หลายๆคนอาจจะพึ่งเคยได้ยินกับเทคโนโลยีตัวนี้ และก็น่าจะมีคนที่เคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง ในวันนี้ก็ขอหยิบยกเจ้าเทคโนโลยีตัวนี้มาเล่าสู่กันฟังเสริมความรู้สร้างสุขลักษณะนิสัยกันดีกว่า (ไม่น่าใช่นะ…) ว่ามันคืออะไร เอาไว้ทำอะไร และมีดีเยี่ยงไร

 

“แบตเตอรี” มีเท่าไรก็ไม่เคยพอ

    สำหรับในยุครุ่งเรืองของ Smart Device ในทุกวันนี้เรียกด้ว่า ใครๆก็ใช้ Smartphone หรือ Tablet กันแทบทุกคน และก็ต้องบอกว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าสะดวกสะบายเสียเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม คุย ทำงาน ดูหนัง ฟังเพลง แล้วก็เล่นเกม (ซ้ำเว้ย!) แต่สิ่งนึงที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นผู้ใช้ทุกๆคนอยู่ นั่นก็คือ แบตเตอรี” นั่นเอง 

    เครื่องยิ่งแรง จอยิ่งใหญ่ยิ่งชัด ฮาร์ดแวร์ครบครันก็ย่อมซดแบตเตอรีอยู่แล้ว อันนี้ทุกๆคนก็รู้กันดี ซึ่งในทุกวันนี้ ถึงแม้จะบอกว่าน่าจะเพียงพอต่อความต้องการแล้ว แต่ความต้องการของมนุษย์ก็ย่อมไม่สิ้นสุดนั่นแหละ ก็อยากได้แรงกว่านี้ จอคมชัดกว่านี้และแบตเยอะกว่านี้ (แต่ก็ดันอยากได้เครื่องบางด้วย) 

    เมื่อแบตเยอะก็หมายความว่าต้องชาร์จนานยิ่งขึ้นนั่นเอง นึกถึงสมัยที่ใช้แบตไม่ถึง 2,000 mA กันที่ชาร์จแค่สองชั่วโมงก็เต็มแล้ว แต่ในสมัยนี้กลับใช้เวลาชาร์จนานยิ่งขึ้น (เมื่อเทียบกับอะแดปเตอร์ที่ชาร์จด้วยกระแสเท่าเดิม) อย่างเช่นเจ้าของบล็อกใช้ Nexus 10 ที่มีแบตเตอรี 9,000 mAh ต่อให้ชาร์จด้วยกระแส 2A ก็ตามทีเถอะ ผลก็คือใช้เวลาอย่างน้อยก็เกือบ 5 ชั่วโมงเสียแล้ว

    ดังนั้นผู้ใช้บางคนนอกจากประสบปัญหาแบตเตอรีไม่ค่อยพอใช้งาน (เล่นทำไมตั้งเยอะแยะ XD) ก็ยังมีปัญหาต้องรอชาร์จแบตเตอรีให้เต็มก่อนเอาไปใช้งาน ซึ่งผมก็เจอปัญหาแบบนี้อยู่ประจำ เสียบชาร์จไว้ไม่ทันเต็มก็ต้องถอดออกแล้วออกไปทำธุระข้างนอกเสียแล้ว จึงทำให้ไม่กล้าใช้งานเครื่องอย่างเต็มที่เพราะกลัวแบตฯหมดกลางคัน 

 

Qualcomm Quick Charge คืออะไร?

    ทาง Qualcomm ก็มองเห็นถึงปัญหานี้มานมนานแล้ว จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า Quick Charge ใส่ลงไปในชิป Qualcomm ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ชาร์จแบตเตอรีได้ไวขึ้นมากกว่าเดิม โดยมี Concept ง่ายๆว่า 

“Less time charging. More time doing.”

