สวัสดีเพื่อนสมาชิก Droidsans ทุกท่าน หลังจากคราวที่แล้วได้โอกาส รีวิว Huawei P8 ไปให้ท่านสมาชิกได้อ่านกัน วันนี้ผมก็ได้เจ้าน้องเล็กในตระกูลอย่าง Huawei P8lite มาลองใช้งานและรีวิว ซึ่งจากการใช้ชีวิตอยู่กับ P8lite มาประมาณอาทิตย์กว่าก็ได้เวลามาเล่าให้เพื่อนสมาชิกกันแล้วล่ะ สำหรับ Huawei P8lite นั้นมีวางจำหน่ายแล้วในราคากลาง 7,990 บาท (ถูกกว่านี้ก็มี) มีจำหน่ายด้วยกัน 2 สีคือ ขาวและดำ มาดูรายละเอียดของ P8lite กันดีกว่าครับ


 

สำหรับ Huawei P8 series นั้นเป็นตระกูลของสมาร์ทโฟนที่มีอยู่ทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกันคือ P8max รุ่นพี่ใหญ่สุดทั้งขนาดและราคาที่ 18,990 บาท ถัดลงมาเป็น P8 premium อยู่ที่ 17,990 บาทและ P8 ธรรมดาที่ 15,990 บาท โดย P8 premium จะแตกต่างกับ P8 ตรงที่ใช้ CPU Kirin 935 ที่ใหม่กว่า, ROM เยอะกว่าที่ 64GB และตัวเครื่องสีทอง ราคาต่างกัน 2,000 บาทก็ดูสมราคาดีกับสิ่งที่ได้มา ส่วนพระเอกของเราในวันนี้คือ P8lite น้องเล็กสุดในตระกูลซึ่งจำหน่ายในราคา 7,990 บาท ห่างกับรุ่นพี่ลิบลับ แต่มันก็มีเหตุผลที่ P8lite ราคานี้ แต่สิ่งที่ P8lite ตอบแทนกลับมานั้นจะคุ้มค่าหรือไม่ มาลองติดตามกันครับ

huawei-p8lite-intro.jpg

 

ในกล่อง package มีอะไรบ้าง?

สำหรับรีวิวรอบนี้ไม่มีการแกะกล่องให้ดูนะครับ เพราะได้มาเพียงตัวเครื่องอย่างเดียว แต่ผมก็มีข้อมูลมาบอกกล่าวได้ว่าในกล่องที่ขายจริงนั้นจะมีอะไรบ้าง ซึ่งก็มีดังนี้

  • ตัวเครื่อง Huawei P8lite

  • ตัว Adaptor สำหรับชาร์จ

  • สายเคเบิ้ล USB

  • หูฟัง smalltalk 3.5 มม

  • คู่มือการใช้งาน

 

สเปคของ Huawei P8lite

  • ชื่อและรหัสเครื่อง: Huawei P8lite (ALE-L02)

  • สัดส่วน: 143 x 170.6 x 7.7 มิลลิเมตร

  • น้ำหนัก: 131 กรัม (รวมแบตเตอรี่)

  • หน้าจอ: IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD 1280 x 720 พิกเซล (294 ppi)

  • เครือข่ายที่รองรับ:

    • 4G FDD LTE : 2100/1800 (รองรับทุกเครือข่ายในประเทศไทย)

    • 3G : HSPA 850/900/1700/1900/2100 (รองรับทุกเครือข่ายในประเทศไทย)

    • 2G : GSM 850/900/1800/1900

  • SIM: 2 SIM โดย SIM1 เป็น Micro-SIM ส่วน SIM2 เป็น Nano-SIM

  • CPU: Hisilicon Kirin 620 Octa-core 1.2GHz

  • GPU: Mali-450 MP

  • RAM: 2 GB

  • หน่วยความจำภายใน: 16 GB (เพิ่ม microSD card ได้ที่ช่อง SIM 2)

  • กล้องหน้า: 5 ล้านพิกเซล

  • กล้องหลัง: 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชแบบ Dual-LED

  • แบตเตอรี่: 2,200 mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้)

