มีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งชี้ให้เห็นถึงจุดจบของกล้อง DSLR อยู่รำไรในช่วงหลัง รอบ 10 ปีที่ผ่านมา ยอดขายของกล้องในกลุ่มนี้ลดลงอย่างต่อเนื่องในชนิดที่ไม่มีเพิ่มขึ้นแม้แต่ปีเดียว ค่ายใหญ่อย่าง Canon กับ Sony ต่างแสดงจุดยืนไปในทิศทางเดียวกัน คือ หันไปโฟกัสกับกล้อง Mirrorless ที่ดูมีอนาคตสดใสมากกว่า และล่าสุดมีรายงานว่า Nikon ก็เป็นอีกรายที่เตรียมจะยกธงขาวถอยทัพแล้วเหมือนกัน
ทำไมกล้อง DSLR ถึงเข้าสู่ยุตตกต่ำ
ยอดขาย DSLR ดิ่งเหวยาว ๆ ไม่มีวี่แววจะฟื้น
สาเหตุของการตกต่ำของกล้อง DSLR หลัก ๆ มาจากปัจจัย 2 ข้อ อย่างแรกคือ สมาร์ทโฟน ที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพไปได้อย่างรวดเร็ว จนคุณภาพเป็นที่พึงพอใจสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ในขณะที่มีข้อได้เปรียบอย่างมหาศาลในเรื่องของความสะดวกในการพกพา เห็นได้จากยอดขายโดยรวมของอุปกรณ์ทั้ง 2 ประเภทนี้ที่สวนทางกันอย่างชัดเจน ฝ่ายหนึ่งมีแต่ลดลง ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง
พอมาเทียบกับยอดขายสมร์ทโฟน คือไปคนละทางแล้ว
อย่างถัดมาคือ กล้อง Mirrorless ที่เปรียบเสมือนเป็นร่างอัปเกรดของ DSLR โดยการตัดกระจกสะท้อนภาพออก ทำให้บอดี้มีขนาดกะทัดรัดขึ้นอย่างมาก น้ำหนักก็เบาลง พื้นที่ภายในที่ได้คืนมาก็เอาไปใส่เทคโนโลยีล้ำ ๆ อย่างอื่นเข้าไปได้ ส่วน LCD หรือ EVF ที่เข้ามาแทนที่ช่องมองภาพแบบเดิม ๆ ก็ทำอะไรได้มากกว่า สามารถแสดงผลเป็นภาพพรีวิวให้ดูได้แบบเรียลไทม์ ไม่ต้องมาลุ้นว่าภาพจะเป็นยังไงหลังลั่นชัตเตอร์
คือ DSLR จะแข่งกับ Mirrorless ที่เป็นกล้องด้วยกันเองยังมองแทบไม่เห็นทางชนะเลย เจอความแข็งแกร่งของตลาดมือถือเข้ามาถล่มอีกทางยิ่งไม่ต้องพูดถึง มองไปทางไหนก็ตายลูกเดียว
ไปก่อนละจ้า…
กล้อง DSLR กำลังจะหยุดนิ่ง กล้องมือกำลังจะแซง (?)
