Mobile Banking แอปพลิเคชั่นอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรสำหรับพวกเรา แต่ว่าสำหรับผู้พกพร่องทางการเห็น ทั้งคนตาบอด ผู้สูงอายุ และผู้มีสายตาเลือนรางแล้ว แอปประเภทนี้เป็นเรื่องที่ใหม่ไปเลยเพราะโดยมาก UI/UX จะไม่ถูกออกแบบมาเพื่อพวกเค้าสักเท่าไหร่ แต่วันนี้ทางกสิกรไทยได้ออก K PLUS Beacon ที่พัฒนาประสบการณ์ใช้งานเพื่อคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะมาแล้ว
โดยแอป K PLUS Beacon นี้เป็นแอปโมบายแบงกิ้งที่พัฒนาต่อยอดจากผลงานฟินเทคที่คว้า 2 รางวัลระดับโลก เพราะเป็นนวัตกรรมที่จะทำให้ผู้บกพร่องทางการเห็น (Visually Impaired) สามารถทำธุรกรรมการเงินผ่านมือถือได้อย่างสะดวกสบายและถูกต้องแม่นยำมากขึ้น จากเดิมแม้ว่าอาจจะพอใช้ได้แต่มีความยุ่งยากและอาจเกิดความผิดพลาดได้สูง เพราะหน้าจอแบนเรียบ ไม่มีปุ่ม จึงยากแก่การสัมผัสเพื่อกดสั่งงานนั่นเอง
K PLUS Beacon ฟีเจอร์ครบถ้วน ใช้งานได้แทบไม่ต่างจาก K PLUS
ความสามารถของ K PLUS Beacon จะมีดังนี้
- สอบถามยอด
- โอนเงิน
- จ่ายบิล
- เติมเงิน
- บันทึกรายการโปรด
- ดูประวัติการทำธุรกรรม
- เพิ่มบัญชีที่ต้องการ
แต่จะมีการทำงานที่เข้าใจง่ายขึ้นกว่าเดิม เพียงปัดซ้ายขวาเพื่อดูรายการต่างๆ แล้วลากลงเพื่อเลือกรายการนั้นๆ หรือลากขึ้นเพื่อกลับไปรายการก่อนหน้าได้
ในหน้าที่มีการใส่ข้อมูลสำคัญ เช่น ตัวเลขการโอน ก็จะมีการปรับ UI สำหรับยืนยันคำสั่ง โดยการลากลงแล้วค้างเป็นระยะเวลา 3 วินาทีแทน เพื่อป้องกันความผิดพลาดของการกดปุ่ม
ไอคอนสามารถตีความถึงรายการต่างๆได้ง่าย
ใส่สีจำแนกประเภทของรายการเพื่อความง่ายต่อการจดจำ
ไม่ต้องห่วงว่าใครจะรู้ว่าเราทำอะไรอยู่ เพราะเค้าสามารถกดปิดหน้าจอแล้วสั่งงานไปเรื่อยๆก็ได้
ตาบอดใช้ได้ คนแก่ใช้ดี
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า K PLUS Beacon นี้ไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อให้คนตาบอดใช้เท่านั้น แต่สำหรับผู้บกพร่องทางการมองเห็นทั้งหมด รวมถึงผู้สูงอายุด้วย ซึ่งถ้าเราถามผู้สูงอายุหลายๆคนจะบอกคล้ายๆกันว่าไม่อยากใช้งานแอปโมบายแบงกิ้ง เพราะแอปใช้งานยาก และดูวุ่นวาย (ตัวอักษรเล็ก เมนูดูไม่รู้เรื่อง) แต่สำหรับ UI/UX ใหม่ที่ดีไซน์มาสำหรับคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ บอกเลยว่าใช้งานง่ายขึ้นมาก และเข้าใจได้ไม่ยากเย็นอะไรเลย มีลำดับขั้นในการทำรายการชัดเจน ตัวอักษรใหญ่อ่านง่าย การันตีโดยคนตาบอดยังสามารถใช้งานได้อย่างสบายๆครับ
ทำไมถึงต้องทำแอปมาให้คนกลุ่มนี้?
