หลังจากการเปิดตัว iPhone 6s และ iPhone 6s Plus เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายๆ คนน่าจะตกอยู่ในมนต์สะกดของภาพหางปลากัดสะบัดพริ้วสวยงาม พรีเซนเทชั่นเว่อร์วังอลังการ กล่อมสมองด้วยเสียงหนุ่มอังกฤษที่นุ่มละมุน และคำวิเศษณ์พรรณา จนเตรียมกำเงินไปซื้อแทบจะทันทีเมื่อมันออกวางจำหน่าย ซึ่งระดับความสามารถทางการตลาดและการเชื้อชวนให้คนหลงใหลในผลิตภัณฑ์ของ Apple นี้ก็ยากจะหาคนทำได้เทียบเท่า แต่ถ้าเราลองเคาะเอาคำสวยๆเหล่านี้ออก มาลองดูความเป็นจริงกันว่าพรีเซนเทชั่น และคำสวยๆงามๆเหล่านั้น เมื่อถูกตัดให้เหลือแต่ความจริงแล้ว มันจะมีอะไรน่าสนใจบ้างกันดีกว่าค่ะ

 

Design ที่ก้าวหน้า และดีขึ้นกว่าเดิม

iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ใช้วัสดุ 7000 Series aluminum  ซึ่งเป็นโลหะอัลลอยที่แข็งแแรงที่สุดที่เคยใช้ในการผลิต iPhone และใช้กระจกแบบใหม่ผลิตจากเทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนไอออนแบบพิเศษทำให้มีความแข็งแรงไปถึงระดับโมเลกุล เรียกได้ว่าแข็งแรงที่สุดในวงการสมาร์ทโฟนเลยก็ว่าได้ รวมถึงการดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Unibody จับแล้วเรียบลื่นและให้ความรู้สึกคุ้นเคยต่อเนื่องมาจาก iPhone 6 และมาพร้อมกับสีใหม่ที่สวยงามเลอค่าอย่าง Rose Gold

สรุปสั้น

ดีไซน์เดิม เพิ่มความแข็ง แก้ปัญหาเครื่องงอง่าย มีสีชมพูเพิ่ม #จบข่าว

เสริม วัสดุสวยงามเป็นเหล็กสามารถ ไม่งอง่าย ไม่ต้องใช้ถึง Aluminum 7000 Series อะไรนั่น สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ Android ราคาระดับหมื่นบาทเป็นต้นไป ส่วนสีชมพูฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมว จะหาเคสมาใส่ตามไปก็ไม่ยากนะจ๊ะ

อยากได้วัสดุคล้ายกันในราคาย่อมเยาว์ >> Huawei Mate 7, OPPO R5/R7, vivo X5Pro

 

3D Touch ความมหัศจรรย์เมื่อฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์รวมพลังกัน

3D Touch เป็นระบบสัมผัสที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Multi-touch ด้วยการนำเทคโนโลยี Taptic Engine แบบใหม่ ทำให้ความรู้สึกเหมือนหน้าจอบุ๋มลงไปตามแรงกดที่ปลายนิ้ว มาพร้อมกับฟีเจอร์ Peek and Pop คือเมื่อเรากดลงน้ำหนักเบาๆ ที่รูป อีเมล หรือแอปพลิเคชั่นต่างๆ บนหน้า Home Screen ก็จะเหมือนเป็นการพรีวิว และเมื่อกดน้ำหนักลงไปอีกก็จะเป็นการเข้าสู่เนื้อหา เช่น เมื่อเรากดไปที่รูปเบาๆ รูปก็จะเด้งดึ๋งขึ้นมาและเมื่อลงน้ำหนักมากขึ้นก็จะพรีวิวเป็นภาพเต็มจอ หรือพรีวิวภาพ Live Photo ให้เคลื่อนไหว รวมถึงยังสามารถใช้ 3D Touch ในการเข้าถึงทางลัดต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น …

