1800/1900

  • SIM: 2 SIM แบบ Nano-SIM

  • CPU: Hisilicon Kirin 930 64-bit Octa-core 2.0GHz

  • GPU: Mali-T624

  • RAM: 3 GB

  • หน่วยความจำภายใน: 16 GB (เพิ่ม microSD card ได้ที่ช่อง SIM 2)

  • กล้องหน้า: 8 ล้านพิกเซล

  • กล้องหลัง: 13 ล้านพิกเซล, OIS, RBGW sensor, ความคมชัดเทียบเท่ากล้อง DSLR-Signal Processor, F2.0; Flash แบบ Dual-tone color temperature

  • แบตเตอรี่: 2,680 mAh (ถอดเปลี่ยนไม่ได้)

  • OS: Android 5.0 Lollipop พร้อม Emotion UI 3.1

  • NFC: ไม่มี

  • OTG: ไม่มี

  • การเชื่อมต่ออื่นๆ:

    • Wi-Fi 2.4GHz b/g/n พร้อม Wi-Fi Direct support

    • Bluetooth 4.1 LE

    • GPS/A-GPS/Glonass/BDS

    • USB 2.0

    • หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

 

งานออกแบบตัวเครื่อง

Huawei P8 เป็นมือถือที่ดูดีมาก พระเอกคือการเลือกใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมทั้งตัวพร้อมทั้งความพิถีพิถันในการปรับแต่งส่วนขอบให้โค้ง ตัดคมต่างๆออก ทำให้เวลาจับถือแล้วรู้สึกดี ยิ่งตอนโดนแอร์เย็นๆนี่มันเย็นได้ใจดีจริงๆ หากมองที่ด้านหน้าของมือถือตอนยังไม่ได้เปิดหน้าจอแบบนี้ จะมีกิมมิคเล็กๆคือ “มันดูเหมือนไม่มีขอบจอ” แต่พอเปิดหน้าจอมาแล้วก็เห็นว่าเป็นขอบสีดำอยู่ชัดเจน

Huawei P8 - Design 01.jpg

 

ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีพอร์ต USB อยู่ตรงกลาง มีน็อต 2 ตัวขนาบข้าง ส่วนซ้ายขวามีช่องที่เหมือนลำโพง แต่จริงๆเป็นลำโพงเพียงด้านเดียวคือด้านซ้าย ส่วนด้านขวาเป็นช่องไมค์สำหรับสนทนาครับ

Huawei P8 - Design 02.jpg

 

ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะโล่งๆ ไม่มีอะไรครับ

Huawei P8 - Design 03.jpg

 

ด้านบนของตัวเครื่องจะมีรูเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และไมค์ตัวที่สองเพื่อตัดเสียงรบกวนระหว่างสนทนา

Huawei P8 - Design 04.jpg

 

ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มปรับเสียง และปุ่ม Power อยู่ตามการเรียงปุ่มมาตรฐานของ Android ถัดลงไปด้านล่างจะเป็นช่องถาดซิม 2 ช่อง เพราะรุ่นนี้รองรับ 2 ซิมครับ

Huawei P8 - Design 05.jpg

 

พอเราใช้เข็มจิ้มถาดซิมทั้ง 2 อันออกมาก็จะเป็นเหมือนรูปด้านล่าง โดยซิมอันล่างคือ SIM 1 เป็น nanoSIM ส่วนถาดด้านบนจะเป็นถาดแบบ Hybrid คือ ใส่ SIM 2 ซึ่งเป็น nanoSIM ได้ หรือจะใส่เป็น microSD card แทนก็ได้ แต่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง

Huawei P8 - Design 12.jpg

 

กลับมาดูด้านหน้าของตัวเครื่อง จะมีช่องลำโพงสนทนาและกล้องหน้าอยู่ข้างกัน และที่เราไม่เห็นคือ พวกเซ็นเซอร์ต่างๆเช่น เซ็นเวอร์วัดแสง และ Proximity sensor ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่า Huawei P8 ติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อยครับ