คำตอบอย่างเป็นทางการของทาง กสิกรไทย ที่ได้ให้ไว้คือ คนทุกคนควรจะมีความเท่าเทียม สามารถใช้บริการของธนาคารได้อย่างทั่วถึง เปิดโอกาสให้กับผู้บกพร่องทางการเห็นสามารถทำธุรกรรมบนมือถือได้ไม่ต่างจากคนทั่วไป ซึ่งถ้าเราลองมองดูตัวเลขของประชากรที่เป็นกลุ่มเป้าหมายนี้
- คนตาบอดมากกว่า 2 แสนราย (ที่ลงทะเบียนกับทางสมาคมคนตาบอด)
- คนสูงอายุในเมืองไทย ที่จะมีมากกว่า 14 ล้านคนในปี 2020
ก็ต้องบอกว่าเป็นจำนวนที่เยอะมาก แต่กลับไม่ค่อยมีธนาคารไหนจริงจังกับการพัฒนาประสบการณ์ใช้งานให้ตอบสนองพวกเค้าได้เป็นอย่างดีสักเท่าไหร่ การขยับตัวของ KBank ในครั้งนี้ก็อาจจะเป็นการดึงให้ธนาคารรายอื่น รวมถึงแอปต่างๆตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาบริการของตัวเองให้รองรับลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้นได้
คุณอภิรัตน์ และผศ.ดร.ชูจิต แกนหลักในการพัฒนา K PLUS Beacon เพื่อคนตาบอด
และสำหรับคนตาบอดแล้ว ในสายตาของใครหลายคนอาจจะมองว่าพวกเค้าเป็นกลุ่มคนที่ต้องการการดูแลตลอดเวลา แต่ในทางกลับกัน พวกเค้ากลับเป็นกลุ่มคนที่ต้องการพึ่งพาตัวเองมากกว่าใคร เพราะเค้าไม่ต้องการเป็นภาระของสังคม ซึ่งหลายแอปในต่างประเทศก็มีการปรับ UI/UX และลงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆตาม Accessibility Guideline ให้รองรับผู้ใช้กลุ่มนี้อยู่แล้ว แต่ว่าแอปไทยจะยังไม่ค่อยให้ความสนใจส่วนนี้กันสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมีการริเริ่มแล้วก็น่าจะช่วยกระตุ้นตลาดให้สนใจส่วนนี้กันมากขึ้นได้ในระดับนึงครับ
น่าสนใจว่าคนตาบอดสามารถเล่น Facebook โพสต์ข้อความต่างๆได้ดีไม่ต่างจากคนทั่วไปเลย มีการติดต่อสร้างกรุ๊ป LINE กันขึ้นมาเพื่อแชร์ข้อมูลระหว่างกันด้วยนะ
สนใจใช้งาน K PLUS Beacon ต้องทำอย่างไร
สำหรับตัวแอปนี้กำลังอยู่ในช่วงการทดสอบสุดท้ายก่อนเปิดให้ใช้งานจริงนะครับ โดยทางธนาคารได้เปิดให้ผู้ที่สนใจทดสอบใช้งานลงทะเบียนเพื่อเป็น Beta Tester กันในช่วงวันที่ 16-24 พฤศจิกายนนี้ ผ่าน 3 ช่องทาง คือ K-Contact Center โทร 02-8888888 กด 866, เว็บไซต์ธนาคารที่ www.kasikornbank.com/KPLUS-Beacon และ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย โดยจะทำการคัดเลือกบุคคลทั้งคนตาบอด ผู้มีสายตาเลือนราง ผู้สูงวัย รวมถึงบุคคลทั่วไป รวมเป็นจำนวน 300 คน (ต่างจากภาพข้างบนนิดนึงนะครับ) จากนั้นจะเริ่มเปิดให้กลุ่ม Beta Tester นี้ได้เริ่มทดสอบ
