วันนี้ทาง LINE ประเทศไทยได้จัดงาน LINE Vision 2017 เพื่อประกาศถึงทิศทางของแพลตฟอร์มของ LINE ที่จะปรับเปลี่ยนเพิ่มในปีนี้ โดยได้เน้นไปยัง 4 ประเด็นหลักคือ การติดต่อสื่อสาร, คอนเทนต์, บริการ, และการขายสินค้าบริการ พร้อมทั้งได้เปิดเผยสถิติของ LINE และบริการต่างๆ ภายใต้แพลตฟอร์ม LINE อีกด้วย
สำหรับในปี 2016 ที่ผ่านมานั้นมียอดผู้ใช้งาน LINE มากถึง 94% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในไทย ส่วนบริการที่ LINE ระบุว่ามีการเติบโตในไทยได้ดี และประสบความสำเร็จได้แก่
- LINE TV ได้จำนวนยอดวิวเพิ่มขึ้น 136% จากซีรีส์ดังระดับที่กลายเป็นปรากฏการณ์ meme บนโซเชียลอย่าง ‘I HATE YOU I LOVE YOU’, ‘ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์’, และ ‘O-Negative’
- LINE MAN รวมทั้งการแมสเซนเจอร์ ส่งของ, ซื้ออาหารและของสะดวกซื้อ มียอดผู้ใช้สูงถึง 400,000 คน และมีร้านอาหารในระบบถึง 20,000 ร้าน กลายเป็นบริการส่งอาหารอันดับ 1 ของประเทศไทย
- LINE GAME ครองอันดับ 1 ในตลาดประเทศไทย
- LINE STICKERS ได้รับความนิยมด้วยยอดดาวน์โหลดสูงถึง 500 ล้านเซ็ต ทำให้เห็นว่าคนไทยยังตอบรับการใช้งานเป็นอย่างดี
ส่วนแนวทางในปี 2017 นั้นทาง LINE มุ่งเป้าที่จะพัฒนาให้กลายเป็น Mobile Portal ที่เป็นแหล่งรวมบริการต่างๆ โดยมองว่าแนวโน้มของผู้ใช้สมาร์ทโฟนจะติดตั้งแอปบนเครื่องน้อยลง จึงต้องการจะกลายเป็นศูนย์รวมของบริการภายใต้แอปของ LINE เอง โดยแบ่งออกเป็น 4 ด้านได้แก่
การติดต่อสื่อสาร
LINE ได้อ้างอิงสถิติจาก Nielson ว่าคนไทยใช้เวลาบนสมาร์ทโฟนมากถึง 234 นาที ต่อวัน คิดปัดเลขกลมๆ ก็คือ 4 ชั่วโมงต่อวัน และเป็นการใช้งาน LINE นานถึง 70 นาทีต่อวัน และทาง LINE ก็ตั้งเป้าที่จะให้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนอยู่กับ LINE นานมากขึ้น
คอนเทนต์และเนื้อหา
LINE ได้อ้างอิงสถิติว่าคนไทยใช้เวลาดูวิดีโอออนไลน์สูงถึง 133 นาทีต่อวัน หรือคิดเป็น 2 เท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 65 นาทีต่อวัน และยกข้อมูลจากสมาคมโฆษณาดิจิทัลประเทศไทย (DAAT) ว่างบโฆษณาบนช่องทางดิจิทัลจะเติบโตอีก 30% เลยมีแผนที่จะเพิ่มเนื้อหาบน LINE TV ด้วยคอนเทนต์กลุ่มใหม่ได้แก่ กลุ่มกีฬา, กลุ่มความงาม, ละคร, บันเทิง, เพลง, อนิเมชัน, และการถ่ายทอดสด และเตรียมที่จะขยายจับมือพันธมิตรรายใหญ่อย่าง ช่อง 8, PPTV, Thai Fight, และ Jeban
นอกจากนี้ก็ยังได้เปิดตัว News Tab ที่เป็นแหล่งรวมข่าวให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข่าวสารได้ง่ายขึ้น และมุ่งสู่แพลตฟอร์มข้อมูลข่าวสารอันดับ 1 ของไทย
บริการ
ในช่วงปี 2016 ที่ผ่านมา LINE ได้จับมือพันธมิตรทั้งองค์กรและสตาร์ตอัพหลายเจ้าเพื่อสร้างบริการ Chat BOT ภายในแอป LINE เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้บริการของแต่ผู้ให้บริการได้โดยไม่ต้องติดตั้งแอปเพิ่มเติมภายในเครื่อง ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็มีบริการจากพาร์ทเนอร์อย่าง Wongnai, Uber และแบรนด์อื่นๆ เช่น Lazada, FWD, Citibank, Krungthai AXA, Maybank, Shell และ Uniliver
สนับสนุนการขายสินค้าและบริการ
LINE เล็งเห็นว่าการขายสินค้าออนไลน์หรือ e-commerce ในปัจจุบันยังมีสัดส่วนที่น้อยมากเพียง 3.8% ของมูลค่าการค้าปลีกทั้งหมด จึงมีเป้าหมายที่จะเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างโลกออฟไลน์กับโลกออนไลน์เพื่อสร้างบริการในรูปแบบ O2O (Offline to Online) ให้ร้านค้าออฟไลน์สามารถปรากฏอยุ่บนโลกออนไลน์ได้ จึงนำเสนออุปกรณ์ Beacon ที่ช่วยให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่เปิดใช้งาน Bluetooth เห็นการแจ้งเตือนเมื่อเดินเข้าใกล้ร้านค้า ทางร้านค้าก็สามารถนำ Beacon มาติดตั้งเพื่อโฆษณา หรือมอบโปรโมชันต่างๆ ได้
นอกจากนี้แล้วก็ยังสนับสนุนร้านค้าออนไลน์ต่างๆ เพิ่มด้วยบริการ LINE MAN Postal ที่เน้นบริการรับส่งพัสดุ ที่ให้บริการโดยสตาร์ตอัพชื่อ Alpha เพื่อตอบโจทย์พ่อค้าแม่ขายออนไลน์ในการส่งของให้ลูกค้า
ส่วนตัวชอบ ความเร็วของ วอทแอป ชอบสติกเกอร์ กาเกา แต่ว่า หาคนเล่นด้วยไม่ได้
ก็เลย ต้องใช้ไลน์
เพิ่งหาline liteมาใช้วันนี้
ก่อนอื่นช่วยลดการกิน mem ในเครื่องเรื่อยๆก่อนเถอะ
ไล่ลบ message ต่างๆ ก็ไม่ช่วย
ดูเหมือนจะเก็บ cache พวกรูป/video คาไว้ลึกๆ
แม้ว่าจะ clear การสนทนาคน/กลุ่ม นั้นๆ ทิ้งไปแล้ว
ต้องกด clear data ใน setting สถานเดียว
นั่นหมายถึงหายหมด ซึ่งไม่อยากทำเพราะบางข้อความสำคัญ ไม่ต้องการให้หาย
อย่าให้เยอะกว่านี้เลย รำคาญมากโดยเฉพาะ Line Today ยัดเยียดให้อ่านข่าวอยู่นั่นละ แต่ก่อนชอบไลน์มากเลยนะ สติกเกอร์น่ารัก เดี๋ยวนี้เบื่อมาก จะเลิกเล่นก็ไม่ได้เพราะคนอื่นก็ติดงอมแงมไปละ เฮ้อ