Huawei P8 - Design 06.jpg

 

อ้อ ลืมบอกไปว่า Huawei P8 มี Notification LED ซึ่งเป็นไฟแจ้งเตือนไว้ให้ด้วยครับ

Huawei P8 - Design 11.jpg

 

ส่วนล่างของหน้าจอที่เป็นแถบสีดำทึบนั้นไม่มีปุ่มอะไร เพราะ Huawei P8 ใช้ปุ่มแบบ On-screen แต่จริงๆแล้วตรงนี้จะกลายเป็นปุ่ม capacitive แบบสัมผัสได้เมื่อติดกันรอยแบบพิเศษที่เรียกว่า Huawei TouchPlus แต่ก็ไม่ทราบว่าทาง Huawei Thailand ได้เอามาขายหรือเปล่านะครับ

Huawei P8 - Design 10.jpg

 

ด้านหลังของโทรศัพท์จะโชว์ให้เห็นแผ่นโลหะแบบเต็มๆ มีโลโก้ Huawei ตระหง่านอยู่ตรงกลาง ด้านบนจะเว้นเป็นช่องของพลาสติกและกระจกเพื่อป้องกันปัญหาสัญญานโทรศัพท์เจ๊ง (Death grip) ซึ่งเป็นผลจากการใช้วัสดุที่เป็นโลหะมากเกินไป ซึ่งด้านล่างก็จะมีเส้นพลาสติกคาดไปด้วยเช่นกัน สำหรับช่องพลาสติกนี้จะมีกล้องหลังและไฟแฟลชอยู่ด้วย ถ้าสังเกตอีกนิดตรงนี้ก็ติดฟิล์มกันรอยมาให้ด้วยครับ

Huawei P8 - Design 08.jpg

 

โดยรวมแล้วแล้วการออกแบบของ Huawei P8 นั้นน่าพอใจและหรูหราสมกับเป็น P series ขนาดของตัวเครื่องไม่ใหญ่จนเกินไปสำหรับการจับถือด้วยมือเดียว แต่ก็ยังมีจุดด้อยในเรื่อง “Ergonomic” หรือการออกแบบให้เหมาะกับสรีระ ด้วยตัวเครื่องที่แบนทั้งสองด้านและความบางระดับนี้ ทำให้การจับไม่เข้ามือเหมือนกับมือถือส่วนใหญ่ ทำให้ลื่นหลุดมือได้ง่าย อย่างน้อยด้านหลังควรจะมีจะส่วนโค้งให้รับกับอุ้งมือมากกว่านี้ นอกจากนั้นการวางตำแหน่งของกล้องหลังก็ชิดขอบมากเกินไป ทำให้เป็นอุปสรรคเวลาถ่ายรูป หลายครั้งจะมีนิ้วโผล่มาที่ขอบรูปโดยไม่รู้ตัว แต่อย่างไรเสียก็คงพอจะปรับตัวกันได้

Huawei P8 - Design 07.jpg

 

Software

Huawei P8 มาพร้อมกับ Android 5.0 Lollipop ที่ครอบทับด้วย Emotion UI 3.1 ซึ่งเป็นการปรับแต่งของ Huawei เอง ก็เรียกว่าได้ว่าไม่เหลือเค้า Android เดิมเลยล่ะครับ โดย Emotion UI 3.1 นั้นจัดมาครบทั้ง App ที่ทำขึ้นมาเอง, Themes, ชุด Icon แบบต่างๆ, Widget และ Wallpaper ซึ่งถือว่ารวมๆแล้วถือว่าทำได้ดี ดูสวยงาม และทำงานได้่ลื่นไหลไม่สะดุด เรามาว่ากันเป็นส่วนๆไปดีกว่า

 