  • OS: Android 5.0.1 Lollipop พร้อม Emotion UI 3.1

  • NFC: ไม่มี

  • OTG: ไม่มี

  • การเชื่อมต่ออื่นๆ:

    • Wi-Fi 2.4GHz b/g/n พร้อม Wi-Fi Direct support

    • Bluetooth 4.0

    • GPS/A-GPS/Glonass

    • USB 2.0

    • หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

  • เซ็นเซอร์:

    • ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)

    • ระบบเปิดปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity sensor)

    • ระบบปรับความสว่างหน้าจอ (Ambient light sensor)

    • เข็มทิศระบบดิจิตอล (Compass)

 

งานออกแบบตัวเครื่อง

Huawei P8lite จัดเป็นมือถือระดับกลางค่อนมาทางราคาถูกหน่อยๆ และด้วยราคาที่ต่างจากรุ่นพี่ P8 ถึง 8,000 บาท จะให้มาใช้วัสดุพรีเมียมเป็นโลหะ Unibody เหมือนรุ่นพี่ๆคงจะไม่ได้ ดังนั้น P8lite จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกและทำให้มันน้ำหนักเบาพอสมควร โดยมีน้ำหนักเพียง 131 กรัม จับถือสบายเพราะว่าเบามาก ส่วนขอบด้านข้างของตัวเครื่องก็เป็นพลาสติกชุปโครเมียมทำให้ดูพรีเมียมขึ้นมานิดนึง

huawei-p8lite-design01.jpg

 

ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีพอร์ต USB อยู่ตรงกลาง ส่วนซ้ายขวามีช่องที่เหมือนจะเป็นลำโพงสเตอริโอ แต่จริงๆเป็นลำโพงเพียงด้านเดียวคือด้านซ้าย ส่วนด้านขวาเป็นช่องไมค์สำหรับสนทนาครับ

huawei-p8lite-design02.jpg

 

ด้านบนของตัวเครื่องจะมีรูเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และไมค์ตัวที่สองเพื่อตัดเสียงรบกวนระหว่างสนทนา

huawei-p8lite-design03.jpg

 

ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มปรับเสียง และปุ่ม Power อยู่ ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องถาดซิม 2 ช่อง เพราะรุ่นนี้รองรับ 2 ซิมครับ ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่องจะโล่งๆ ตามมาตรฐานของมือถือ Android ทั่วไป
huawei-p8lite-design04.jpg

 

พอเราจิ้มถาดซิมทั้ง 2 อันออกมาก็จะเป็นดังรูปโดยซิมล่างคือ SIM 1 เป็น Micro-SIM ส่วนด้านบนจะเป็นถาดแบบ Hybrid คือ ใส่ SIM 2 ซึ่งเป็น Nano-SIM ได้ หรือจะใส่เป็น microSD card แทนก็ได้ แต่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง

huawei-p8lite-design05.jpg

 

พลิกมาดูด้านหน้าจะเห็นว่า P8lite ติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้ว โดยจะมีช่องลำโพงสนทนาและกล้องหน้าอยู่ข้างกัน ส่วนช่องที่เว้ามุมบนซ้ายเป็นพวกเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น เซ็นเวอร์วัดแสง และ Proximity sensor ในขณะที่ทางซ้ายสุดจะเป็นไฟแจ้งเตือนหรือ Notification LED นั่นเอง

huawei-p8lite-design06.jpg

 

ส่วนล่างของหน้าจอที่เป็นแถบสีดำทึบพร้อมโลโก้ Huawei แต่ไม่มีปุ่มอะไร เพราะ P8lite ใช้ปุ่มแบบ On-screen ทั้งหมด

huawei-p8lite-design07.jpg

 

ด้านหลังของตัวเครื่องจะเป็นพลาสติกสีดำลายตัดขวาง ทำให้จับได้กระชับมือไม่ลื่นง่าย และช่วยลดรอยนิ้วมือได้ด้วย ส่วนบนจะช่องของพลาสติกสีดำทึบพร้อมติดกันรอยมาให้เรียบร้อย สำหรับช่องพลาสติกนี้จะมีกล้องหลังและไฟแฟลชอยู่ด้วย

huawei-p8lite-design08.jpg

 