 

     โดย Quick Charge 2.0 นั้นมีการพัฒนาขึ้นจาก Quick Charge 1.0 เป็นอย่างมาก โดยจากการทดสอบกับแบตเตอรีความจุ 3,300 mAh ก็พบว่าการชาร์จด้วยอะแดปเตอร์ปกติ (5V 1A) ในเวลาครึ่งชั่วโมงจะชาร์จได้เพียง 12% เท่านั้น ส่วนอะแดปเตอร์ที่รองรับ Quick Charge 1.0 (5V 2A) สามารถชาร์จได้ไวขึ้นเป็น 30% แต่ถ้าใช้อะแดปเตอร์ที่รองรับ Quick Charge 2.0 (9V 2A) จะทำให้ชาร์จเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงแต่ชาร์จได้ถึง 60% เลยทีเดียว~!!

 

ใช้สาย Micro USB เฉพาะตัวหรือป่าว? 

    ไมจำเป็นต้องใช้สายเฉพาะ ขอแค่เป็นสาย Micro USB ที่สามารถทนแรงดันและกระแสที่อะแดปเตอร์จ่ายได้ก็พอ นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร

 

อะแดปเตอร์ 9V? ชาร์จกับแบตเตอรีของ Smart Device ได้ด้วยหรือ?

    อันนี้ขอให้อ่านแล้วจงทำความเข้าใจด้วยนะครับ ขอเตือนไว้ก่อน เพราะไม่ใช่ว่าเอาอะแดปเตอร์ 9V อะไรก็ได้มาเสียบแล้วชาร์จได้เลยนะ แต่จะต้องเป็นอะแดปเตอร์ที่รองรับเทคโนโลยี Quick Charge 2.0 ถึงจะทำแบบนี้ได้เท่านั้น เพราะงั้นอย่ามั่วซั่วซี้ซั๊วหยิบอะแดปเตอร์ 9V ธรรมดาๆไปเสียบชาร์จล่ะ (อาจจะบึ้มกันเลยทีเดียว~)

    ที่ทำแบบนี้ได้ก็เพราะว่าชิป Qualcomm ที่มีความสามารถในการ Power Management ที่แรงดันมากกว่า 5V ได้ เพื่อให้การชาร์จนั้นทำได้เร็วยิ่งขึ้น โดยไม่ทำให้เครื่องมีอันตราย และก็ไม่ได้รองรับแค่ 9V เท่านั้นนะ แต่รวมไปถึง 6V หรือ 12V ด้วยล่ะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับอะแดปเตอร์ Quick Charge 2.0 ตัวนั้นๆนั่นเอง ซึ่งเมื่อก่อน Quick Charge 1.0 จะไม่รองรับแรงดันต่างๆแบบนี้ จะเน้นไปที่กระแสในการชาร์จเสียมากกว่า

 

อะแดปเตอร์ Quick Charge 2.0 ใช้กับเครื่องที่ไม่รองรับได้มั้ย?

    ผู้อ่านไม่จำเป็นต้องกังวลเลยว่าถ้าซื้ออะแดปเตอร์ Quick Charge 2.0 มาใช้ แล้วเครื่องอื่นๆจะไม่รองรับ เพราะว่าเมื่อใช้กับมือถือทั่วไปที่ชาร์จแบบปกติ ตัวอะแดปเตอร์ก็จะจ่ายแรงดัน 5V ออกมาแทน (กระแสต่างกันไปตามสเปคของอะแดปเตอร์) ยกตัวอย่างเช่น 

    KDDI AU AC Adapter 05 ที่รองรับ Quick Charge 2.0 แต่ตัวสเปคของอะแดปเตอร์ตัวนี้จะสามารถจ่ายไฟที่แรงดันและกระแสแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ได้ดังนี้

    • แรงดัน 5V กระแส 1.8A
    • แรงดัน 9V กระแส 1.8A
    • แรงดัน 12V กระแส 1.35A

    ถ้าอุปกรณ์ที่ชาร์จไม่รองรับ Quick Charge 2.0 ตัวอะแดปเตอร์ก็จะจ่ายไฟเป็น 5V 1.8A ให้แทน แต่ถ้าเครื่องรองรับก็จะจ่าย 9V หรือ 12V ให้ (ขึ้นอยู่กับเครื่องว่ารองรับแรงดันตัวไหน)

