เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับแบรนด์ Marshall ที่มีชื่อเสียงจากการผลิตแอมป์กีตาร์กันดี ที่หลัง ๆ มานี้ได้นำเอาเทคโนโลยีเสียงของตัวเองมาทำเป็นลำโพงไร้สายในดีไซน์ย้อนยุคที่ได้รับความนิยมพอสมควร จนล่าสุดก็ได้ตบเท้าเข้ามาลุยในตลาด TWS เป็นครั้งแรก กับการเปิดตัว Marshall Mode II ที่รุ่นอัปเกรดจากหูฟังมีสายแบบธรรมดา มาพร้อมฟีเจอร์และดีไซน์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

ตลาดหูฟัง TWS ถือว่ากำลังอยู่ในอยู่ช่วงขาขึ้นจากหลายสาเหตุ ทั้งความสะดวกสบาย ความคล่องตัวในการใช้งาน อาจรวมถึงการที่ผู้ผลิตมือถือหลาย ๆ รายเลือกตัดแจ็ก 3.5 มม. ออก ทำให้บริษัทเครื่องเสียงต่าง ๆ ทยอยกันมาแจมในตลาดนี้ และทาง Marshall เองก็ไม่พลาดเช่นเดียวกัน

Marshall Mode II มาพร้อมกับดีไซน์ที่แฟน ๆ น่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะคงเอกลักษณ์ของตัวเองเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน หูฟังเป็นรูปแบบ in-ear กลม ๆ ไม่มีก้าน และมีโลโก้ Marshall สีขาวสวยงามติดอยู่ที่บอดี้ การควบคุมทั้งหมดทำด้วยระบบสัมผัส ทั้งเปลี่ยนเพลง รับสาย-วางสาย เรียกใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะ และอื่น ๆ เนื้อวัสดุของหูฟังกับตัวเคสเป็นผิวแบบด้าน ๆ พร้อมลวดลายหนัง ลักษณะคล้ายกับตู้แอมป์ของแบรนด์ ดูพรีเมี่ยมไม่เบาเลยทีเดียว

ตัวหูฟังมาพร้อมกับไดรเวอร์ขนาด 6 มม. ที่สามารถขับย่านเสียงได้ตั้งแต่ 20Hz – 20kHz แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็น่าจะเป็นการจูนเสียงที่ทาง Marshall เคลมว่า เสียงของ Marshall Mode II จะให้ความรู้สึกมีพลังและก้องกังวาน ซึ่งถ้าใครที่ชอบเสียงสไตล์นี้ก็น่าจะไม่ผิดหวังกันแน่นอนครับ

แม้ว่า Marshall Mode II ไม่ได้มาพร้อมกับฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน ANC เหมือนกับหูฟังไร้สายไฮเอนด์คู่แข่งในช่วงราคาไล่เลี่ยกัน แต่อย่างน้อย ๆ ก็มี Transparency Mode ที่เร่งเสียงภายนอกมาให้ด้วยนะ ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็เลือกเปิดหรือปิดได้ง่าย ๆ ด้วยระบบสัมผัสเช่นกัน

นอกจากเรื่องเสียงแล้ว Marshall Mode II ยังเอาใจสายลุยหรือคนชอบออกกำลังกายด้วยมาตรฐานการกันน้ำระดับ IPX5 ไม่ต้องกลัวเหงื่อไปทำอันตรายกับตัวหูฟัง มาพร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถฟังได้ต่อเนื่องถึง 5 ชั่วโมง หากใช้งานร่วมกับเคสจะเพิ่มขึ้นไปอีก 20 ชั่วโมง แบ่งเป็น 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จทั้งหมด 4 ครั้ง ซึ่งถือว่าใช้งานได้ยาวนานพอควรเลย แถมตัวเคสยังรองรับการชาร์จทั้งจาก USB-C และระบบไร้สาย รวมถึงกันน้ำในระดับ IPX4 อีกต่างหาก

Marshall Mode II ได้เปิดวางขายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว มีให้เลือกแค่สีดำสีเดียว สนนราคาอยู่ที่ 199 เหรียญ (ราว ๆ 6,800 บาท ไม่รวมภาษี) ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจไม่เบาเลยทีเดียว โดยเฉพาะหน้าตาที่เรียกได้ว่าดูดีสุด ๆ ส่วนจะนำเข้ามาขายในไทยหรือไม่ และมีราคาเท่าไหร่ก็ต้องรอลุ้นกันอีกทีนะครับ

 

Source: GizmoChina, Marshall