โดยรวมงานออกแบบของ Huawei P8lite ก็ยังคงเป็นไปตามเอกลักษณ์ของ P8 series รุ่นอื่นๆ ถึงแม้จะใช้วัสดุไม่เหมือนคนอื่นเค้าก็ตาม การจัดวางตำแหน่งของส่วนประกอบต่างๆและการเว้นช่องรอบๆตัวเครื่องก็เหมือนกับรุ่นพี่แบบเป็ะๆ ยกเว้นความหนาที่หนากว่ารุ่นพี่พอสมควร

huawei-p8lite-design09.jpg

 

มาที่ Software กัน

Huawei P8lite มาพร้อม Emotion UI 3.1 หรือเรียกสั้นๆว่า EMUI 3.1 ที่ทำงานอยู่บน Android 5.0 1 Lollipop เหมือนกับรุ่นอื่นๆใน P8 series ซึ่ง EMUI เป็นของ Huawei เองที่มีการปรับแต่งหน้าตาซอฟต์แวร์ในตัวเครื่องแบบไม่เหลือเค้า Android เดิมๆเลยครับ สำหรับ EMUI 3.1 นั้นเตรียมฟีเจอร์มาให้ผู้ใช้ใช้งานได้ครบครัน ทั้งตัว Custom App ที่ทำขึ้นมาเอง, Themes และชุด Icon แบบต่างๆ, Widget และ Wallpaper มีให้ download ใช้งานมากมาย ผมขอว่ากันไปเป็นหัวข้อดังนี้

 

Launcher และ Theme

Launcher ของ Emotion UI 3.1 นั้นเหมือนกับของมือถือจากผู้ผลิตจีนหลายๆเจ้าที่เลือกตัด App Drawer ออกไป โดย App ทุกตัวที่ติดตั้งในเครื่องจะถูกวางลงบนหน้า Homescreen ทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่มีการจัดเรียง App แบบเรียงตามตัวอักษรหรือแบบอื่น ทำได้แค่เรียง App ให้ชิดกันในหน้าของตัวเองโดยอาศัยการเขย่าเครื่อง ถ้าอยากจัดดกลุ่ม App ก็สร้าง folder เอาเองได้ครับ

huawei-p8lite-software01.png

 

บนหน้า Homescreen นั้นก็มีลูกเล่น gesture ให้เราเรียกใช้งานได้ เช่น การลากนิ้วจากบนลงล่างเพื่อค้นหาภายในเครื่อง (Local Search) ซึ่งสามารถค้นหาชื่อ App, รายชื่อ Contact, ข้อความ sms และค้นหาแบบออนไลน์บนอินเตอร์เน็ตได้ ตรงนี้เหมือนกับของ iOS ซึ่งผมถือว่ามีประโยฃน์ที่ Huawei เลือกเอามาใส่ หรือเรายังสามารถ กดปุ่ม Recent ค้างไว้เพื่อย้อนกลับไป App ที่ใช้งานก่อนหน้านี้ได้ด้วย นอกจากนั้นหากหน้า Homescreen มีไอคอนของ App วางสะเปะสะปะก็สามารถเขย่าเครื่อง 1 ทีในตอนจัดเรียงหน้าจอ เพื่อให้ระบบจัดเรียง App ให้อัตโนมัติ

huawei-p8lite-software02.png

 

ในหน้า Recent apps หรือ Task manager นอกจากเราจะสามารถสั่งปิด App ได้ด้วยการปัด App นั้นทิ้งขึ้นไปข้างบน เรายังสามารถสั่งปิด App ทั้งหมดได้ด้วยการลากจากตรงกลางด้านล่างขึ้นมา จะเห็นเป็นรูปถังขยะแล้วปล่อย ก็จะเป็นการปิด App ทั้งหมดครับ

huawei-p8lite-software03.png

 

