นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) คนล่าสุด ประกาศถอนคำขู่ที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีฯ คนก่อนเคยกล่าวไว้ว่า จะดำเนินการฟ้องต่อศาล เพื่อขอคำสั่งปิดกั้น Facebook ไม่ให้สามารถใช้งานในไทยได้ เนื่องจากแพลตฟอร์มรับเงินค่าโฆษณาจากเพจปลอมโดยไม่ตรวจสอบ — โดยประเสริฐระบุว่า การบล็อก Facebook เป็นเรื่องอ่อนไหว และอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี


นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีต รมว. DES กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่าจะปิด Facebook

ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน Facebook ในไทยมากกว่า 45 ล้านบัญชี แพลตฟอร์มนี้ยังเป็นช่องทางสำคัญสำหรับผู้ประกอบการหลายล้านรายที่ต้องพึ่งพาเครือข่ายโซเชียลมีเดียในการทำการตลาด โปรโมตสินค้า บริการ และอื่น ๆ หาก Facebook ถูกปิดจริง ย่อมเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง

นายประเสริฐระบุว่า เร็ว ๆ นี้จะมีการเชิญผู้บริหาร Facebook จากสิงคโปร์มาหารือร่วมกัน เพื่อหาวิธีจัดการกับเพจปลอมและโฆษณาหลอกลวงอย่างเร่งด่วน เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ นอกจากนี้รัฐมนตรีฯ DES ยังวางแผนที่จะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจภายใน 3 เดือน โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการตรวจหาธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติ

ทั้งนี้ Facebook เองก็มีการใช้ AI ตรวจจับโฆษณาหลอกลวงอยู่แล้ว โดยระบบจะลบโพสต์ที่เข้าข่ายออกทันทีที่ตรวจพบ แต่ปัญหาคือมิจฉาชีพเองก็พัฒนาวิธีการหลอกลวงใหม่ ๆ อยู่ทุกวันเช่นกัน ซึ่งหลาย ๆ ครั้งอัลกอริทึมก็ตรวจไม่เจอ จึงยังมีผู้หลงกลตกเป็นเหยื่ออยู่เป็นจำนวนมาก ตามที่ปรากฏเป็นข่าว

 

ที่มา : Bangkok Post