Launcher และ Theme

Launcher ของ Emotion UI 3.1 นั้นเหมือนกับของมือถือจากผู้ผลิตจีนหลายๆเจ้าที่เลือกตัด App Drawer ออกไป โดย App ทุกตัวที่ติดตั้งในเครื่องจะถูกวางลงบนหน้า Homescreen ทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่มีการจัดเรียง App แบบเรียงตามตัวอักษรหรือแบบอื่น ทำได้แค่เรียง App ให้ชิดกันในหน้าของตัวเองเท่านั้น นอกนั้นคงต้องอาศัยการสร้าง Folder เพื่อจัดกลุ่ม App เอาเอง

 

บนหน้า Homescreen นั้นก็มีลูกเล่น gesture ให้เราเรียกใช้งานได้ เช่น การลากนิ้วจากบนลงล่างจะเป็นการดึงแถบค้นหา (Search) ลงมา ซึ่งสามารถค้นหาชื่อ App, รายชื่อ Contact, ข้อความ sms และค้นหาแบบออนไลน์บนอินเตอร์เน็ตได้ ตรงนี้ใครเคยใช้ iOS มาก่อนจะคุ้นเคยดี ซึ่งผมก็ว่าเป็นประโยฃน์ที่ Huawei เลือกเอามาใส่ นอกจากนั้นยังสามารถ กดปุ่ม Recent ค้างไว้เพื่อย้อนกลับไป App ที่ใช้งานก่อนหน้านี้ได้ด้วย

Huawei-P8-Software-02.png

 

ในหน้า Recent apps หรือหน้า Task manager แล้วแต่คนจะเรียก นอกจากเราจะสามารถสั่งปิด App ได้ด้วยการปัด App นั้นทิ้งขึ้นไปข้างบน เรายังสามารถสั่งปิด App ทั้งหมดได้ด้วยการลากจากตรงกลางด้านล่างขึ้นมา จะเห็นเป็นรูปถังขยะแล้วปล่อย ก็จะเป็นการปิด App ทั้งหมดครับ

Huawei-P8-Software-03.jpg

 

สำหรับ Theme นั้นมีมาให้เลือก 6 แบบตามรูป ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบของ icon, font, wallpaper และ lockscreen ตาม theme นั้นๆ นอกจากใช้ตามรูปแบบของ theme เรายังสามารถเอาของจากแต่ละ theme มาผสมกันได้ตามใจอีกด้วย แต่น่าเสียดายที่มีให้ใช้แค่ 6 theme ยังไม่สามารถ download มาเพิ่มได้ครับ

Huawei-P8-Software-04.png

 

App หลักสไตล์ P8

Emotion UI ของ Huawei P8 นั้นมีการปรับหน้าตาของ App หลักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Calendar, Messaging, Browser, Gallery, Contacts และ Dialer ไปพอสมควร โดยแต่ละ theme ก็จะมีการปรับไม่เหมือนกัน แต่ฟีเจอร์ต่างๆยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรพิเศษ

Gallery จะมีการเรียงรูปเป็น Timeline ในแนวตั้ง สามารถเลื่อนดูรูปตามวันเวลาที่ถ่ายได้ และยังแบ่งกลุ่มตามสถานที่ที่ถ่ายด้วย หรือถ้าถนัดแบบเดิมก็เลือกที่ Albums เพื่อเปิดดูรูปตาม folder ในเครื่องครับ

Huawei-P8-Software-05.png

 

Calendar มีการปรับหน้าตานิดหน่อยให้ดูเรียบๆ แต่ก็ยังคงฟีเจอร์เหมือนเดิม

Huawei-P8-Software-06.png

 

Clock แอพนาฬิกาอันนี้ต้องบอกว่าทำออกมาได้ดูเท่ห์ดีครับ ให้ความรู้สึก modern ดี แต่ก็ยังคงตั้งปลุก, จับเวลา หรือดูเวลาต่างประเทศได้เหมือนเดิม

Huawei-P8-Software-07.png

 

