Linksys (ลิงค์ซิส) แบรนด์ชั้นนำเรื่องอุปกรณ์เชื่อมต่อภายในบ้านของบริษัท Belkin International และ Foxconn Interconnect Technology (FIT) ได้เสนอแคมเปญ Mesh is MORE เปิดตัวเราเตอร์รุ่นใหม่ในซีรีส์ iMesh WiFi 6 MR ได้แก่ MR9600 และ MR7350 มาตรฐานระดับโลก รับประกันการใช้งานนานถึง 3 ปี ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 3,990 บาทเท่านั้น (เฉพาะช่วงโปรโมชั่น)

เริ่มกันที่เราเตอร์ตัวท็อปอย่าง Linksys MR9600 กันก่อนเลยดีกว่า โดยตัวนี้จะมากับเทคโนโลยี Intelligent Mesh ใช้ WiFi มาตรฐาน AX6000 สูงสุดในตลาดตอนนี้ เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในปัจจุบันที่ต้องการความเร็วในการเชื่อมต่อและดาวน์โหลดที่เร็วขึ้น MR9600 จะครอบคลุมพื้นที่การใช้งานกว่า 3,000 ตารางฟุต อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้มากกว่า 40 เครื่อง โดยที่ความเร็วไม่ลดลงอีกด้วย MR9600 สามารถทำความเร็ว WiFi ได้สูงสุดที่ 6000 Mbps 

สเปค Linksys MR9600 Dual Band Mesh

  • ความเร็ว WiFi : AX6000 (1147 + 4804)
  • น้ำหนัก : 960 กรัม
  • ขนาด : 169 x 294 x 60 มม. (กว้าง – ยาว – สูง)
  • เสาอากาศแบบปรับได้ : 4 ต้น
  • รองรับ :
    • 4×4 WiFi 6
    • 4×4 MU-MIMO
    • เทคโนโลยี OFDMA
    • 2.4 GHz
    • 5 GHz
  • ควบคุมผ่านแอป Linksys 
  • มีพอร์ต USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต
  • หน่วยประมวลผล : Quad Core 1.8 GHz
  • RAM : 512MB
  • ROM : 512MB
  • พอร์ต 5 Gigabit Ethernet 
    • 1x WAN
    • 4x LAN
  • ความปลอดภัย : WPA2 / WPA3

ส่วนอีกตัวอย่าง Linksys MR7350 แม้ว่าจะมีสเปคที่ลดหลั่นลงมาหน่อย แต่ก็ยังใช้เทคโนโลยี Intelligent Mesh เหมือนกัน ใช้ WiFi มาตรฐาน AX1800 ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานกว่า 1,700 ตารางฟุต เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้มากกว่า 25 เครื่อง ทำความเร็ว WiFi ได้สูงสุดที่ 1800 Mbps 

โดย Linksys MR7350 จะเหมาะกับผู้ที่มีความสนใจอยากจะใช้งาน WiFi 6 ข้อดีคือมีราคาถูกกว่าตัว MR9600 ค่อนข้างเยอะ สเปคที่ได้ใกล้เคียงกัน เว้นแต่ไม่มีเทคโนโลยี VHT160 เหมือน MR9600 ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความเร็วในการ Upload/Download แต่อย่างไรก็ดี สปีดที่เราเตอร์รุ่นนี้ให้ก็ยังเร็วกว่า WiFi 5 อยู่ถึง 40% เลยทีเดียว

สเปค Linksys MR7350 Dual Band Mesh

  • ความเร็ว WiFi : AX1800 (573 + 1201)
  • น้ำหนัก : 567 กรัม
  • ขนาด : 155 x 215 x 56 มม. (กว้าง – ยาว – สูง)
  • เสาอากาศแบบปรับได้ : 2 ต้น
  • รองรับ :
    • 2×2 WiFi 6
    • 2×2 MU-MIMO
    • เทคโนโลยี OFDMA
    • 2.4 GHz
    • 5 GHz
  • ควบคุมผ่านแอป Linksys 
  • มีพอร์ต USB 3.0 จำนวน 1 พอร์ต
  • พอร์ต 5 Gigabit Ethernet 
    • 1x WAN
    • 4x LAN
  • ความปลอดภัย : WPA2 / WPA3

แต่ถ้าใครคิดว่าแค่ WiFi 5 ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ภายในงานเปิดตัวเราเตอร์ซีรีส์ iMesh WiFi 6 MR ทาง Linksys ก็ได้ถือโอกาสนำเจ้า MR6350 มาเปิดตัวด้วย ใช้เทคโนโลยี Intelligent Mesh เหมือนกับสองตัวข้างบน แต่จะรองรับเพียงแค่ WiFi 5 เท่านั้น เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้สูงสุด 25 อุปกรณ์ และทำความเร็ว WiFi ได้สูงสุดที่ 1300 Mbps

ความเร็ว WiFi จะได้แค่ 1300 Mbps นะครับ ในภาพสไลด์บอกข้อมูลผิด

ราคาและวันวางจำหน่ายของ MR9600 และ MR7350

MR9600 พร้อมวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้ สามารถหาซื้อได้ตามร้านไอทีชั้นนำทั่วไป อาทิ JIB, Advice, Banana, Lazada, Shopee, JD Central ฯลฯ ในราคาช่วงโปรโมชั่น 10,990 บาท (จากปกติ 12,990 บาท) ส่วนรุ่น MR7350 จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ในราคาพิเศษช่วงโปรโมชั่นเช่นเดียวกัน 3,990 บาท (จากปกติ 5,190 บาท) ขณะที่ MR6350 จะสนนราคาอยู่ที่ 2,990 บาท (จากปกติ 3,490 บาท)

นอกจากนี้ยังมีสินค้าของ Linksys มาลดราคาอีกเพียบใน Linksys Expo โปรโมชั่นส่งท้ายปี 2020 ดังนี้

  • ซื้อ MX10600 มูลค่า 26,990 บาท รับของแถมฟรี MR7350 มูลค่า 5,190 บาท
  • ซื้อ Velop Tri-Band แพ็ค 3 ในราคาพิเศษ 9,990 บาท จากปกติ 13,900 บาท
  • ซื้อ Velop Dual-Band แพ็ค 3 ในราคาพิเศษ 4,990 บาท จากปกติ 8,990 บาท

**ราคาโปรโมชั่นจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ไปจนถึงสิ้นปี**

MX5300 หรือ MR9600 สเปคใกล้กัน เลือกซื้อรุ่นไหนดี?

ตรงนี้หลายคนอาจจะเกิดความสงสัยว่าหากนำเจ้า MR9600 ที่เพิ่งเปิดตัวไป มาเทียบสเปคกับ MX5300 ตัวไหนจะน่าซื้อกว่ากัน ในส่วนนี้ทางทีมงานก็รวบรวมข้อมูลจากการสอบถามภายในงานเปิดตัวมาให้แล้วดังนี้

  • หากมีอุปกรณ์/คนเยอะ ให้เลือก MX5300 เพราะรองรับการส่งสัญญาณแบบ Tri-Band กระจาย Bandwidth ได้ดีกว่า
  • หากต้องการความเร็วสูงๆ ให้เลือก MR9600 แม้ว่าจะรองรับแค่ Dual-Band ก็ตาม
  • หากต้องการใช้ WiFi 6 ให้เลือก รุ่นไหนก็ได้ ไม่ต่างกัน รองรับ WiFi 6 และเป็นเราเตอร์ซีรีส์เรือธงด้วยกันทั้งคู่