แผนการพัฒนากล้องมือถือของ Sony มั่นใจแซง DSLR ได้ใน 2 ปี
ทาง Sony ที่ปัจจุบันเป็นผู้นำอันดับ 2 ในตลาดกล้องดิจิทัล (อันดับ 1 และ 3 คือ Canon และ Nikon ตามลำดับ) เคยเปิดเผยมุมมองว่า “กล้องสมาร์ทโฟนจะสามารถแซงหน้ากล้อง DSLR ได้ในอีก 2 ปีถัดจากนี้” ซึ่งดูแล้วก็มีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะสถานะของ DSLR ตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากนาฬิกาเรือนเก่าที่ถ่านกำลังจะหมดลง ทำได้แค่รอวันหยุดเดินอย่างเงียบ ๆ เท่านั้นเอง
Nikon แถลงการณ์คลุมเครือ ไม่ยอมรับตรง ๆ แต่ก็ไม่ปฏิเสธเช่นกัน
D5600 ถูกประกาศเลิกผลิตไปเมื่อเดือนก่อน
ทั้งนี้ รายงานเรื่องการถอนตัวจากธุรกิจ DSLR ของ Nikon มีต้นทางมาจาแหล่งข่าววงในของ Nikkei ซึ่งเป็นสื่อใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือสูง แต่ภายหลัง Nikon ได้ออกแถลงการณ์ว่า “ข่าวดังกล่าวเป็นเพียงการคาดเดาของสื่อ ซึ่ง Nikon ไม่ได้มีการยืนยันหรือประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ”
สื่อชื่อดังอีกเจ้าอย่าง The Verge ให้ความเห็นในกรณีนี้ว่า ทาง Nikon ออกแถลงการณ์มาแบบนี้ก็จริง แต่ในคำแถลงไม่ได้มีการยืนยันหรือปฏิเสธโดยตรง เรื่องนี้จึงเป็นไปได้ทั้ง ‘จริง’ และ ‘ไม่จริง’ แต่เรื่องที่จริงแน่ ๆ เรื่องหนึ่งคือ เดือนที่แล้ว Nikon พึ่งประกาศเลิกผลิต D3500 และ D5600 ที่เป็นกล้อง DSLR ไปหมาด ๆ
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นนั่นแหละ แต่ซอฟต์แวร์กล้องมือถือนี่มาแรงจริงๆ เพราะมือถือมีปมด้อยที่ขนาดเล็ก มีข้อจำกัดเรื่องขนาดเซ็นเซอร์อยู่แล้ว เลยดิ้นรนสุดๆ จนได้ดี ในขณะที่กล้อง DSLR, MRL ที่สบายแฮเรื่องขนาด แต่ซอฟต์แวร์นี่คนละเรื่องกับของมือถือเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีจุดเด่นเรื่องคุณภาพอยู่ ที่ยังไงๆ มือถือก็สู้ไม่ได้ รวมถึงความคล่องตัวฉับไวในการทำงาน (ไม่ได้หมายถึงการพกพา) ผู้ใช้จึงแบ่งออกเป็นสองสาย สายสบายๆ ที่รับได้กับคุณภาพมือถือ และสายจริงจังที่เน้นคุณภาพขั้นสุด
.
แต่ก่อนผมใช้มือถือ Note5 มีกล้องตัวเดียว พกกล้อง MRL พร้อมเลนส์ 12-32 ไปก็ยังชอบใช้กล้องมากกว่า เพราะซูมได้ (แม้จะน้อย) และคุณภาพดี แต่พอซื้อ S21U ที่มีเลนส์ครบทุกระยะ ไอ้กล้อง MRL 12-32 ผมนี่หมาไปเลย เพราะระยะมันไม่อเนกประสงค์แล้ว ขนาดพก Lumix G9 14-140 ที่คุณภาพดีกว่าและระยะอเนกประสงค์แล้ว (ยกเว้นไวด์) ก็ยังไม่คล่องเท่ามือถืออยู่ดี เพราะมันถ่ายแล้วสวยเลย ใช้งานได้เลย โพสต์ได้เลย ในขณะที่ภาพจากกล้องต้องนำเข้ามือถือหรือคอมฯ ไปปรับแต่งอีกหน่อยถึงจะสวย ทำให้ภาพรวมมันช้ากว่า แต่ก็ได้คุณภาพที่ดีกว่า ดังนั้น ถ้าเน้นสวยเร็ว มือถือสมัยนี้กินขาดจริงๆ ถ้าไม่ใช่งานแบบถ่ายยากฮาร์ดคอร์ มือถือคือตอบโจทย์และจบในตัวได้เลย