File manager อันนั้นจะจัดกลุ่มไฟล์ตามประเภทต่างๆให้เรา เช่น รูปภาพ, วิดีโอ หรือเพลง และยังบอกพื้นที่ที่ถูกใช้งานไปแล้วและที่เหลืออยู่ด้วย หรือถ้าเราถนัดแบบดูตาม folder ก็เลือกที่ Local ได้เช่นกัน

Huawei-P8-Software-08.png

 

Lockscreen

ตัว Lockscreen หรือหน้าจอล็อคนั้นจะมีการใช้งานที่แปลกไปจาก Lockscreen มาตรฐานของ Android โดยการปลดล็อคหน้าจอทำได้ตามมาตรฐานทั้งการ swipe, ใช้รหัส pin และ Smart Unlock แต่การแสดง Notification บนหน้า lockscreen นั้นปกติของ Android เวลาปัดการแจ้งเตือนไปด้านข้างจะเป็นการปัดทิ้ง แต่ของ P8 จะเป็นการปลดล็อคแล้วเข้าไปยัง App ตัวนั้นเลย ตามสไตล์ของ iOS ซึ่งจะไม่สอดคล้องกันกับหน้า Notification shade ที่ยังคงเป็นใช้การปัดทิ้งแบบ Andriod อยู่ ตรงนี้จะงงนิดๆ

Huawei-P8-Software-09.png

 

Notification Center

Huawei P8 จะมีระบบ Notification Center ให้เราสามารถจัดการระบบแจ้งเตือนจาก App ต่างๆได้เอง โดยสามารถกำหนดว่าจะให้ App แจ้งเตือนได้หรือไม่ และแจ้งเตือนไปส่วนไหนได้บ้าง ได้แก่

  • Status bar หรือส่วน Notification shade นั่นเอง

  • Banners หรือ Toast notification ที่จะห้อยลงมาจากด้านบนหน้าจอ

  • Lock screen คือการแจ้งเตือนบนหน้า Lock screen

น่าเสียดายที่ App บางส่วนของ Google ไม่สามารถปรับการแจ้งเตือนใน Notification center ได้ เช่น Gmail, Hangouts และ Google+

Huawei-P8-Software-10.png

 

ในส่วนของ Notification Shade ที่เราดึงลงมานั้นจะมีการแสดงเรียงเป็นเส้น Timeline ตามเวลาการแจ้งเตือนและมีรูปถังขยะด้านล่างเพื่อลบการแจ้งเตือนทั้งหมด ตรงนี้ผมชอบเป็นการส่วนตัว ดูเป็นระเบียบดี ส่วนของ Shortcuts หรือ Toggles ก็มีครบตามาตรฐานทั่วไปครับ

Huawei-P8-Software-11.png

 

Protected Apps

เป็นส่วนที่เอาไว้จัดการ App ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งจริงๆ ระบบ Android จะมีการจัดการตรงนี้เองอยู่แล้ว แต่การที่มี Protected Apps มาก็ถือว่าซะว่าเป็นการปรับละเอียด เลือกได้เองว่าจะให้ App ทำงานหรือไม่ทำงานอยู่เบื้องหลัง

Huawei-P8-Software-12.png

 

Smart Assistance

เป็นส่วนหนึ่งในเมนู Settings ที่รวมเอาการจัดการฟีเจอร์พิเศษของ Emotion UI 3.1 ไว้ด้วยกัน ดังนี้

Huawei-P8-Software-13.png

 

Voice wakeup ระบบการรับรู้เสียงของเราที่ทำให้เราสามารถปลุกให้มือถือตื่นขึ้นมาด้วยเสียงพูดได้ รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น

Huawei-P8-Software-14.png

 

