คอมพิวเตอร์ Mac ถือว่าได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นหน้า UI ที่สวยงาม หรือการใช้งานที่ลื่นไหลและเสถียร แถมยังมีข้อได้เปรียบข้อใหญ่ที่ผู้ใช้งาน Mac หลาย ๆ คนต่างภาคภูมิใจก็คือระบบ macOS มี Malware ที่น้อยมากนั่นเอง…แต่ล่าสุดมีข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญที่จะทำให้ผู้ใช้งาน Mac ต้องเริ่มระวังตัวกันบ้างแล้ว เพราะจากรายงานเผยออกมาว่า macOS มีจำนวน Malware ที่เพิ่มมากขึ้นกว่า 10 เท่าภายในช่วงปี 2020 ซึ่งเป็นเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น

Malware บน macOS เพิ่มจำนวนเป็น 10 เท่า ในเวลาแค่ 1 ปี

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ได้ออกมาให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเติบโตของ Malware บน macOS ที่เพิ่มขึ้นแบบพุ่งจรวดจนน่าตกใจ จากสถิติปี 2019 ที่พบเจอ Malware เพียง 56,556 เคส เท่านั้น แต่หากเทียบกับปี 2020 ที่ผ่านมา มีการพบเจอ Malware มากถึง 674,273 เคส ซึ่งถือว่าเติบโตมากกว่า 10 เท่าตัวภายในเวลาเพียง 1 ปี เท่านั้น

กราฟการเติบโตของจำนวน Malware ใน macOS ตั้งแต่ปี 2012-2021

จะยิ่งน่าตกใจเข้าไปอีกหากสังเกตว่าในช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2012 ถึง 2019 ผู้เชี่ยวชาญพบเจอเคส Malware รวมแล้วเพียง 219,257 เคสเท่านั้น ทำให้ปี 2020 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ macOS พบเคส Malware เล่นงานเยอะที่สุดในประวัติการณ์ เรียกว่าเป็นระยะเวลาแค่ปีเดียวแต่กลับมีจำนวนมากกว่าปี 2012 – 2019 รวมกันเสียอีก

นอกจากจำนวนเคสที่ผู้ใช้งาน macOS โดน Malware เล่นงานเยอะขึ้นแล้ว ยังมีเรื่องของ Malware ชนิดใหม่ ๆ ที่ถูกสร้างเพิ่มขึ้นอีก เป็นการบอกนัย ๆ ว่าตอนนี้ Hacker เริ่มหันมาให้ความสนใจกับระบบ macOS มากขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง

Malware บน Windows OS ยังคงกินขาด 

ถึงแม้ว่าอัตราการพบเจอ Malware ของฝั่ง macOS จะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ แต่หากเอาไปเทียบกับ Windows OS ก็ยังถือว่าเด็ก ๆ เลยล่ะ เพราะฝั่งนี้มีเคส Malware มากถึง 91.05 ล้านเคสภายในปี 2020 ที่ผ่านมา ทุบสถิติทุกปีที่ผ่านมา แล้วก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ แบบปีต่อปีเลยทีเดียว

กราฟการเติบโตของจำนวน Malware ใน Windows ตั้งแต่ปี 2012-2021

ถ้าอ้างอิงจากข้อมูลข้างต้น หมายความว่าเหล่า Hacker ฝั่ง Windows OS สามารถเขียน Malware ได้เฉลี่ยวันละ 25o,000 ตัว ในขณะที่ฝั่ง macOS สามารถทำได้เพียง 2,000 ตัวต่อวันเท่านั้น แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าผู้ใช้งาน Windows OS มีมากกว่า macOS อยู่หลายเท่า (ราว ๆ 9 ต่อ 1) ทำให้ Hacker ส่วนใหญ่หันไปเล่นงานผู้ใช้ Windows มากกว่านั่นเองครับ

Apple ก็ได้เปิดตัว mac พร้อมชิปเซ็ต M1 ไปแล้วเมื่อช่วงสิ้นปีที่แล้ว ซึ่ง Hacker ก็จำเป็นต้องพัฒนา Malware ใหม่เพื่อให้สามารถเล่นงานชิปใหม่ได้ด้วย (แต่เนื่องจากจำนวนผู้ใช้ยังมีไม่มากนัก ก็เลยยังไม่มีเคสโผล่มาให้เห็น) เห็นแบบนี้ผู้ใช้งานทุกคนก็ควรท่องโลกอินเทอร์เน็ตกันอย่างระมัดระวังนะครับ เราอาจจะใช้เครื่องมือจำพวก Anti-virus ต่าง ๆ หรือบริการ VPN ควบคู่กันไปด้วยเพื่อความปลอดภัยสูงสุด และเพื่อความชัวร์ อย่าเข้าเว็บไซต์แปลก ๆ รวมถึงดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าไว้ใจด้วยครับ

 

Source: AtlasVPN via Gizchina