ที่งาน World AI Conference ในจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จาง ผิงอัน ซีอีโอของ Huawei Cloud ขึ้นเวทีกล่าวปาฐกถา เกี่ยวกับเป้าหมายของจีนและ HUAWEI ให้การก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่กีดกันไม่ให้ HUAWEI เข้าถึงเทคโนโลยีและชิป AI ขั้นสูงนั้น เป็นอุปสรรคต่อแผนการข้างต้นจริง แต่ก็เชื่อว่า HUAWEI แข็งแกร่งพอจะผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ โดยพึ่งพาเทคโนโลยีในประเทศเป็นหลัก

ทางสหรัฐฯ พึ่งยกระดับการแบน HUAWEI ไปอีกขั้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้ NVIDIA ต้องหยุดขายชิป NVIDIA A100 ให้กับบริษัทคู่ค้าในจีนหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ Baidu ซึ่งบริษัทเหล่านี้แก้เกมด้วยการหันไปใช้บริการชิป Ascend 910B ของ HUAWEI แทน ถึงจะมีประสิทธิภาพไม่เทียบเท่าก็ตาม

ภาพจาก HUAWEI

ขณะเดียวกัน จางบอกว่า HUAWEI ไม่สามารถพึ่งพาเพียงชิป AI ขั้นสูงให้เป็นรากฐานขั้นสุดท้ายสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI และการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน AI ได้ หากใครก็ตามที่ยังยึดติดกับมุมมองแบบนี้อยู่ ก็ต้องเปลี่ยนความคิดซะใหม่ โดยจางมองว่า แนวทางเชิงนวัตกรรมที่เน้นไปที่คลาวด์มากขึ้น รวมถึงโซลูชันเครือข่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง คือทางออกที่จะช่วยชดเชยการขาดแคลนชิป AI ขั้นสูงในอนาคต

แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า โรงงาน SMIC ของจีน มีอัตราการผลิตชิป Ascend 910B สำเร็จเพียง 20% ซึ่งถือว่าต่ำสุด ๆ กล่าวคือ ผลิตออกมา 10 ตัว เป็นชิปเสียที่ใช้งานไม่ได้ไปแล้วร่วม 8 ตัว โดยสาเหตุมาจากการที่ SMIC ใช้เครื่อง DUV ในการผลิตแทนเครื่อง EUV ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ (จากการโดนคว่ำบาตร)

แม้ในมุมของ HUAWEI จะแสดงออกถึงความมั่นใจ แต่ในมุมของต่างชาติ คงอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า HUAWEI จะสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้ได้หรือไม่ และด้วยวิธีไหน ทั้งในแง่ของการขึ้นเป็นผู้นำ AI ก็ดี หรือจำนวนการผลิตชิป Ascend 910B ที่ตอนแรกตั้งเป้าไว้ 500,000 ชิปต่อปีก็ดี

ที่มา : Reuters | TrendForce