Touchplus เป็นฟิล์มกันรอยแบบพิเศษของ Huawei ที่บนฟิล์มจะมีปุ่มสัมผัสมาทั้ง 3 ปุ่มมาตรฐาน Back, Home และ Recent และปุ่มที่อยู่มุมบนซ้ายและขวาของตัวฟิล์ม โดยเมื่อเราติดฟิล์ม Touchplus จะสามารถใช้บริเวณแถบดำด้านล่างหน้าจอเป็นปุ่มสัมผัสได้ มุมซ้ายบนและขวาบนก็เช่นกัน ทีนี้ก็ไม่ต้องเสียพื้นที่แสดงผลให้ปุ่ม Softkeys แล้ว

Huawei-P8-Software-15.png

 

Motion Control เปิดให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมของโทรศัพท์ได้เวลาคว่ำหน้าจอ, เวลาหยิบขึ้นมาจากโต๊ะ, ตอนเอามาแนบหู และการเขย่าหรือเอียงมือถือเพื่อจัด icon และ widget บนหน้า Homescreen

Huawei-P8-Software-16.png

 

Navigation bar เราสามารถปรับเปลี่ยนปุ่ม Softkeys ที่อยู่ด้านล่างหน้าจอได้ด้วยการจัดเรียงลำดับใหม่หรือเพิ่มปุ่มเปิดแถบ Notification Shade ลงมาได้

Huawei-P8-Software-17.png

 

One-hand layout สำหรับคนมือเล็กหรือนิ้วสั้นสามารถเปิด One-hand UI เพื่อใช้งานมือเดียวได้ถนัดมากขึ้น โดยเมื่อเราเอานิ้วปาดตรงแถบปุ่มด้านล่างจะไปซ้ายหรือขวาแล้วแต่ถนัด หน้าจอจะย่อเล็กลงให้สามารถใช้งานมือเดียวง่ายขึ้น

Huawei-P8-Software-18.png

 

Smart screenshot เป็นวิธีการจับภาพหน้าจอที่แหวกแนวด้วยการ “มะเหงก 2 ที” ลงบนหน้าจอครับ

Huawei-P8-Software-19.png

 

Simple Mode

โหมดนี้มีมากับมือถือ Huawei เกือบทุกรุ่น ซึ่งเป็นโหมดที่ลดความซับซ้อนบนหน้าจอออกให้สามารถใช้งานได้ง่าย เข้าถึงฟีเจอร์หลักๆได้รวดเร็ว ไม่ต้องมานั่งจัดนู่นจัดนี่บน Homescreen เหมาะสำหรับคนชอบอะไรง่ายๆ หรือผู้ใหญ่ที่ไม่ถนัดใช้งาน Homescreen ที่ซับซ้อน ชอบแบบมือถือ feature phone มากกว่า

Huawei-P8-Software-20.png

 

Phone Manager

ศูนย์รวมการจัดการขยะ, เคลียร์ RAM, ระบบประหยัดพลังงาน, การตรวจผิด App ผิดปกติ, การจัดการสิทธิ์ของ App ภายในเครื่อง และ Antivirus เรียกว่าเป็น One-stop solution ของ Huawei P8 ได้เลย

Huawei-P8-Software-21.png

Huawei-P8-Software-22.png

Huawei-P8-Software-23.png

 

ระบบ 2 SIM

การจัดการระบบ 2 SIM นั้นอยู่ในเมนู Sim card management ซึ่งเราสามารถเลิกเปิดปิด SIM ที่ไม่ใช้งานได้ผ่านหน้านี้ โดยไม่ต้องแกะฝาหลังเพื่อถอดซิมออก นอกจากนั้น Huawei P8 รองรับ 4G/3G ทั้ง 2 SIM แต่เราต้องเลือกใช้ SIM ใด SIM หนึ่งเท่านั้น เพราะเป็นระบบ Dual standby เช่น ถ้าเลือกว่า SIM1 เป็น 4G/3G แล้ว SIM2 จะกลายเป็น 2G ทันที ทั้งนี้ทั้งนั้นเราสามารถมาสลับ SIM ใช้งานได้ในเมนูนี้ตลอดเวลา

Huawei-P8-Software-24.png

 