สรุปสั้น

กดเบา-หนักบนหน้าจอ เพิ่มรูปแบบการสั่งงาน และทางลัดเข้าแอป #จบข่าว

เสริม สะดวกในการใช้งานมากขึ้นหรือเปล่า? อันนี้ก็ยังฟันธงไม่ได้ว่าพอใช้งานจริงๆ มันจะว้าวแบบในพรีเซนเทชั่นรึเปล่า อย่างผู้ที่เคยใช้งาน iPhone รุ่นเก่าๆ มาก่อนอาจจะรู้สึกไม่ชิน คงต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และทำตัวให้ชินไม่น้อย ส่วนชอบไม่ชอบยังไงคงต้องรอจับหรือใช้งานจริงก่อนถึงจะบอกได้ว่าว้าวจริงๆ ตอนใช้งาน หรือว้าวเฉพาะหน้าตา UI เท่านั้น 

3D Touch หรือ Force Touch ทาง Apple โดน Huawei ตัดหน้าเปิดตัวไปก่อนไม่กี่วัน ซึ่งทาง Huawei ได้เดโมการใช้งาน Mate S มาเป็นการชั่งน้ำหนัก และการซูมภาพเข้าออกผ่านการกดหน้าจอหนัก-เบา ซึ่งน่าจะทำมาไม่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ซักเท่าไหร่นัก ต่อให้ซื้อ Huawei มาก็ไม่สามารถได้รับประสบการณ์ที่เหมือนกันนะ

 

iSight Camera ฉบับปรับปรุง เห็นชัดทุกรายละเอียดและสวยงามในทุกพิกเซล

มีการอัพสเปคกล้องจากความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เป็น 12 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่สามารถจัดการพิกเซลได้ดีขึ้น โดยการปรับโครงสร้างให้ป้องกันการซ้อนทับของ Sub-Pixel จึงทำให้ภาพดูคมชัด ลด Noise และได้สีที่ตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น มาพร้อมกับความสามารถบันทึกภาพวิดีโอ 4K UHD (3840x2160p / 30fps) โดยสามารถซูมความละเอียดภาพนิ่ง 8 ล้านพิกเซลได้ขณะบันทึกวิดีโอ และมีระบบช่วยไม่ให้ภาพสั่นขณะบันทึกวิดีโอสำหรับโหมด Time-lapse และ Cinematic ส่วน OIS จะมีเฉพาะ iPhone 6s Plus เท่านั้น

สรุปสั้น

อัพสเปคกล้อง 12 ล้านพิกเซล + ถ่ายวิดีโอ 4K ได้แล้ว #จบข่าว

เสริม โอ้วโหวน้ำตาจะไหล ในที่สุดคุณทิมก็อัพกล้องให้ แต่คนอื่นเขาไป 16 ล้านกันหมดแล้วอ่ะ (; w ; ) สมาร์ทโฟนรุ่นราคาหมื่นกลางๆ ตอนนี้ได้ทั้งเซนเซอร์ความละเอียดที่มากกว่า พร้อมถ่ายวิดีโอ 4K UHD แต่ก็เรื่องคุณภาพอันนี้ก็อีกเรื่องนึงนะคะ ขึ้นอยู่กับซอฟแวร์ในการประมวลผลของแต่ละค่ายด้วย 

กล้องความละเอียดเท่ากันในราคาย่อมเยาว์ > Asus Zenfone 2, Lenovo A7000+ ซึ่งก็อาจจะไม่ได้ความสามารถในการถ่ายวิดีโอ 4K ส่วนเรื่องคุณภาพของภาพนิ่งอันนี้เรายังไม่ได้ฟันธงว่าฝ่ายไหนดีกว่านะคะ และจะมีการทดสอบให้เห็นกันอีกครั้งเมื่อได้เจ้า iPhone 6s มาแล้วค่ะ ^^”

 