    Xiaomi MDY-3-EB ที่แถมมากับ Xiaomi Mi4 ก็เป็น Quick Charge 2.0 นะเอ้อ! (ภาพจากคนในกลุ่ม MIUI Thailand)

    แต่ก็จะมีหลายๆตัวที่ไม่ได้ระบุสเปคไว้ในหน้าเว็ปชัดเจน แต่น่าจะมีอยู่ในกล่องหรือเขียนติดไว้ที่ตัวอะแดปเตอร์ล่ะนะ อย่างเช่น Motorola Turbo Charger ที่บอกแค่ว่า 15W จึงไม่แน่ใจว่ารองรับแรงดัน 9V กับ 12V หรือไม่ แต่ที่แน่ๆคือ 5V 3A และถ้ารองรับ 12V (คาดเดา) ก็จะเป็น 12V 1.25A

    ดังนั้นไม่ว่าเครื่องจะรองรับหรือไม่ก็ไม่ต้องกังวล เพราะอะแดปเตอร์จะเป็นตัวจัดการให้เอง (ถึงบอกว่าอะแดปเตอร์ทั่วๆไปใช้ไม่ได้นั่นเอง)

 

 Smart Device ตัวไหนที่รองรับ Quick Charge 2.0 บ้าง?

    ขอแสดงความยินดีกับผุ้ใช้เครื่องที่เป็น Qualcomm Snapdragon ตระกูล 200, 400, 600 และ 800 รุ่นหลังๆด้วยนะครับ เพราะว่าทุกตัวจะมี Quick Charge 2.0 เกือบทั้งหมด (พวกรุ่นแรกๆจะได้แค่ 1.0 ) แต่ก็จะมีแค่ไม่กี่ตัวที่ Full Feature Supported หรือก็คือรองรับ Quick Charge 2.0 แบบเต็มรูปแบบ (รองรับความเร็วสูงสุดที่อะแดปเตอร์จ่ายให้ได้) ซึ่งจะมีดังนี้

    • Fujitsu Arrows NX
    • HTC Butterfly 2
    • HTC One M8
    • Moto X 2014
    • Samsung Galaxy Note 4
    • Samsung Galaxy Note Edge
    • Samsung Galaxy S5
    • Sharp Aquos Zeta
    • Sony Xperia Z2
    • Sony Xperia Z3
    • Sony Xperia Z3 Compact
    • Xiaomi Mi3
    • Xiaomi Mi4
    • Sharp Aquos Tab
    • Sony Xperia Z2
    • Sony Z3 Tablet Compact

    ปล1. นอกเหนือจากนี้จะรองรับ Quick Charge 2.0 ก็จริงเพราะใช้ชิป Qualcomm ซีรีย์ดังกล่าว แต่ว่าต้องดูด้วยชิป Power Management นั้นรองรับกับ Quick Charge 2.0 หรือไม่

    ปล2. ของ Samsung จะมีหลาย Model CPU ดังนั้นจะมีแค่ตัวที่ใช้ CPU Qualcomm เท่านั้นที่รองรับ

    ปล3. Moto X 2013 ของผมเป็น Qualcomm Snapdragon S4 Pro ฮืออออออออออออออออออออออออออ

    ปล4. ดูเหมือน Nexus 5 จะใช้ Quick Charge 2.0 ไม่ได้ เพราะชิป Power Management นั้นไม่รองรับ http://www.androidcentral.com/nexus-5-faq

  

อะแดปเตอร์พวกนี้หาซื้อได้จากที่ไหนบ้าง?