สำหรับ Theme นั้นมีติดมากับเครื่อง 4 แบบคือ Magazine, Music light, livelihood และ CARE FOR LOVE 3 ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบของ icon, font, wallpaper และ lockscreen ตาม theme นั้นๆ นอกจากใช้ตามรูปแบบของ theme เรายังสามารถเอาของจากแต่ละ theme มาผสมกันได้ตามใจอีกด้วย ถ้ายังไม่พอก็ยังมี Theme สวยๆให้ download กันมากมายก่ายกอง แต่ละอันก็ไม่ธรรมดาเลยล่ะครับ

huawei-p8lite-software04.png

 

huawei-p8lite-software05.png

huawei-p8lite-software06.png

huawei-p8lite-software07.png

 

App หลักของ P8lite

Emotion UI ของ Huawei นั้นมีการปรับหน้าตาของ App หลักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Calendar, Messaging, Browser, Gallery, Contacts และ Dialer ไปพอสมควร ลองมาดูว่าเป็นยังไงบ้างครับ

 

Gallery จะมีการเรียงรูปเป็น Timeline ในแนวตั้ง สามารถเลื่อนดูรูปตามวันเวลาที่ถ่ายได้ และยังแบ่งกลุ่มตามสถานที่ที่ถ่ายได้ด้วย หรือถ้าถนัดแบบเดิมก็เลือกที่ Albums เพื่อเปิดดูรูปตาม folder ในเครื่องก็ได้ครับ

huawei-p8lite-software08.png

 

Calendar มีการปรับหน้าตานิดหน่อยให้ดูเรียบๆ แต่ก็ยังคงฟีเจอร์เหมือนเดิม จะดูนัดหมายตามเดือน, อาทิตย์ หรือตามวันก็ได้

huawei-p8lite-software09.png

 

Clock แอพนาฬิกาทำออกมาได้ดูดี ดูทันสมัย สำหรับฟีเจอร์ก็ยังครบเหมือนเดิมทั้งตั้งปลุก, จับเวลา หรือดูเวลาต่างประเทศ

huawei-p8lite-software10.png

 

File manager หน้าแรกจะจัดกลุ่มไฟล์ตามประเภทต่างๆให้เราเห็นชัดเจน ทั้งรูปภาพ, วิดีโอ หรือเพลง และยังบอกพื้นที่ที่ถูกใช้งานไปแล้วและที่ยังใช้ได้อยู่ด้วย หรือถ้าเราถนัดแบบเก่าที่ดูตาม folder ก็เลือกที่ Local ได้เช่นกัน นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ Safe ที่เอาไว้เก็บไฟล์ลับเฉพาะที่ต้องใช้รหัสผ่านเวลาเข้าได้ด้วย

huawei-p8lite-software11.png

 

Lockscreen

ตัว Lockscreen ของ EMUI 3.1 นั้นเรียกว่า Magazine จะมีการใช้งานที่แปลกไปจาก Lockscreen มาตรฐานของ Android โดยการปลดล็อคหน้าจอทำได้ทั้งการ swipe, ใช้รหัส pin และ Smart Unlock เหมือน Android พื้นฐาน แต่การแสดง Notification บนหน้า lockscreen นั้นปกติของ Android เวลาปัดการแจ้งเตือนไปด้านข้างจะเป็นการปัดทิ้ง แต่ของ EMUI 3.1 จะเป็นการปลดล็อคแล้วเข้าไปยัง App ตัวนั้นเลยเหมือนของ iOS แต่เราก็สามารถเปลี่ยน lockscreen ไปใช้รูปแบบเดิมได้ผ่านทาง Theme เช่นกัน ก็เปลี่ยนเอาตามใจชอบละกัน

huawei-p8lite-software12.png

 

Notification Center

P8lite จะมีระบบ Notification Center ให้เราสามารถจัดการการแจ้งเตือนจาก App ต่างๆที่ติดตั้งในเครื่องได้ (ยกเว้น App ของ Google) โดยสามารถกำหนดว่าจะให้ App แจ้งเตือนได้หรือไม่ และแจ้งเตือนไปส่วนไหนได้บ้าง ได้แก่

