หลังจากเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาใน MBK มา 2 วัน ในที่สุดก็เสียตังค์จนได้กับ Moto 360 Gen 2 มันช่างเป็นเนื้อคู่ของผมจริงๆ ต้องเกริ่นก่อนว่า ส่วนตัวชื่นชอบแบรนด์ Motorola มานานแล้ว ตั้งแต่คุณพ่อใช้สมัยมือถือให้บริการแรกๆ มาโด่งดังมากมายกับรุ่น Startac V4 และ V8 เลยติดตามแบรนด์นี้มาเสมอ จนโดน Google ซื้อไป ล่าสุดเรียบร้อยโรงเรียนจีนย้ายไปอยู่ในอ้อมอก Lenovo
ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจ Wearable เลยสักแว๊บ เพราะข้องใจเรื่องแบตเตอรี่ รำคาญต้องมาคอยชาร์จทุกวัน หรือวันละ 2-3 รอบแบบมือถือในปัจจุบัน แบบนี้ไม่เป็นอันทำมาหากินพอดี ดูเวบไปดูเวบมา ผ่านไปเจอรีวิว พออ่านไปอ่านมา Moto 360 Gen 2 มีการเพิ่มขนาดแบตเตอรี่ เลยเริ่มอ่านรีวิวเมืองนอก จนถึงกับคันไม้คันมือไปสั่งในเวบ Moto Maker ด้วยพอดีผมมีฝากเพื่อนเอาของกลับจากอเมริกา เลยกะว่าพ่วงมาอีกชิ้นสบายเลย อยากสั่ง Moto 360 แบบไหนเลือกตามใจชอบ สีตัวเครื่อง สีขอบนาฬิกาด้านบน สายหนัง สายเหล็ก ตามแต่ชอบใจ ปรากฏว่าตังมีแต่ดวงไม่ถึง สายหนังสีน้ำตาลที่เล็งไว้หมดสต๊อก ไม่บอกวันรอของด้วย
ข้อแนะนำสำหรับคนจะสั่งเอง
- มั่นใจว่ามีจุดส่งของในอเมริกา
- สั่งในเวปราคา ส่งฟรี แต่ยังไม่ได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม อีกเท่าไหร่ตามแต่รัฐที่สั่ง
- ต้องมั่นใจว่ามีคนถือกลับมาให้ด้วย เพราะถ้ามีเพื่อนรับของให้ แล้วส่งไปรษณีย์มาเมืองไทย จะโดนภาษีขาเข้าอีกรอบ
บวกลบคูณหารค่าเงินกับเวลาที่ต้องรอของอีกไม่รู้เมื่อไหร่ ประจวบเหมาะ MBK มีแบบที่ผมจะสั่งเข้ามาพอดี เลยขอสั่งในทันใด คำนวณคร่าวๆ จ่ายแพงกว่าพันนิดๆ ไม่ต้องลุ้นรับกับเพื่อนของตอนปีใหม่ ก็เลยจัดไปทันทีจนวันนี้ได้มันมาอยู่ในมือ
สเปค Moto 360 Gen 2
- ตัวนี้เป็นขนาด 46mm บอดี้ silver สายขนาด 22 มม.
