ทุก ๆ ปี Apple จะเปิดตัว iPhone ในช่วงเดือนกันยายนหรือไม่ก็ตุลาคม  ซึ่ง iPhone 13 ปีนี้ก็น่าจะออกมาตามกรอบเวลาเดิม โดยในปีนี้มีการคาดการณ์กันว่าฟีเจอร์และความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะไม่ได้เยอะนัก แต่เป็นอะไรปรับปรุงรายละเอียดเล็กน้อยเพิ่มเติมในเรื่องกล้อง, ระบบชาร์จเร็ว, และความจุ และล่าสุดนักข่าวที่เชี่ยวชาญเรื่อง Apple ของทาง Bloomberg ได้เผยจะมีการเพิ่มโหมด Portrait สำหรับการถ่ายวิดีโอใน iPhone 13 ด้วย

Apple ได้เปิดตัวโหมด Portrait พร้อมกับการเปิดตัว iPhone 7 series ในปี 2016 และในปีนี้ก็มีข่าวลือว่า iPhone 13 จะมีโหมด Portrait สำหรับการถ่ายวิดีโอเพิ่มเติม ซึ่งการทำงานจะคล้ายคลึงกับการถ่ายภาพ โดย Depth sensor จะตรวจจับเอฟเฟคเบลอพื้นหลัง และโฟกัสเพียงแค่ตัวแบบหรือวัตถุเท่านั้น 

นอกจากนี้ ยังมีการเผยอีกว่า Apple จะมีฟีเจอร์ ProRes ในการถ่ายวิดีโอของ iPhone 13 ฟีเจอร์นี้จะทำให้ผู้ใช้งานอัดวิดีโอด้วยความละเอียดที่สูงขึ้นด้วยฟอร์แมตที่สามารถจัดการได้ง่ายขึ้นสำหรับงาน Post production ซึ่งฟีเจอร์นี้จะมีความคล้ายคลึงกับ Apple ProRaw ที่อยู่ในรุ่น Pro ของ iPhone 12 ปัจจุบัน และแน่นอนว่า ฟีเจอร์ ProRes ก็จะมีแค่ในรุ่น Pro ใน iPhone 13 series เช่นเคย 

ถ้าไม่นับเรื่องของการถ่ายวิดีโอ Apple ก็มีแพลนที่จะอัปเดตตัวฟิลเตอร์ที่อยู่ในกล้องของตัวเองให้เพิ่มมากขึ้นด้วย และที่พิเศษมาก ๆ สำหรับการอัปเดตในครั้งนี้คือ ผู้ใช้ไม่เพียงแต่สามารถเพิ่มฟิลเตอร์เข้าไปในรูปได้เท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มฟิลเตอร์แบบเฉพาะจุดในภาพได้ด้วย 

สำหรับ LiDAR Scanner เอง ก็ได้มีคาดการณ์ว่าจะใส่มาให้ในทุกรุ่นของ iPhone 13 series จากที่จำกัดเพียงรุ่น Pro บน iPhone 12 และสำหรับติ่งที่เป็นเรื่องกวนใจใครหลายคน ตามการรายงานก็ยังเปิดเผยว่าติ่งที่มาใน iPhone 13 จะมีขนาดเล็กลง และมาพร้อมกับจอ Refresh Rate 120Hz ที่จะมีแค่ในรุ่น Pro เท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่คาดว่าจะอัปเกรดขึ้น เช่น ชิป A15 และความจุที่มีให้เลือกสูงสุดที่ 1TB ก็น่าจะเป็นไปตามคาด

ตามที่มีข้อมูลหลุดออกมา iPhone รุ่นใหม่น่าจะมาพร้อมกับฟีเจอร์การชาร์จแบบใหม่ จากเดิมที่รองรับ 20W รอบนี้อาจได้ระบบชาร์จเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 25W  และเรื่องของสีเครื่อง iPhone 13 series อาจนำสี Rose Gold กลับมาอีกครั้ง ในโทนสีแนว Sunset Gold ดังภาพครับ

รูปภาพคอนเซปท์ iPhone 13 จาก AppleTomorrow

 

ที่มา : GIZMOCHINA