โดยก่อนเริ่มใช้งานจะต้องไปลงทะเบียนอีกครั้ง ณ ธนาคารกสิกรไทย สาขาที่กำหนดไว้ 5 สาขา ได้แต่ สาขามาบุญครอง, สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สาขาบางขุนเทียน, สาขาดาวคนอง, และสาขาปิ่นเกล้า ตั้งแต่วันที่ 5-28 ธันวาคมนี้ และทดลองใช้เป็นระยะเวลา 3-6 เดือน ก่อนจะเปิดให้ทุกคนได้ใช้งานโดยทั่วไป
สำหรับคนที่ห่วงว่า K PLUS Beacon จะมีขนาดแอปที่ใหญ่มาก เพราะต้องมีการใช้เสียงแนะนำบอกการใช้งานตลอด แต่ในความเป็นจริงคือไม่ได้มีขนาดใหญ่อะไร เพราะเสียงเหล่านี้จะเป็นแบบ Synthesis (เสียงสังเคราะห์) จึงไม่กินพื้นที่แต่อย่างใดครับ และตัวโค้ดของมันเองแชร์บางส่วนจาก K PLUS มาใช้ได้เลย เรียกได้ว่าเป็นแค่ปรับ Interface บางส่วนเท่านั้น
ณ วันที่เปิดตัวทาง kbank ได้พาคนตาบอดจริงๆมาร่วมงานพร้อมทดสอบการใช้งานให้ดูด้วย ซึ่งแต่ละท่านต่างก็ชื่นชอบ K PLUS Beacon นี้กัน เพราะสำหรับคนตาบอดแล้วการที่เค้าสามารถทำธุรกรรมผ่านมือถือได้ ไม่ต้องเดินทางไปธนาคาร ผจญกับทางเท้าอันแสนอันตราย และมิจฉาชีพที่พวกเค้าไม่สามารถมองเห็นหรือระวังได้นั้น ถือเป็นเรื่องที่พวกเค้าดีใจมาก
รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่รัฐวางกระเบื้องทางเท้าสำหรับผู้พิการทางสายตาหรือ rubber tactiles แบบมั่วซั่ว และวางแบบไม่มีความรู้ ถ้าลองหลับตาเดินคงชนเสานั่นนี่ภายใน 10 ก้าวอะ ไม่ก็คงเดินลงพงหญ้าข้างทาง ไม่ก็พาเราเดินตกฟุตบาทไปเลย pic.twitter.com/ZIa5v7Xg81
— Shui | 水 (@forteyork) November 11, 2017
ทางเท้าที่ทำเพื่อคนพิการ โดยคนที่ไม่เข้าใจคนพิการ
และด้วยฟังก์ชั่นต่างๆออกแบบมาเพื่อให้คนที่บกพร่องทางการเห็นใช้งานจริงๆ การทำงานต่างๆก็จะแม่นยำ ความผิดพลาดต่ำ ซึ่งเพียงพอที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถโน้มน้าวคนใกล้ตัวได้ว่า “พวกเค้าสามารถทำได้” เพราะนอกเหนือจากแอปต่างๆที่ใช้ไม่ได้ออกแบบมาอย่างเข้าใจคนตาบอดแล้วนั้น “การโน้มน้าวคนใกล้ตัวให้เชื่อใจว่าพวกเราคนตาบอดก็สามารถทำได้ไม่ต่างกันนั้น เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าซะอีก”
ขอบคุณคุณหมอคอม สิทธิโชค Blind IT Call Center และคุณชลทิพย์ ยิ้มย่อง แอดมินดูแลข้อมูลข่าวสารหนังสือเสียง ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคนตาบอดมากมายในวันงานนะครับ 🙂
ดีใจที่ยังมีคนใส่ใจคนกลุ่มเหล่านี้อยู่
ดีมาก