    ต้องบอกว่าไม่มีค่ายมือถือหลักๆที่ทำอะแดปเตอร์สำหรับ Quick Charge 2.0 เลย…. และบริษัทที่ทำก็เป็นต่างประเทศกันซะหมด ดังนั้นก็คงต้องบอกว่า “นำเข้าเอง” หรือ “สั่ง Ebay” ละกันนะครับ โดยมีดังนี้

    • KDDI AU AC Adapter 05
    • Motorola Tur Charger
    • MYY Docomo AC Adapter 05
    • Power Partners AC Adapter
    • Powermod Car Charger
    • Powermod Wall Charger
    • Puregear Car Charger
    • Puregear Wall Charger
    • Ventev dashport q1200
    • Ventev wallport q1200
    • Verus Peripheral

     สำหรับอะแดปเตอร์ Quick Charge 2.0 ที่ยังไม่วางจำหน่าย

    • Dongguan Aohai Power Technology A58-502000
    • Incipio Single Port USB Car Charger
    • Xiaomi MDY-3-EB

    สามารถเข้าไปดูของแต่ละเจ้ากันได้ที่ Quick Charge 2.0 Certified Accessories 

 

VOOC Rapid Charge ใน OPPO Find 7 กับ 7A คือ Quick Charge 2.0 หรือไม่?

    เพื่อไม่ให้สับสนนะครับ เลยเพิ่มหัวข้อนี้เข้ามาด้วย เพราะว่า OPPO ได้เปิดตัว VOOC มาก่อนที่จะรู้จักกับ Quick Charge 2.0 เสียอีก ซึ่ง VOOC จะเป็นเทคโนโลยีเฉพาะตัวของ OPPO ที่ใช้อะแดปเตอร์ 5V 4.5A ซึ่งเป็นอะแดปเตอร์กระแสสูงนั่นเอง และบังคับว่าต้องใช้กับสาย Micro USB พิเศษที่ทำมากับตัวเครื่องโดยเฉพาะ เพราะจะมีขั้ว 7 ขาสำหรับ Rapid Charge นั่นเอง

 

  

ความสามารถของ Fast Charging บน Samsung Galaxy Note 4 ก็คือ Quick Charge 2.0 

    เนื่องจาก Speaker ในงานเปิดตัวของ Samsung Galaxy Note 4 ได้กล่าวไว้ว่า Samsung Galaxy Note 4 สามารถชาร์จแบตเตอรีได้ไวกว่ารุ่นก่อนๆ โดยชาร์จจาก 0% ถึง 50% ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงสำหรับการชาร์จแบตเตอรีของเครื่องที่มีความจุ 3,220 mAh ซึ่งนั่นก็คือ Quick Charge 2.0 ที่อยู่ในรุ่นที่ใช้ CPU ของ Qualcomm Snapdragon 805 นั่นเอง

     ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าเป็น Feature ที่เอาความสามารถที่มีอยู่แล้วมานำเสนอให้น่าสนใจนั่นเอง โดยอะแดปเตอร์ที่ให้มาก็จะเป็นแบบ 5V 2A สำหรับชาร์จธรรมดาและ 9V 1.67A สำหรับ Quick Charge 2.0

 
 
    สำหรับรุ่นที่ใช้ชิป Exynos จะไม่มี Quick Charge 2.0 นะจ๊ะ แต่ก็อย่าเสียใจเพราะว่าในชิป Exynos ทาง Samsung ก็ใส่ความสามารถ Adaptive Fast Charging ให้ด้วย เพื่อให้ชาร์จได้แบบ Quick Charge 2.0 ดังนั้นรุ่นที่เป็น Qualcomm Snapdragon ก็จะใช้ Quick Charge 2.0 และถ้ารุ่นที่เป็น Exynos ก็จะใช้ Adaptive Fast Charging 
 
    ปล. บน MediaTek ก็จะมี Pump Express นะเออ อย่าตกใจไปว่าไม่มีเหมือนค่ายอื่นๆเค้าล่ะ ^ ^
 

