รัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ได้เผยแผนการสร้าง “semiconductor mega cluster” หรือที่เรียกว่า ศูนย์เซมิคอนดักเตอร์ขนาดใหญ่ ณ ทางตอนใต้ของกรุงโซลภายในปี 2047 โดยกลุ่มบริษัทชั้นนำอย่าง Samsung Electronics และ SK hynix ได้เตรียมลงทุนจำนวน 622 ล้านล้านวอน หรือนับเป็นเงินไทยก็ประมาณ 16 ล้านล้านบาท

โดยในแผนดังกล่าวเพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่จำนวน 13 แห่ง และศูนย์วิจัยจำนวน 3 แห่ง (จากเดิมมีอยู่ 21 แห่ง) กินพื้นที่ตั้งแต่เมือง Pyeongtaek ไปจนถึงเมือง Yongin ซึ่งคาดว่าจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีกำลังการผลิตแผ่นเวเฟอร์สำหรับทำชิปได้ราว 7.7 ล้านแผ่น / เดือน ภายในปี 2030

รัฐมนตรีอุตสาหกรรม Ahn Duk-geun ได้กล่าวว่า หากการสร้างศูนย์ผลิตชิปเสร็จเร็วก่อนเวลา เราก็จะได้รับความสามารถในการแข่งขันทางภาคส่วนชิปในระดับแถวหน้าของโลก อีกทั้งยังเป็นการสร้างอาชีพที่มีคุณภาพให้แก่คนรุ่นต่อไปด้วย

ตามข้อมูล บริษัท Samsung Electronics ได้วางแผนลงทุน 500 ล้านล้านวอนสำหรับโครงการนี้ โดยจะรวมไปถึงงบประมาณ 360 ล้านล้านวอน สำหรับการสร้างโรงงาน 6 แห่งใหม่ใน Yongin ที่อยู่ห่างจากทางใต้ของโซลประมาณ 33 กิโลเมตร และได้ลงทุน 120 ล้านล้านวอนเพื่อสร้างโรงงาน 3 แห่งในเมือง Pyeongtaek และลงทุนอีก 30 ล้านล้านวอนในการสร้างศูนย์วิจัยอีก 3 แห่งใน Giheung ในขณะที่ SK hynix จะจัดสรรเงินจำนวน 122 ล้านล้านสอน เพื่อสร้างโรงงานใหม่ 4 แห่ง ในเมือง Yongin

และจากการลงทุนของภาคเองชนนั้น ทางภาครัฐก็ได้วางแผนที่จะมีกำลังการผลิตที่ซับซ้อนในระดับโลก โดยมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่ทันมีความสมัย ที่จะรวมไปถึงชิปที่มีสถาปัยกรรม 2 นาโนเมตรและหน่วยความจำแบนด์วิธสูง ๆ นอกจากนี้รัฐมนตรียังเสริมว่า ในโครงการนี้จะสามารถสร้างตำแหน่งงานได้มากถึง 3.46 ล้านตำแหน่ง

ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ยกระดับและสนับสนุนอุตสาหกรรมชิปในประเทศมาโดยตลอด โดยการสนับสนุนภาคชิปในประเทศนับเป็น 16% ของการส่งออกทั้งหมด ซึ่งก็ได้ตั้งเป้าหมายในอนาคตไว้ว่าจะสามารถผลิตชิปได้มากขึ้นเป็น 10% ภายในปี 2030 (จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 3%) ตลอดจนสนับสนุนนโยบายอื่นเพื่อปกป้องธุรกิจนี้ที่เป็นธุรกิจแกนหลักของเศรษฐกิจประเทศ

ที่มา : Korea times