LG เปิดตัวทีวีไลน์อัป OLED รุ่นใหม่ประจำปี 2565 ออกมาแล้ว นำโดย G2 และ C2 สองพี่ใหญ่ในตระกูล มากับเทคโนโลยี “OLED evo” สีสันและความสว่างแจ่มแจ๋วกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฝ่ายแรกที่ได้ฟีเจอร์ Brightness Booster เข้ามาเสริม เพิ่มความสว่างขึ้นไปอีกระดับ แสดงผล HDR ได้สะใจสุดขีด ภายในขับเคลื่อนด้วยชิป α9 Gen 5 สำหรับประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ที่ทรงพลังไปอีกระดับ
G2 และ C2 มีอัลกอริทึม AI Picture Pro ที่อาศัยหลักการทำงานจากการเรียนรู้เชิงลึก ทำความเข้าใจเนื้อหาที่แสดงผลได้อย่างลึกซึ้ง เช่นการแยกแยะระหว่าง คน ฉากหน้า และฉากหลัง จึงสามารถอัปสเกลความละเอียดภาพเป็น 4K และแมปปิงโทนเพื่อแปลงเป็น HDR ได้อย่างสมจริง โดยใช้จุดอ้างอิงในการวิเคราะห์มากถึง 5,000 จุดทั่วภาพ ซึ่ง LG เคลมว่า ในกระบวนการทำงานจะไม่กระทบกับโทนผิวของมนุษย์ด้วย
อีกหนึ่งคุณสมบัติใหม่ที่มากับ α9 Gen 5 คือ AI Sound Pro จำลองสัญญาณเสียง 2 แชนเนลเป็น 7.1.2 แชนเนล เพิ่มอรรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ราวกับอยู่ในโรงหนัง ส่วน Dolby Vision IQ ที่เป็นจุดขายจากรุ่นก่อนยังรองรับเหมือนเดิม เช่นเดียวกับ Dolby Atmos
นอกจากนี้ LG ยังได้เพิ่มขนาดใหม่เป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า ทั้ง G2 และ C2 ดังนี้
- LG G2 : เพิ่มขนาด 83 และ 97 นิ้ว ใหญ่ที่สุดในโลกหากนับเฉพาะพาเนล OLED ด้วยกัน จากเดิมที่มี 55, 65 และ 77 นิ้ว
- LG C2 : เพิ่มขนาด 42 นิ้ว เล็กที่สุดในไลน์อัปทีวี OLED ของ LG จากเดิมที่มี 48, 55, 65, 77 และ 83 นิ้ว
G2 และ C2 ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ webOS เวอร์ชันใหม่ คราวนี้ LG เปลี่ยนวิธีเรียกชื่อรุ่นเป็นตัวเลขที่สอดคล้องตามปีนั้น ๆ แทน กลายเป็น webOS 22 แทนที่ webOS 6.0 ของเดิม ซึ่งจะรองรับการแยกโปรไฟล์ตามผู้ใช้งาน รองรับโปรโตคอล Matter ที่เป็นมาตรฐานใหม่สำหรับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ค่ายไหนก็คุยกันรู้เรื่อง และมีฟีเจอร์ NFC Magic Tap ใช้มือถือแตะที่ Magic Remote เพื่อสะท้อนภาพหรือแคสต์เนื้อหาต่าง ๆ ขึ้นทีวี และรองรับการสะท้อนภาพหรือส่งเฉพาะเสียงย้อนกลับ จากทีวีมาสู่มือถือด้วย
สำหรับ C2 ที่เป็นซีรีส์รองท็อปถัดลงมาจาก G2 นั้น ในบางขนาดจะมีฟีเจอร์บางส่วนที่ถูกตัดออกไปบ้าง โดย LG จะมีการให้รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้งในภายหลัง รวมถึงการประกาศราคาและกำหนดวางจำหน่ายครับ
ที่มา : LG
Comment