Live Photo ให้ความรู้สึกเหมือนภาพมีชีวิต

เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถบันทึกภาพก่อนและหลังการถ่ายภาพนิ่งในช่วงสั้นๆ หลังจากนั้นก็จะถูกนำมาประมวลผลเป็นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งสามารถนำภาพ Live Photo มาตั้งเป็นภาพพื้นหลังหน้าล๊อคสกรีนได้ด้วย โดยภาพจะพรีวิวแบบเคลื่อนไหวเหมือนชีวิตได้ประหนึ่งมีชีวิตจริงๆ เมื่อเปิดหน้าจอแล้วสัมผัสไปที่ภาพ

สรุปสั้น

ถ่ายรูปพร้อมทำเป็นคลิปได้ #จบข่าว

เสริม ถ้าใครนึกไม่ออก ทางฝั่งแอนดรอยด์เคยได้เล่นฟีเจอร์นี้และฮือฮากันไปก่อนหน้านี้สัก 2-3 ปีแล้วล่ะ โดยคนที่เริ่มเล่นฟีเจอร์นี้ก่อนใครก็คือ HTC ที่เรียกฟีเจอร์นี้ว่า Zoe ตามมาด้วย Microsoft Lumia ในชื่อ Living Images ซึ่งสามารถเอาไปทำอะไรได้มากกว่าถ่ายภาพเคลื่อนไหวซะด้วย แต่จนถึงตอนนี้ก็ต้องบอกว่าอาจจะยังไม่ได้เห็นการนำเอาเหล่าภาพเคลื่อนไหวนี้ไปใช้งานกันอย่างแพร่หลายสักเท่าไหร่ ก็ต้องรอดูว่า Live Photo จะมาจุดประกายไอเดียให้เกิดแอปใหม่ๆ หรือกระแสอะไรเด็ดๆ ได้อีกหรือเปล่า

 

กล้องหน้า มาพร้อมนวัตกรรมใหม่เอาใจคนรักเซลฟี

อัพความละเอียดเพิ่มจากของเดิม 1.2 ล้านพิกเซล เป็น 5 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับ Retina Flash ซึ่งเมื่อใช้งานปุ๊บ หน้าจอก็จะปรับความสว่างเพิ่มขึ้น 3 เท่าแทนไฟจากแสงแฟลช บวกกับเทคโนโลยี True Tone ช่วยให้ได้อุณภูมิสีที่ใกล้เคียงสภาพแวดล้อมจริง ทำให้ได้ภาพเซลฟี่ที่สวยงามแม้ถ่ายในที่แสงน้อย

สรุปสั้น

อัพสเปคกล้องเป็น 5 ล้านพิกเซล เพิ่มเทคโนโลยีแฟลชจากแสงหน้าจอ #จบข่าว

เสริม อัพกล้องหลังแล้ว กล้องหน้าก็อัพนะรู้ยัง มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ ซึ่งใช้แสงจากหน้าจอที่สว่างวาบแรงขึ้น 3 เท่าแทนแฟลช เอ๊ะ อันนี้คุ้นๆ เหมือนมีในแอนดรอยด์สักรุ่นไปแล้วนี่นา… รวมถึงแอปอย่าง Snapchat ก็มีมาด้วย แต่ถ้าเอาแบบแรงๆเลยไม่ใช่แค่แฟลชจากหน้าจอ ก็อาจจะลองหันมาเล่น OPPO N ซีรี่ย์เลยดีมั้ยที่หมุนกล้องหลังมาเป็นกล้องหน้า หรือพวกที่มีแฟลชกล้องหน้ามาให้จบๆ อย่าง Galaxy J7, HTC Desire Eye, Xperia C5 Ultra, vivo XShot หรือ Zenfone Selfie ถ่ายสวยๆ ชัดๆ ง่ายๆ กันไปเลย (^ w ^)

 

Touch ID Generation 2

Touch ID รุ่นล่าสุดถูกพัฒนาให้ตอบสนองกับระบบสัมผัสได้ไวขึ้นกว่าเดิม และสามารถใช้ในการจ่ายเงินกับระบบ Apple Pay ได้เพียงแค่นำตัวเครื่องไปแตะกับเครื่องจ่ายเงินพร้อมกับแตะนิ้วกับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็สามารถจ่ายเงินได้ โดยจะไม่มีการจัดเก็บข้อมูลเลขที่บัญชีบัตรเครดิตไว้ในเครื่อง โดยในการสั่งจ่ายเงินแต่ละครั้งระบบจะทำการเปลี่ยนเลขอยู่ตลอดเพื่อความปลอดภัย