  • Status bar หรือส่วน Notification shade

  • Banners หรือ Toast notification ที่จะห้อยลงมาจากด้านบนหน้าจอ

  • Lock screen คือการแจ้งเตือนบนหน้า Lock screen

huawei-p8lite-software13.png

 

Protected Apps

เอาไว้จัดการ App กินแรงและกินแรมเครื่องซึ่งส่วนใหญ่มักทำงานอยู่เบื้องหลัง ถ้าจะว่าไปปกติแล้วระบบ Android จะมีการจัดการตรงนี้เองโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่การที่มี Protected Apps มาช่วยเพิ่มเติมก็ทำให้เลือกจัดการได้ละเอียดมากขึ้น โดยเลือกได้เองว่าจะให้ App ไหนทำงานหรือไม่ทำงานอยู่เบื้องหลัง

huawei-p8lite-software14.png

 

Smart Assistance

เป็น section หนึ่งในส่วนของ Settings ที่รวมเอาการจัดการฟีเจอร์พิเศษของ EMUI 3.1 ไว้ด้วยกัน ดังนี้

huawei-p8lite-software15.png

 

Motion Control เปิดให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมของโทรศัพท์ได้เวลาคว่ำหน้าจอ, การเขย่ามือถือเพื่อจัด icon และ widget บนหน้า Homescreen รวมไปถึง gesture ยอดนิยมอย่าง แตะสองทีเพื่อเปิดหน้าจอ (Double touch) และ การวาดตัวอักษรบนหน้าจอเพื่อเปิด app ที่ต้องการ (Draw)

huawei-p8lite-software16.png

 

Navigation bar เราสามารถปรับเปลี่ยนปุ่ม Softkeys ที่อยู่ด้านล่างหน้าจอได้ด้วยการจัดเรียงลำดับใหม่หรือเพิ่มปุ่มเปิดแถบ Notification Shade ลงมาได้

huawei-p8lite-software17.png

 

One-hand UI สำหรับคนมือเล็กหรือนิ้วสั้นสามารถเปิด One-hand UI เพื่อใช้งานมือเดียวได้ถนัดมากขึ้น โดยเมื่อเราเอานิ้วปาดตรงแถบปุ่มด้านล่างจะไปซ้ายหรือขวาแล้วแต่ถนัด หน้าจอจะย่อเล็กลงให้สามารถใช้งานมือเดียวง่ายขึ้น หรือใช้การดันตัวคีย์บอร์ดไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อใช้งานมือเดียวได้ง่ายขึ้น

huawei-p8lite-software18.png

 

Simple Mode

โหมดนี้มีมากับมือถือ Huawei เกือบทุกรุ่น ซึ่งเป็นโหมดที่ลดความซับซ้อนบนหน้าจอออกให้สามารถใช้งานได้ง่าย เข้าถึงฟีเจอร์หลักๆได้รวดเร็ว ไม่ต้องมานั่งจัดนู่นจัดนี่บน Homescreen เหมาะสำหรับคนชอบอะไรง่ายๆ หรือผู้ใหญ่ที่ไม่ถนัดใช้งาน Homescreen ที่ซับซ้อน ชอบการใช้งานแบบมือถือ feature phone สมัยก่อนมากกว่า ซึ่ง Simple Mode จะมาตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้กลุ่มนี้

huawei-p8lite-software19.png

 

Phone Manager

ศูนย์รวมการจัดการขยะ, เคลียร์ RAM, ระบบประหยัดพลังงาน, การตรวจผิด App ผิดปกติ, การจัดการสิทธิ์ของ App ภายในเครื่อง และการล็อค App ไว้ด้วยรหัสผ่าน นี่ถือเป็นศูนย์รวมการจัดการมือถือ P8lite เลยทีเดียว

huawei-p8lite-software20.png

huawei-p8lite-software21.png

 

