Microsoft เตรียมยุติการซัพพอร์ต Windows 10 อย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2025 โดยหลังจากนี้จะไม่มีการอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยใดๆ ให้กับระบบนี้อีก แต่สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมอัปเกรดไป Windows 11 ทาง Microsoft ก็มีทางเลือกขยายเวลาซัพพอร์ต Extended Security Updates (ESU) ให้กับผู้ใช้ทั่วไปด้วย โดยจะเปิดให้ต่ออายุในปีแรก (One-year option) ในราคา $30 หรือประมาณ 1,015 บ.
แต่ไม่ได้บอกนะว่าสามารถต่ออายุ ESU ในปีที่ 2 ปีที่ 3 ได้แบบลูกค้าฝั่งองค์กรหรือไม่ โดยสำหรับราคาในฝั่งองค์กรเริ่มต้นที่ $61 และจะเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งนี้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม ESU สำหรับผู้ใช้ทั่วไปจะถูกเปิดเผยอีกทีในช่วงเดือน ต.ค. 2025
และสำหรับใครที่ใช้ต่อ แต่ไม่ได้จ่ายโปรแกรม ESU เพิ่มก็ยังสามารถใช้ Windows 10 ได้ปกตินะ แค่ไม่มีอัปเดตความปลอดภัยใหม่ ๆ ให้แค่นั้น เหมือนกับตอนที่ Windows 7 ยุติการซัพพอร์ตไป
แม้ Windows 11 จะเปิดตัวมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังคงใช้ Windows 10 สาเหตุหลักคือความเสถียรของ Windows 10 ที่มาพร้อมกับบั๊กน้อยกว่า และยังรองรับฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าได้ดี โดยไม่มีข้อกำหนดด้าน TPM 2.0 (ชิปสำหรับตรวจสอบความปลอดภัย) ซึ่งทำให้คอมพิวเตอร์รุ่นเก่าทุกเครื่องสามารถติดตั้ง Windows 10 ได้ ต่างจาก Windows 11 ที่มีข้อกำหนดด้านนี้ ส่งผลให้เครื่องที่ใช้ซีพียู Intel Gen 8 และ AMD Ryzen 2000 หรือต่ำกว่าไม่สามารถติดตั้ง Windows 11 ได้
การเปลี่ยนไปใช้ Windows 11 จึงมาพร้อมภาระในการซื้อเครื่องใหม่สำหรับผู้ใช้ที่ยังใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า ทำให้หลายคนเลือกที่จะอยู่กับ Windows 10 ต่อไป เพื่อลดการซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่และหลีกเลี่ยงการสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์จากการเปลี่ยนอุปกรณ์
ที่มา : theregister microsoft
Comment