สรุปสั้น

ระบบทัชไวกว่าเดิมเพิ่มเติมจ่ายเงินผ่าน Touch ID ได้ #จบข่าว

เสริม ถ้าถามถึงความสะดวกรวดเร็วของเก่าก็คิดว่าทำมาดีอยู่แล้ว อันนี้เหมือนนำของเก่ามาเล่าซ้ำพร้อมย้ำว่าดีกว่าเดิมอีกนะ อืม คงต้องรอพิสูจน์กันล่ะค่ะว่าจริงมั๊ย ส่วนเรื่องบริการ Apple Pay หรือการจ่ายเงินผ่านมือถือนี่ก็ไม่ได้รู้สึกใหม่เลย Android รุ่นที่รองรับ NFC ก็ใช้ได้ และ Android Pay ก็กำลังจะคลอด แต่ขอไม่พูดถึงมาก เพราะถึงยังไงบ้านเราก็ยังไม่รองรับบริการนี้อยู่ดี (; w ; )

 

Hey Siri สมาร์ทโฟนค่ายไหนดีที่สุด ?

เราจะได้เห็น Siri ที่ผ่านการอัพเลเวลให้สามารถโต้ตอบและช่วยค้นหาข้อมูลได้มากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเรียกใช้งานได้แม้ว่าจะไม่ได้เปิดหน้าจอและฟีเจอร์ไว้ด้วยคำสั่ง “Hey Siri”

สรุปสั้น

OK Google #จบข่าว

เสริม คงต้องรอทดสอบของจริงล่ะค่ะ ว่าคุณ Siri จะสามารถโต้ตอบ (เรื่องที่มีสาระ) และช่วยเหลือเราได้มากขึ้นจริงมั๊ย และเรื่องที่สามารถ Active ได้ทั้งๆที่วางเครื่องไว้เฉยๆ จริงๆ Android ทุกรุ่นก็สามารถทำได้เพียงแค่พูดว่า OK Google เหมือนกัน รวมถึงช่วยในการค้นหาข้อมูลได้ค่อนข้างใช้ได้เลย แม้ว่าจะพูดคุยโต้ตอบแก้เหงาไม่ได้เหมือนคุณ Siri ก็เถอะ

 

สรุปโดยรวมคิดว่าฟีเจอร์ใหม่ของ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ก็ไม่ได้มีอะไรที่ฟังแล้วร้องว้าว หรือทำให้ตกตะลึงมากมายจนต้องรีบควักเงินไปต่อแถวซื้อ จะมีที่คิดว่าเป็นไฮไลท์และน่าสนใจจริงๆ ก็คือ 3D Touch ซึ่งขอชม Apple ที่มีการหยิบส่วนนี้มาพรีเซนต์เพิ่มความน่าสนใจ แต่อันนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าฟีเจอร์นี้จะตอบโจทย์เรื่องความสะดวกในการใช้งานขนาดไหน อีกทั้งเมื่อเทียบกันแล้วสเปคประมาณนี้สำหรับ Android ราคาหมื่นกลางๆ ก็สามารถทำได้พอๆ กัน หรือหากเทียบกับฝั่ง iPhone เอง ตอนงานเปิดตัวรุ่นเก่าๆ ในอดีตยังให้ความรู้สึกตื่นเต้นและมีอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจกว่านี้ หรืออาจะเพราะโดนทีวี(iPad Pro) และเสาอากาศ(Apple Pencil) ขโมยซีนไปจนทำให้รู้สึกเทความน่าสนใจไปทางฝั่งนั้นมากกว่า แต่ยังไงจะซื้อหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบและกำลังซื้อของแต่ละบุคคลค่ะ เอาที่สบายใจและไม่เบียดเบียนเงินในกระเป๋าจนลำบากก็โอเคแล้วค่ะ 😀