โดยรวมแล้วการใช้งาน Emotion UI 3.1 ของ Huawei นั้นรู้สึกดี ไม่มีปัญหาอะไร การใช้งานลื่นไหลและสนุกดี แต่ยังมีบางส่วนที่ต้องปรับ เช่น การแจ้งเตือนบน Lockscreen ควรจะทำให้สอดคล้องกับการแจ้งเตือนบน Notification Shade ปัดขวาคือการปัดทิ้ง ไม่ใช่ปัดเพื่อเข้า App และระบบ Theme ควรจะสามารถ download เพิ่มเติมได้

 

กล้องถ่ายรูป

Huawei นั้นชูประเด็นเรื่องกล้องของ P8 เป็นพิเศษ โดยกล้องนั้นมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซลใช้เซ็นเซอร์ประมวลภาพแบบ Four Color RGBW มาพร้อมระบบกันสั่น OIS และค่า f/2.0 ซึ่งต้องบอกว่า ไม่ผิดจากคำโฆษณา เพราะคุณภาพของภาพถ่ายนั้นดี ภาพสีสันสดใส ถ่ายง่าย ถ่ายสวย ไม่ว่าจะเป็นภาพทิวทัศน์, ภาพมาโคร หรือภาพผู้คน โดยมีโหมดพิเศษชื่อว่า “Light Painting” ที่ช่วยให้เราถ่ายรูปการเล่นแสงไฟแบบต่างๆได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟรถบนท้องถนนยามค่ำคืนหรือการเล่นไฟด้วยวาดภาพบนอากาศ ซึ่งปกติแล้วการจะถ่ายแบบนี้ได้ต้องมีการปรับค่า Shuter Speed และ ISO ให้เหมาะสม แต่ Huawei P8 นั้นทำให้เลย ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีในการสร้างความแตกต่างเลยครับ มาดูภาพตัวอย่างกันดีกว่า

ภาพกลางวัน

 

 

ภาพตอนเย็นและกลางคืน

 

ภาพ Light Painting

 

ตัวอย่างวิดีโอ 

  Play video

Play video

Play video

 

ประสิทธิภาพและความอึด

ตอนแรกที่ Huawei เปิดตัว P8 ออกมาและดูจากสเปกแล้ว ผมเข้าใจว่ามือถือรุ่นนี้จะอยู่ในกลุ่มเรือธงหรือ flagship สู้กับมือถือเรือธงค่ายอื่นๆ แต่จากการวัดประสิทธิภาพด้วยแอพ benchmark ยอดนิยมเทียบคะแนนแล้วพบว่า ผมเข้าใจผิดถนัด เพราะจากคะแนนของ Antutu และ Geekbench 3 นั้น Huawei P8 ไม่อาจจัดอยู่ในกลุ่มเรือธงได้เลย สำหรับผมแล้วมือถือรุ่นนี้น่าจะอยู่ในกลุ่มใหม่ที่เรียกว่า Super Mid-range ซะมากกว่า คืออยู่ตรงกลางระหว่างมือถือตลาดกลางและมือถือเรือธงนั่นเอง และดูจากราคาขายที่ 15,990 บาทก็พอจะบอกตรงนี้ได้เช่นกัน

Huawei-P8-Performance-01.png

Antutu Benchmark

 

Huawei-P8-Performance-02.png

Geekbench 3

 

