ดูเหมือนว่าจีนจะพยายามหาทางออกในเรื่องของการผลิตชิปเซ็ตใช้งานเองไม่ได้ให้กับตัวเอง หลังมีข้อมูลออกมาว่าตอนนี้มีบริษัทยักษ์ใหญ่กว่า 90 แห่งได้จับมือร่วมกันพัฒนาและสร้างโรงงานผลิตชิปเซ็ตของตัวเองขึ้นมา เพื่อลดการพึ่งพาจากบริษัทฝั่งตะวันตกให้มากที่สุด โดยหนึ่งในบริษัทจีนที่ว่ามีชื่อของ HUAWEI, Xiaomi และ SMIC ด้วย
SMIC โดนขัดขา มีโรงงานเหมือน TSMC แต่ทำไมถึงผลิตชิปเองไม่ได้
จริงๆ แล้วจีนก็มีโรงงานผลิตชิปเซ็ตของตัวเองนะครับ แถมเทคโนโลยีปัจจุบันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรอีกต่างหาก เพราะสามารถผลิตชิปเซ็ตได้ขนาดเล็กสุดที่ 14 นาโนเมตร ซึ่งถือว่าเอาไปใส่ไว้ในมือถือระดับกลางๆ ไปจนถึงรุ่นเริ่มต้นได้แบบสบายๆ โดยบริษัทที่ว่าก็คือ SMIC ที่รับผิดชอบผลิตชิป Kirin รุ่นล่างให้กับ HiSilicon บริษัทในเครือของ HUAWEI นั่นเอง
แต่ไม่นานมานี้พวกเขากลับโดนหางเลขไปกับ HUAWEI ถูกใส่ชื่อเข้าไปไว้ในบัญชีดำ (Entity List) ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นถือว่ามีค่าสำหรับตัวบริษัท SMIC มากๆ เพราะพวกเขายังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีนั้นในการผลิตชิปเซ็ตอยู่นั่นเอง ทำให้ตอนนี้นอกจากจะผลิตชิป Kirin ให้กับ HUAWEI ไม่ได้ ยังพาลไปถึงพวกเขาไม่สามารถผลิตชิปใดๆ ได้เลย เพราะเครื่องจักรแทบจะทั้งหมดยังใช้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ อยู่
บริษัทสัญชาติจีนแท็กทีม ร่วมกันพัฒนาและสร้างโรงงานผลิตชิปของตัวเอง ท้าชน TSMC และ Samsung
โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (Ministry of Industry and Information Technology) ออกมาเปิดเผยว่า ตอนนี้มีบริษัทในจีนกว่า 90 แห่ง ได้ยื่นเรื่องขอสร้างโรงงาน Semiconductor ของตัวเองขึ้นมา เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากฝั่งสหรัฐฯ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากสถานการณ์สงครามการค้า (Trade War) ตอนนี้ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ถือว่าอยู่ในจุดที่คุกรุ่นอยู่ไม่น้อย
แม้ว่าจริงๆ แล้วจีนแทบจะครองตลาดในทุกภาคส่วนของโลก แต่หากพิจารณาจริงๆ ในเรื่อง Semiconductor หรือชิปเซ็ต พวกเขายังถือว่าตามหลังสหรัฐฯ อยู่พอตัว สังเกตได้จากการโดนห้ามเข้าถึงเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาสหรัฐฯ ของ HUAWEI และ ZTE ที่ถือว่าส่งผลกระทบเป็นวงกว้างแบบจริงๆ ล่าสุด HUAWEI ถึงขนาดยอดขายหายไปเกือบๆ 50% เพราะว่าไม่สามารถหาชิ้นส่วนมาผลิตมือถือของตัวเองได้ตามจำนวนที่คาดหวังเอาไว้
ตอนนี้บริษัทจีนกว่า 90 แห่งที่ว่า มีชื่อของ HUAWEI, HiSilicon, Xiaomi, Datang, Unichip, Zhanruj, ZTE, SMIC และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งคาดว่าหากพวกเขาทำได้สำเร็จจริงๆ จีนก็น่าจะก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นในตลาด Semiconductor ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ เพราะยอมรับกันตามตรงว่า ศักยภาพและจำนวนคนของจีนนั้นไม่เป็นสองรองใครในโลกนี้เลย
ที่มา: gizchina
แจ่ม อยากให้มีการแข่งขันกันมาก มีนวัตกรรมใหม่ ๆ มาก ๆ เราผู้บริโภคจะได้มีทางเลือกเยอะ ไม่แน่อนาคตอาจมีสิ่งใหม่ ๆ ให้เราได้เห็นมากชึ้น
อันนี้ผลงานพี่ทรัมป์เขาน่ะ 555 บีบให้หมาจนกรอก ผลสุดท้ายหมาไม่ตาย และจะมากัดคืนในที่สุด
จาก Copy & Deploy จะเปลี่ยนเป็น Research & Development ในระยะเวลาสั้นๆได้มั้ยนะ?
.
.
.
.
.tb_button {padding:1px;cursor:pointer;border-right: 1px solid #8b8b8b;border-left: 1px solid #FFF;border-bottom: 1px solid #fff;}.tb_button.hover {borer:2px outset #def; background-color: #f8f8f8 !important;}.ws_toolbar {z-index:100000} .ws_toolbar .ws_tb_btn {cursor:pointer;border:1px solid #555;padding:3px} .tb_highlight{background-color:yellow} .tb_hide {visibility:hidden} .ws_toolbar img {padding:2px;margin:0px}
การผลิต Semiconductor แล้วไม่พึ่งพาเทคโนโลยีของอเมริกาเลยมันต้องย้อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน กลับไปเริ่มใกลมากๆๆๆๆๆๆ เพราะมันต้องเริ่มตั้งแต่อุปกรณ์ในการสร้างเครื่องมือผลิต สถาปัตยกรรมวงจรไฟฟ้าใหม่หมด ระบบปฏิบัติการก็ต้องใหม่ ไม่งั้นก็จะติดสิทธิบัตรยุ่งเหยิงไปหมด
SMIC ที่เพิ่งผลิต 14nm ได้ก็ใช้เทคโนโลยีอเมริกา จนสุดท้ายโดนแบน ก็ไม่สามารถผลิตอะไรได้เลย ขนาดการผลิตที่ 28nm 26nm ยังต้องได้รับอนุญาต ถึงจะผลิตได้
สงสัยคนที่อวบ คนที่เชียร์แบบหลับหูหลับตาเชียร์จริงๆ พิมพ์เขียวก็ของอเมริกาเกือบทั้งหมดแทบจะบิดไม่ได้แล้ว แล้วจะบอกทำเองได้อย่างไร นอกจากจะวิจับ พัฒนาทำซิปตัวใหม่ออกมาเลยที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลกนี้ซึ่งใช้เวลาอย่างน้อยๆ 30 ปีอัพแน่ๆจนสามารถใช้งานได้จริงได้หมายถึงเอามาใส่ในอุปกรณ์ต่างๆและขายได้นะ
แต่ชมจีนนะจีนเก่งไม่คิดว่าตัวเองเป็นผู้บริโภคอย่างเดียวเหมือนไทย เริ่มจากลอกมาก่อนยอมให้เขาด่า แล้วก็พัฒนามาจนเป็นเหมือนปัจจุบัน กลับมาดูประเทศเราไม่มีอะไรเลยนะเป็นผู้บริโภคอย่างเดียวอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างเช่นรถยนต์ เป็นต้น บ้านเรามีโรงงานผลิต มีบุคลากรที่เก่งนะแต่ขาดการสนับสนุน