ระบบ 2 SIM

การจัดการระบบ 2 SIM นั้นอยู่ในเมนู Dual card management ซึ่งเราสามารถเลิกเปิดปิด SIM ที่ไม่ใช้งานได้ผ่านหน้านี้ โดยไม่จำเป็นต้องถอดซิมนั้นออกเลย นอกจากนั้น P8lite ยังรองรับ 4G/3G ทั้ง 2 SIM แต่เราต้องเลือกใช้ SIM ใด SIM หนึ่งเท่านั้น เพราะเป็นระบบ Dual standby เช่น ถ้าเลือกว่า SIM1 เป็น 4G/3G แล้ว SIM2 จะกลายเป็น 2G ทันที ทั้งนี้ทั้งนั้นเราสามารถมาสลับ SIM ใช้งานได้ในเมนูนี้ตลอดเวลา

huawei-p8lite-software22.png

 

โดยรวมการใช้งาน EMUI 3.1 ของ Huawei P8lite นั้นไม่ได้แตกต่างไปจากรุ่นพี่อย่าง P8 และ P8max สักเท่าไหร่ จะมีก็เพียงบางฟีเจอร์ที่ถูกตัดออกไปเท่านั้น เรียกว่าถึงแม้จะเป็นรุ่นเล็กราคาถูกแต่ฟีเจอร์ก็ยังจัดมาให้อย่างครบครันเลยทีเดียว

 

กล้องถ่ายรูป

huawei-p8lite-camera01.png

Huawei P8lite มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมโหมดการถ่ายภาพอีกพอประมาณ สำหรับ UI ของกล้องนั้นก็ดูคุ้นๆอยู่เหมือนกัน โดยเราสามารถปัดซ้ายปัดขวาเพื่อเปลี่ยนไปเป็นโหมด Beauty, Video หรือ Time-lapse ได้ นอกจากนั้นยังสามารถเลือกใส่ filter ให้กับรูปภาพในขณะที่ถ่ายรูปได้เลย เมื่อกดที่ปุ่ม setting (เครื่องหมาย 3 ขีด) จะมีโหมดย่อยมาให้เล่นเพิ่มเติมอีกดังนี้

  • HDR: ถ่ายภาพหลายๆสภาพแสงแล้วจับมารวมกันเป็นภาพเดียว

  • Best photo: ถ่าย 10 ภาพต่อเนื่อง แล้วเลือกภาพที่ดีที่สุด

  • Audio note: ถ่ายรูปพร้อมบันทึกเสียงได้ 10 วินาที

  • Panorama: ถ่ายภาพ Panorama

  • All-focus: ถ่ายภาพแบบ focus หลายๆจุดให้แล้วมาเลือกจุกโฟกัสได้ทีหลัง

  • Watermark: ถ่ายภาพแบบติดลายน้ำเก๋ๆ เช่น สภาพอากาศ, ชื่อสถานที่ หรือคำพูดเก๋ๆ

huawei-p8lite-camera02.png

huawei-p8lite-camera03.png

ตัวอย่าง Watermark

 

จะเห็นว่ารุ่นเล็กอย่าง P8lite นั้นไม่มีโหมด Light painting เหมือนกับรุ่นพี่ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะความสามารถกล้องยังไม่ถึงขนาดนั้น โหมดที่มีให้เล่นก็ยังถือว่าใช้ได้อยู่ ส่วนคุณภาพของภาพถือว่า “น่าพอใจ” สำหรับมือถือราคาเพียงเท่านี้ ลองมาดูรูปตัวอย่างกันครับ

 

อัลบั้มตัวอย่างภาพ

 

สำหรับวิดีโอนั้น P8lite สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ความละเอียด FullHD 1080p 30fps แต่ต้องไปปรับค่าใน setting ของกล้องด้วยนะครับ เพราะค่า default นั้นเป็น 720p เท่านั้น

Play video

 

กล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีโหมด Beautify เอาไว้สำหรับทำหน้าเนียน หน้าขาว และหน้าตอบครบสูตรกล้อง selfie

 

 