- หน้าจอ Gorilla Glass 3
- กันน้ำ IP67 (คือกันน้ำแบบไม่ตั้งใจ ถ้าตั้งใจแช่อาจจะไม่รอด)
UNBOX แกะกล่องเวอร์ชั่นกระชับ ภายในกล่องมีอุปกรณ์ตามนี้
- นาฬิกา พร้อมสายหนังสีน้ำตาล 1 คู่
- แท่นชาร์ต พร้อมสาย micro USB และหัว Adapter
- คู่มือ คำแนะนำ
สายมาเป็นรุ่นใหม่ แกะเปลี่ยนสายง่ายครับ แค่ขยับตัวล๊อค ผู้หญิงก็เปลี่ยนได้ไม่ยาก มาดูที่ตัวเครื่องเลยสัมผัสแรกเบามากๆ เบาจนสงสัยว่า ว่ามันเครื่องเดโมหรือเปล่า หรือว่าเราโดนต้มซะแล้ว > < แต่พอเปิดปุ๊บติดปั๊บ ก็สบายใจไปหนึ่งละ มีคำแนะนำให้โหลดแอพ Android Wear มาเพื่อใช้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ ทำตามไปการ Pair ก็ไม่อยากอะไร ตามคำแนะนำ ต่อติดอย่างง่ายดาย
1) เครื่องทำการ Sync ข้อมูล และ update software อยู่สักพัก
2) พร้อม รีบูทเครื่อง มาพร้อมกับโล้โก้ตัว M ของ Motorola ข้อสังเกต Gen 2 ดูง่ายที่สุดคือปุ่มกดถูกย้ายไปแถวๆ เลข 2 นาฬิกา
3) ด้านซ้ายมีรูไมค์ 1 รู นอกนั้นโล่งเลย
4) ด้านขวามีปุ่มกด 1 อัน เยื้องไปด้านบน ด้านล่างของเครื่องเว้นดำๆ เป็นเซนเซอร์แสงเหมือนเดิม
จับของจริงแอบผิดหวังกับสายนาฬิกาที่ติดมากับตัวเครื่อง ตั้งใจเลือกน้ำตาลมากะว่าสวยแน่ ปรากฏว่าเป็นสายแบบหนัง ดูไม่แพง เลยจัดสายใหม่เลยทันที เดินหาร้านทำสายตอนแรกจะใส่สายหนังแบบ Panerai ก็ไม่มีสายขนาด 22 mm. จะใส่สายเดียวกับ James Bond สีเทาสายตรง ปรากฏว่าสายแบบนั้นมันต้องร้อยสายผ่านตัวเครื่องด้านล่าง เซนเซอร์ทั้งหลายทั้งปวลทำงานไม่ได้ โชคเข้าข้างอีกครั้ง พี่คนขายจัดมาให้สวยงาม เบา เบา 150 บาท พร้อมทั้งใช้แกนอันใหม่ ที่ไม่ทันสมัยเท่าของที่มากับเครื่อง -“- (ของเครื่องเป็นแบบ quick release ถอดสายเองมือเปล่าได้สบาย ที่ผมใส่ช่างบอกต้องไขขวงเท่านั้น)
5) หน้าจอ Minimal ของ Moto 360 สวยและมีสไตล์
6) สายราคา 150 บาท สวยกว่าเดิมเยอะ มีระดับประทับใจ
7) เทียบให้เห็นกับ Apple Watch 38mm กับ Moto 360 46mm ของเราสวยกว่าเยอะ
8) หน้าจอเวลาวางชาร์จ เปลี่ยนสีได้ตามใจชอบแค่เอานิ้วรูด
แท่นชาร์จเป็นแบบวางเครื่อง สามารถวางกลับด้านปุ่มกดอยู่ข้างบน หรือข้างล่างก้อได้ครับ แค่ให้หลังนาฬิกาติดกับแท่นก็พอ ใต้เครื่องมีเซนเซอร์จับชีพจรมาด้วย เท่าที่ลองจับระหว่างเดินก็ใช้งานได้ นั่งขยับข้อมือก็ได้ ไม่เหมือน Apple Watch ของเพื่อนที่ต้องนิ่งๆ เข้าไว้
พูดจริงๆ คือได้มาชั่วโมงแรกเล่นไม่เป็นเลยครับ งงมากถึงมากที่สุด ตั้งสติได้ก็พยายามหาแอพโหลดมาเพื่อเพิ่มศักยภาพจนมาเจอ Watchmaker โหลดลงมือถือ สามารถเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกาตามใจอยากได้เลย แต่ในตัวแอพมีให้โหลดเฉพาะธรรมดานะครับ ติดเรื่องลิขสิทธิ์ถ้าจะหาของมีแบรนด์เนม ต้องไปหามาเองจากหลายๆ เวบ ระวังเรื่องนามสกุลไฟล์ มีทั้ง face watch pujie แล้วแต่แอพที่เราใช้ ผมใช้ Watchmaker ก็ต้องตามหานามสกุล watch ลองโหลดมาเล่นดี อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบ แอพนี้ยังมีความามารถพิเศษคือสร้างหน้าปัดนาฬิกาได้เอง หรือ Modify หน้าปัดที่เราโหลดมาก็ได้ ลูกเล่นเยอะดี ปรับแต่งในมือถือจะสะดวกที่สุด
การทำงานของ Moto 360 เราสามารถตั้งฟังชั่นการเปิดปิดหน้าจอได้ ว่าจะให้ติดตลอด หรือติดเฉพาะเวลาเราขยับข้อมือ หรือติดเฉพาะเวลาเรากดปุ่ม ทำได้หมด แต่ถ้าเราเลือกให้ติดตลอดเวลา ถ้าไม่มีการขยับที่แรงพอต่อเนื่องหน้าจอจะมืดลงนิดนึง ความสว่างหน้าเลือกได้ 5 ระดับ หรือ Auto ใช้ในห้างทั้งวันออกมาก้อมืดผมเลือกระดับ 1 ก้อเพียงพอแล้ว
การใช้งานและฟังชั่นต่างๆ
ปรัชญาเละเทะ !!!