ความลับในการชาร์จแบตเตอรีบน Smart Device

    จะเห็นว่าการนำความสามารถ Quick Charge 2.0 มาใช้งานนั้นไม่มีผลต่อสาย Micro USB แบบ OPPO ที่ต้องใช้ขั้วในการ Interfaced ข้อมูลถึง 7 ขา ในขณะที่ Quick Charge 2.0 ใช้สาย Micro USB ทั่วไปที่มี 5 ขา ได้เลย เพราะในความเป็นจริงนั้นการชาร์จแบตเตอรีจะมีการเช็คข้อมูลก่อนจะชาร์จเล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะ Request ไปยังอะแดปเตอร์ Quick Charge 2.0 ได้ว่ารองรับการชาร์จดังกล่าวเพื่อให้อะแดปเตอร์จ่ายไฟออกมาสำหรับการชาร์จแบบ Quick Charge 2.0 นั่นเอง ดังนั้นหัวใจสำคัญก็จะอยู่ที่ตัวอะแดปเตอร์ Quick Charge 2.0 กับชิป Qualcomm ที่มี Power Management สำหรับ Quick Charge 2.0 

    ถ้าใครเป็นนักเล่นเครื่องบินบังคับก็จะน่าจะรู้กันอยู่แล้วว่าแบต Li-ion สามารถชาร์จกระแสสูงๆได้อยู่แล้ว โดยที่เรียกกันว่า Fast Charge ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น Quick Charge 2.0 หรือ VOOC ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นการทำระบบการชาร์จให้ไวยิ่งขึ้น โดยไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานนั่นเอง

 

Qualcomm Quick Charge 2.0 มีความอันตรายมากแค่ไหน และอายุใช้งานแบตจะน้อยลงหรือไม่?

    ถ้าถามว่ามันปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน ผมเองก็คงบอกได้แค่ว่า ไม่รู้ เพราะไม่ได้ลอง (เครื่องยังไม่รองรับเลย) แต่จากเว็ปไซต์ของทาง Qualcomm เองก็ได้มีการ Testing และมี Certification เพื่อยืนยันว่า Quick Charge 2.0 สามารถทำให้ชาร์จได้ไวขึ้น เร็วขึ้น โดยที่ผู้ใช้ยังสามารถเล่นมือถือในระหว่างการชาร์จได้ ซึ่งผมก็มั่นใจว่า Qualcomm สามารถ Management กับ Quick Charge 2.0 ได้อย่างปลอดภัยอยู่แล้ว (ถ้าไม่ไปพิเรณทำอะไรแปลกๆเอง)

    อ่านได้จาก Qualcomm Quick Charge 2.0 Testing and Certification

    ส่วนเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรีนั้นบอกได้เลยว่า ไม่ว่าจะเป็น Fast Charging แบบไหนล้วนก็ทำให้แบตเตอรีอายุสั้นลงเรื่อยๆอยู่แล้วครับ ยิ่งกระแสเยอะแรงดันเยอะก็ยิ่งเสื่อมไว หรือแม้แต่การใช้อะแดปเตอร์ 5V 1A ก็ตาม ดังนั้นถ้าอยากจะถนอมแบตเตอรีกันแบบจ๋าๆก็ลองชาร์จด้วยอะแดปเตอร์ 5V 0.5A แทน (ถ้าทนรอจนกว่าแบตเตอรีจะเต็มได้นะ) และดีไม่ดีเราก็อาจจะเปลี่ยนเครื่องกันก่อนที่แบตเตอรีจะเสื่อมก็เป็นได้ เพราะเดี๋ยวนี้ Life Cycle ของมือถืออยู่ได้แค่ 1 – 2 ปีแล้ว (ไม่ใช่อายุการใช้งานหรือวัสดุที่ใช้แต่อย่างใด แต่เป็นสเปคที่ตกลงไปเรื่อยๆตามยุคสมัยมากกว่า)

 

    สุดท้ายนี้ก็ขอทิ้งท้ายด้วยวีดีโอนำเสนอ Quick Charge จาก Qualcomm 

Play video

 

แหล่งที่มาของข้อมูล

  • http://www.qualcomm.com
  • http://industries.ul.com
  • http://www.androidauthority.com
  • http://pocketnow.com