Samsung เตรียมเปิดตัว 4 ฟีเจอร์ใหม่ ที่จะมาพร้อมกับการอัปเดตระบบปฎิบัติการเวอร์ชันล่าสุดอย่าง One UI 8 Watch โดยเน้นไปที่ฟีเจอร์สำหรับช่วยดูแล และให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพแบบเจาะลึกด้วย AI และเป็นครั้งแรกของสมาร์ทวอชที่มีฟีเจอร์วัดสารต้านอนุมูลอิสระ (Carotenoids)

เป็นการยืนยันแล้วว่าในปีนี้ Samsung จะข้ามการอัปเดตเวอร์ชัน One UI 7 Watch มาเป็น One UI 8 Watch เพื่อให้ทันกับการเปิดตัว One UI 8 (Android 16) และการเปิดตัว Galaxy Watch 8 Series ที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ โดยการอัปเดต One UI 8 Watch ครั้งนี้จะมีการเพิ่มฟีเจอร์เกี่ยวกับสุขภาพเชิงลึกเข้ามาใหม่ถึง 4 ฟีเจอร์ ดังนี้
1. วัดสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย – Antioxidant Index
ฟีเจอร์ Antioxidant Index ถือเป็นครั้งแรกของวงการสมาร์ทวอช ที่ผู้ใช้สามารถวัดระดับสารต้านอนุมูลอิสระ (Carotenoids) ที่สะสมอยู่บนผิวหนังได้ง่ายๆ ผ่านข้อมือของตนเอง
การทำงานของฟีเจอร์ Antioxidant Index จะเป็นการใช้เซ็นเซอร์ BioActive Sensor สแกนผิวหนังบริเวณข้อมือของเรา เพื่อประเมินระดับสารต้านอนุมูลอิสระ ภายในเวลา 5 วินาที เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้ปรับพฤติกรรมการกิน หันมาทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของตัวเองมากขึ้น

**สามารถใช้งานได้บน Galaxy Watch Ultra หรือสมาร์ทวอชรุ่นที่เปิดตัวหลังจากนั้นเป็นต้นไป
2. แนะนำเวลานอนที่เหมาะสม – Bedtime Guidance
ฟีเจอร์ Bedtime Guideance จะช่วยแนะนำเวลาเข้านอนให้กับผู้ใช้งาน ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลการนอนหลับ 3 วันล่าสุด และทำการประเมินค่าความง่วงสะสม (Sleep Pressure) กับวงจรการตื่นนอน (Circadian Rhythm)
หลังจากนั้น ผู้ใช้งานจะได้คำแนะนำเกี่ยวกับเวลาเข้านอนที่เหมาะสมมากที่ เหมาะสำหรับคนที่มีตารางการนอนไม่แน่นอน หรือเข้านอนดึกบ่อยๆ ช่วยให้การพักผ่อนมีคุณภาพ สามารถตื่นเช้าได้แบบสดใส

3. เช็กสุขภาพหลอดเลือดขณะหลับ – Vascular Load
ฟีเจอร์ดังกล่าวทำงานด้วยการให้ Galaxy Watch วัดความเครียดของหลอดเลือด (Vascular Load) ของเราในระหว่างการนอนหลับโดยอัตโนมัติ พร้อมประเมิน และสรุปข้อมูลความผันผวนที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจได้
ฟีเจอร์ดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพหลอดเลือดเชิงลึก เพื่อนำไปปรับใช้กับไลฟ์สไตล์การนอน การออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตไม่ให้ร่างกายเกิดความเครียดมากจนเกินไป

**สามารถใช้งานได้บน Galaxy Watch Ultra หรือสมาร์ทวอชรุ่นที่เปิดตัวหลังจากนั้นเป็นต้นไป
4. โค้ชวางแผนการวิ่งส่วนบุคคล – Running Coach
ฟีเจอร์ Running Coach ถูกออกแบบมาสำหรับนักวิ่งมือใหม่ไปจนถึงนักวิ่งระดับมือโปร แก้ปัญหาการวิ่งที่เกิดจากการฝึกซ้อมที่มากหรือน้อยเกินไป พร้อมให้คำแนะนำการวิ่งที่เหมาะสมกับร่างกาย และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
การทำงานของฟีเจอร์ Running Coach ให้เราทำการสวม Galaxy Watch แล้ววิ่งเป็นเวลา 12 นาที ระบบจะวิเคราะห์ และให้คะแนนระดับการวิ่งของเราตั้งแต่ 1-10 จากนั้นจะสร้างแผนการวิ่งโดยละเอียดให้อัตโนมัติ ครอบคลุมตั้งแต่ระยะการวิ่ง 5 กิโลเมตร, 10 กิโลเมตร, ฮาล์ฟมาราธอน และฟูลมาราธอน

**สามารถใช้งานได้บน Galaxy Watch 7 หรือสมาร์ทวอชที่เปิดตัวหลังจากนั้นเป็นต้นไป
ระบบปฏิบัติการ One UI 8 Watc ทาง Samsung จะเปิดโปรแกรมเบต้าให้กับผู้ที่ใช้งาน Galaxy Watch 5 Series ขึ้นไป ในประเทศเกาหลี และสหรัฐอเมริกา ได้เข้าร่วมกันก่อนเป็นลำดับแรกๆ
ที่มา: Samsung
Comment