ถ้าใช้ Android Wear ลองติดตั้งตัวนี้ดูครับ จะรู้ว่ามันทำอะไรได้มากกว่านี้อีก เยอะ
https://play.google.com/store/apps/details?id=app.manoth.fahsai&hl=th
มันดีมากแต่หนาเกินไปสำหรับผม
ผมว่าไม่ค่อยหนานะคับ ถ้าเทียบกับพวกนาฬิกาสไตล์ Oversize ด้วยกัน แถมเบามากๆ
แต่อันเดียวที่สังเกตได้คือควมละเอียดความคมหน้าจอ ยังไม่สุด หรือไม่ตาก้อชินกับพวก HD ละ
ผมว่าไม่ค่อยหนานะคับ ถ้าเทียบกับพวกนาฬิกาสไตล์ Oversize ด้วยกัน แถมเบามากๆ
แต่อันเดียวที่สังเกตได้คือควมละเอียดความคมหน้าจอ ยังไม่สุด หรือไม่ตาก้อชินกับพวก HD ละ
เมื่อไหร่จะเต็มจอเหมือน LG ไม่อยากเห็นหน้าจอยิ้ม
ถ้าไม่มีตรงนั้นก็จะเหมือน LG ที่ขอบซีสหนาๆอะดิครับ
ที่มีติ่งเพราะว่ามี sensor วัดแสงไม่ใช่หรอครับ
ซึ่งถ้าเอาออกก็จะเอาติ่งออกได้
ส่วน LG ไม่มี sensor นี้
ถ้าผิดช่วยแก้หน่อยครับ
รุ่นต้นแบบที่เอาเซนเซอร์ไว้ขอบๆ
โดนปรัชญาแต่เช้าเลย
ตัวนี้ ตอบสนองโอเคอยู่นะ ไม่เหมือนตัวแรก เอา CPU ตกรุ่นมาใส่ซะงั้น
ผมใช้ เจน 1 เปลี่ยนสายอยู่…ขาดไม่ได้เหมือนกัน..5555
ผมเคยสั่งตัว gen1ตอนลดราคา มีที่อยู่ในเมกาจริง
แต่ใช้บัตรไทยก็ไม่ส่งครับกันเงินไปเรียบร้อยแล้วก็pending order ซะงั้นต้องโทรไปถามมันบอกว่าต้องใช้บัตรทีนั่นป้องกันการขโมยบัตรมาใช้
รอคืนวงเงินที่กันไปคืนครึ่งเดือนได้มั้ง
บัตรไทยบางเวปสั่งของนอกต้องยืนยันตัวตนด้วยครับ เคยโดนเหมือนกัน แต่ผมใช้ยืนยันชื่อที่ส่ง กับที่บัตรตรงกัน จะคุยง่ายกว่าเยอะ เพราะบัตรชื่อ คนรับชื่อ เค้าคิดว่าขโมยบัตรมา
รีวิวเละเทะมากครับ
Moto ทำได้ทุกอย่างพอๆกับ Apple watch
ทั้งดูรูปจาก Gallery รวมถึงใช้งาน App ต่างๆ ทั้ง Shazam และแอพอื่นๆ ครับ