แต่อย่างที่บอกคะแนนไม่ได้เป็นตัวบอกว่า มือถือใช้งานได้ดีหรือไม่ดี เหมาะหรือไม่เหมาะแค่ไหน สิ่งที่มันทำได้คงเป็นการบอกแนวโน้มและจัดกลุ่มระดับมือถือเท่านั้น ซึ่งจากการใช้งานจริงพบว่า Huawei P8 ทำงานได้อย่างไหลลื่น ใช้งานไม่มีสะดุด การใช้งานทั่วไป เช่น เล่นอินเตอร์เน็ตและ Social Network ดูหนังหรือฟังเพลง ล้วนทำได้ดีทั้งหมด สิ่งเดียวที่จะแยกให้เห็นประสิทธิภาพของมือถือระดับนี้คงจะเป็นเรื่องเกมส์ที่ใช้ภาพ 3 มิติ ผมได้ลองทดสอบเกมส์ 2 เกมส์คือ Alphalt 8 และ Marvel Future Fight ก็พบว่าสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุดเช่นกัน ถ้าอย่างนั้นก็มองคะแนนให้เป็นแค่คะแนนพอครับ

Huawei-P8-Performance-03.png

 

หมายเหตุ: มีข้อมูลเพิ่มเติมจากเพื่อนสมาชิก @freedommylife แจ้งผลคะแนนจาก ROM เวอร์ชันใหม่ของ P8 ที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดหูผิดตาเลยครับ โดยถ้า run ด้วย Antutu คะแนนจะวิ่งไปถึง 45,xxx-47,xxx ได้เลยทีเดียว คงต้องรอทาง Huawei Thailand ปล่อย ROM เวอร์ชันนี้ออกมาอีกที ใครสนใจดูรายละเอียดได้ที่ comment นี้

 

สำหรับความอึดของ Huawei P8 นั้นด้วยแบตเตอรี่ 2680 mAh จากการใช้งานแบบปกติของผมเอง คือ เล่นอินเตอร์เน็ต, เช็คข่าว, เช็ค social network และดู youtube ผมว่าสามารถอยู่ได้ทั้งวัน พอกลับไปถึงบ้านก็ปรื่มๆแบตเตอรี่เหลือ 10% ถือว่าพอดีๆ ไม่อึดมาก

Huawei-P8-Performance-04.png

 

บทสรุป

Huawei P8 เป็นมือถือที่จัดว่าหรูหรา พรีเมียมทั้งในเรื่องวัสดุที่เลือกใช้และงานออกแบบตัวเครื่อง คุณภาพงานประกอบหายห่วง จัดว่าแน่นมาก ในเรื่องการถ่ายภาพก็สามารถทำได้ดีด้วยกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ไม่มากไม่น้อย และระบบกันสั่น OIS ก็ช่วยเรื่องถ่ายภาพสวยได้เยอะเลย ในส่วนของ Emotion UI 3.1 ที่ครอบอยู่บน Android 5.0 Lollipop ก็ทำงานได้ลื่นไหลไม่สะดุด ถึงแม้จะมีบางจุดที่ไม่สอดคล้องกันบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ส่วนเรื่องประสิทธิภาพถึงแม้คะแนนทดสอบออกมาดูน้อย แต่จากการใช้งานพบว่ายังคงลื่นไหลดี ไม่มีอาการกระตุกให้เห็น รวมไปถึงการเล่นเกมส์ 3 มิติด้วย Huawei P8 วางจำหน่ายแล้วในราคา 15,990 บาท มี 2 สีให้เลือกคือ สีทอง Mystic Champaign และสีเทาดำ Titanium Gray

Huawei P8 - End.jpg

 

และตอนนี้ Huawei P8 Premium Version รุ่นท็อปเรือธงที่แท้จริงของซีรีย์ P8 ได้วางจำหน่ายแล้วเช่นกันในราคา 17,990 บาท สิ่งที่แตกต่างจาก Huawei P8 รุ่นปกติคือ ใช้หน่วยประมวลผลรุ่นล่าสุด Hisilicon Kirin 935 ความเร็ว 2.2GHz ส่วน GPU เป็น Mali-T628 MP4 และมีการเพิ่มความจุ ROM เป็น 64GB เรียกว่าทั้งแรงทั้งคุ้มเลย ถ้ามีโอกาสได้รีวิวรุ่น Premium Version จะเอามาเล่าสู่กันฟังอีกทีครับ

Huawei P8 Premium.jpg