ประสิทธิภาพและความอึด

สำหรับประสิทธิภาพของ Huawei P8lite นั้น ด้วย CPU Kirin 620 และ GPU Mali-450 MP เมื่อทำการทดสอบประสิทธิภาพด้วย benchmark app ยอดนิยม ถือว่าประสิทธิภาพอยู่ในระดับมือถือ Mid-range ตามมาตรฐาน โดยคะแนนของ Antutu Benchmark, Geekbench 3 และ 3DMark : Ice Storm Ulimited เป็นดังในรูป

huawei-p8lite-performance01.png

Antutu Benchmark

 

huawei-p8lite-performance02.png

Geekbench 3

 

huawei-p8lite-performance03.png

3DMark : Ice Storm Unlimited

 

ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่ได้ตั้งความหวังอะไรกับการเล่นเกมส์ 3 มิติบนมือถือเครื่องนี้ คิดว่าน่าจะ “แค่พอเล่นได้” กระตุกหน่อยๆ แต่พอได้ลองทดสอบเล่นจริงๆ ด้วย Nova 3 และ Marvel Future Fight ความคิดผมก็เปลี่ยนไป เพราะ P8lite สามารถจัดการเกมส์พวกนี้ได้สบาย เล่นได้ลื่นๆเลย เลยมานั่งคิดหาเหตุผลเองว่า หน้าจอความละเอียด 720p น่าจะเป็นส่วนช่วยให้ประสิทธิภาพโดยรวมออกมาดีขนาดนี้

huawei-p8lite-performance04.png

 

นี่ขนาดเกมส์ 3 มิติยังรับมือได้สบาย การใช้งานทั่วไปคงไม่ต้องพูดถึงว่า “ลื่นมาก” ขนาดไหน ลื่นจริงจังเลยล่ะ ใช้งานสนุกไม่มีสะดุดมือเลย น่าแปลกใจมากๆ แนะนำว่าให้ลองไปเล่นเครื่องโชว์ตามร้านพิสูจน์ดูได้เลย

 

huawei-p8lite-performance05.png

สำหรับเรื่องความอึดของแบตเตอรี่ขนาด 2,200 mAh ใน P8lite นั้น ต้องบอกว่า “ไม่อึดมาก แต่ก็ไม่ขี้เหร่” การใช้งานทั่วไปต่อวันนั้นสามารถอยู่ได้ครบวัน พร้อมชาร์จต่อก่อนนอนได้พอดี ถ้าเอาไปเล่นเกมส์ก็คงลดมากกกว่านี้

 

บทสรุป

Huawei P8lite นั้นจัดเป็นมือถือเล็กพริกขี้หนูจริงๆ ถึงแม้จะเป็นรุ่นเล็กสุดในตระกูล P8 แถมมีความว่า lite ต่อท้ายชื่ออีก อาจจะทำให้หลายคนมองข้ามมือถือรุ่นนี้ไป แต่จากการรีวิวแล้วผมคิดว่าด้วยสเปคต่อราคาและประสิทธิภาพที่ได้นั้นจัดว่า “คุ้มค่าเงิน” 7,990 บาทที่จ่ายไปเป็นค่าตัวของมือถือรุ่นนี้แน่นอน แต่อีกด้านหนึ่งหากมองมือถือคู่แข่งที่อยู่ในราคาระดับเดียวกัน P8lite อาจจะต้องฝ่าฟันอีกหลายเจ้าเลย ทั้ง ASUS, Alcatel, Lenovo หรือแม้กระทั่ง Xiaomi อันนี้คงต้องให้ท่านที่สนใจลองพิจารณาเปรียบเทียบดูเอง เอาเป็นว่า ถ้าชอบมือถือ Huawei รุ่นนี้เป็นรุ่นหนึ่งที่น่าซื้ออยู่เหมือนกันครับ Huawei P8lite มีวางจำหน่าย 2 สีด้วยกันคือ ขาวและดำ ส่วนตัวผมชอบสีดำมากกว่า ส่วนราคาก็ 7,990 บาท หาซื้อได้ตามร้านมือถือชั้นนำทั่วไปแล้ววันนี้ ส่วนผมขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

huawei-p8lite-end.JPEG