จากมาตรการของ กสทช. เรื่องการตรวจสอบคัดกรองเบอร์โมบายแบงก์กิ้ง (ซิมการ์ด) ที่ผูกกับบัญชีธนาคารต้องตรงกันนั้น ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนระหว่างการดำเนินการ ซึ่งในวันนี้ก็ยังคงใช้งานแอปธนาคารได้ตามปกติ ไม่ได้มีการระงับการใช้งานตามที่หลายคนเข้าใจ หรือตามที่กระแสข่าวอย่างที่หลายคนกังวล

กรณีผูกซิมกับโมบายแบงก์กิ้ง

อย่างที่หลาย ๆ คนได้ยินกันมาก่อนหน้านี้ว่าทาง กสทช. มีมาตรการรวจสอบคัดกรองเบอร์โมบายแบงก์กิ้ง (ซิมการ์ด) ที่ผูกกับบัญชีธนาคารต้องตรงกัน เพื่อเป็นการป้องกันซิมผี บัญชีม้า ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียลต่าง ๆ นา ๆ โดยปัญหาส่วนใหญ่ที่พบสามารถสรุปออกมาเป็นประเด็นสั้น ๆ ได้ ดังนี้

  • ชื่อของซิมไม่ตรงกับบัญชีธนาคาร เพราะใช้ชื่อของพ่อแม่มาตั้งนานแล้ว
  • บางคนจดทะเบียนซิมในชื่อของตนเอง เพื่อให้ผู้สูงอายุหรือลูกหลานใช้งาน
  • เปลี่ยนชื่อแล้วโปรซิมที่ใช้งานอยู่จะหายไป จึงไม่อยากเปลี่ยน
  • บางบ้านมีจดทะเบียน 1 คน/หลายซิม แต่ใช้งานทั้งบ้าน เพื่อความสะดวก

ความคิดเห็นบางส่วนจากโพสต์เรื่องซิมของเพจ สืบนครบาล IDMB

กทสช. ชี้แจง กรณีจดทะเบียนซิม

ทาง กสทช. ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า กรณีข่าวการตรวจสอบคัดกรองเบอร์โมบายแบงก์กิ้ง (ซิมการ์ด) ที่ผูกกับบัญชีธนาคารต้องตรงกันนั้น ขณะนี้เป็นขั้นตอนอยู่ในระหว่างดำเนินการ โดยในวันที่ 27 พ.ค. 2567 โมบายแบงก์กิ้งยังใช้งานได้ตามปกติ

ซึ่งนโยบายดังกล่าวเป็นการขอความร่วมมือจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคาร ซึ่ง กสทช.เป็นตัวกลางในการประสานงานกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการตรวจสอบข้อมูล เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหามิจฉาชีพสำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์

โดยตามขั้นตอน ธนาคารจะเป็นผู้รวบรวมบัญชีพร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับโมบายแบงก์กิ้ง แล้วส่งให้ ปปง. จากนั้น ปปง.จะรับข้อมูลส่งต่อให้กับสำนักงาน กสทช. เพื่อให้สำนักงาน กสทช.แยกเครือข่าย ก่อนประสานไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ยืนยันอีกครั้งแล้วส่งกลับ

ทั้งนี้ หากใครที่กังวลว่าจะต้องไปเปลี่ยนข้อมูลให้วุ่นวาย บางบ้านได้จดทะเบียนให้ผู้สูงอายุใช้งานอีก ซึ่งทางสำนักงาน กสทช.ได้รับการยืนยันจาก ปปง.ว่า หากมีเหตุผลเพียงพอ สามารถอธิบายความจำเป็นในการใช้งานได้ จะเป็นดุลยพินิจของธนาคารให้การพิจารณายกเว้น

แถลงการณ์จาก กสทช.

ที่มา : กสทช.