แม้ว่าจะหาข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐ ฯ เรื่องใบอนุญาติการใช้งาน Google Mobile Services ไม่ได้ แต่ล่าสุด Huawei ยังคงเปิดตัวมือถือสเปคคุ้มรุ่นใหม่อย่าง P30 Lite New Edition ออกมา ซึ่งเป็นมือถือรุ่นปัดฝุ่นอัพเกรดสเปคบางอย่างเข้าไปให้ทันสมัยขึ้นจากรุ่นเดิม โดยที่ยังสามารถใช้งานแอปและบริการต่างๆ ของ Google ได้อย่างเต็มรูปแบบ

Huawei P30 Lite New Edition มีสเปคและฟีเจอร์โดยรวมคล้ายกับ P30 Lite ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมปี 2019 แทบทุกอย่าง โดยชิปเซ็ตยังคงใช้ Kirin 710, มีกล้องหลัง 3 ตัว, RAM 6GB และแบตเตอรี่ 3,340 มิลลิแอมป์ รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 18 วัตต์ เหมือนเดิม ซึ่งสเปคของมือถือทั้ง 2 รุ่นนี้ ถ้าเอามาเปรียบเทียบกันแบบตัวต่อตัวว่ามีอะไรต่างกันบ้าง ก็จะได้ออกมาดังนี้

สเปค Huawei P30 Lite / P30 Lite New Edition

Huawei P30 Lite เก่าHuawei P30 Lite New Edition
หน้าจอLCD ขนาด 6.15 นิ้ว ความละเอียด Full HD+LCD ขนาด 6.15 นิ้ว ความละเอียด Full HD+
ชิปเซ็ตKirin 710Kirin 710
GPUMali-G51Mali-G51
RAM6GB6GB
ความจุ128GB256GB
กล้องหลัง Wide 24MP (f/1.8) + Ultra Wide 8MP (f/2.4) + Depth Sensor 2MP (f/2.4)Wide 48MP (f/1.8) + Ultra Wide 8MP (f/2.4) + Depth Sensor 2MP (f/2.4)
กล้องหน้าความละเอียด 32MP (f/2.0)ความละเอียด 32MP (f/2.0)
แบตเตอรี่3,340 mAh รองรับชาร์จไว 18W3,340 mAh รองรับชาร์จไว 18W
ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0Android 9 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.1

 

สำหรับสเปคและฟีเจอร์ของ P30 Lite New Edition ที่มีการอัพเกรดขึ้นจากรุ่นเดิม ก็จะมีทั้งกล้องหลักจากเดิมความละเอียด 24 ล้านพิกเซล อัพเกรดเป็น 48 ล้านพิกเซล, ความจุจากเดิมที่ 128GB อัพเกรดเป็น 256GB และจากเดิมที่ใช้ระบบ EMUI 9.0 ก็จะได้อัพเกรดเป็น EMUI 9.1 มาตั้งแต่ในกล่องเลย

Huawei P30 Lite New Edition เริ่มวางจำหน่ายในประเทศอังกฤษแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปในราคา 299 ยูโร หรือราวๆ 10,100 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศอื่นๆ ในเดือนถัดไป

การที่ Huawei ออกมาเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นมือถือรุ่นเดิมที่ถูกนำมาอัพเกรดสเปคภายในนิดหน่อยแบบนี้ เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ Huawei สามารถเปิดตัวและวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เรื่อยๆ โดยที่ผู้ใช้งานยังคงสามารถเข้าถึง Google Mobile Services ได้เหมือนเดิม แต่อย่างไรก็ดี Huawei คงไม่สามารถใช้วิธีแบบนี้ได้ตลอดไป เพราะถึงยังไงภายใน 1 ปี (หรือน้อยกว่านั้น) สเปคของมือถือเหล่านั้นก็จะต้องตกรุ่นอยู่ดี แม้ว่าจะพยายามอัด RAM หรือหน่วยความจำให้มากกว่าเดิมซักแค่ไหนก็ตาม

ก็คงต้องรอดูกันต่อไปครับว่าสุดท้ายจะเป็นยังไงต่อไป…Huawei จะสามารถเจรจาคืนดีกับรัฐบาลสหรัฐฯ กรณีสงครามการค้า หรือ Trade War เพื่อกลับมาใช้ GMS เหมือนเดิมได้ไหม หรือพวกเขาจะพยายามดัน Huawei Mobile Services ให้ขึ้นมาได้แบบเต็มตัว

 

source: gsmarena