หลายวันก่อน ทีวีเจ้ากรรม ใช้งานมา5-6 ปี เกิดงอแง เปิดไม่ติด เพราะอายุการใช้งานค่อนข้างเยอะแล้ว ทีแล้วก็กะเอาไปซ่อมที่ร้านซ่อมแถวบ้าน แต่ช่างบอกว่า จอเสื่อมถ้าเปลี่ยนจอ ต้องเสียหลายพันเลย เราก็เห็นว่าไม่คุ้มแน่ถ้าจะซ่อม เลยตัดสินใจจะปลดเกษียรมันสะแล้วหาเครื่องอื่นมาใช้แทน แต่เอ๊ะ! แล้วจะเอายี่ห้ออะไรรุ่นอะไรดีละ ก็ลองไปถามอากู้ดู (google) ต้องยอมรีบว่า เดี๋ยวนี้ทีวีดีๆมีเยอะมาก แต่ราคาค่อนข้างสูง โดยตั้งโจทย์เอาไว้แบบนี้
1 ราคาประหยัด (อันนี้สำคัญที่สุด)
2 ดีไซน์สวยเรียบหรู
3 มีนวัตกรรมที่ทันสมัยและฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากความสามารถ
4 ไม่เหมือนใคร
ด้วยความต้องการทั้งหมดนี้ก็ได้มาหลายรุ่นเลย ไม่ว่าจะเป็น samsung lg sony แต่เอ๊ะ ไปเจอทีวีอยู่ยี่ห้อหนึ่ง provision ก็เลยสงสัยทีวียี่ห้อนี่มีด้วยหรือ? ด้วยความสงสัยอยากรู้อยากเห็น เลยไปหาข้อมูลมา จนไปเจอเว็บของ กสทช. เขาประกาศการขึ้นทะเบียน
อ้างอิง : http://broadcast.nbtc.go.th/tools/tvdigitaltool
เห็นว่าเป็น ทีวี Android? คิดในใจเฮ้ยเดี๋ยวนี้ Angry Bird มายิงหมูในทีวีแล้วหรอ เอาละหลังจากดูข้อมูลมาแล้วก็ถึงเวลา ไปซื้อจริง พอดีว่าที่อยู่ อยู่แถวท่าพระ จะมีเดอะมอลล์ท่าพระอยู่แถวนั้น แล้วก็มีร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า อยู่ใกล้กัน ร้านใหญ่พอสมควร เดินเข้าไปในร้านก็เจอทีวีเยอะแยะเต็มไปหมดแบรนด์ต่างๆ พนักงานก็เข้ามาสอบถามเรา
“ ขอโทษครับกำลังมองหาสินค้าตัวไหนเป็นพิเศษไหมครับ” เราก็บอกว่า
“กำลังอยากจะได้ทีวีขนาดสัก 32-42 นิ้ว มีตัวไหนแนะนำบ้างครับ”
พนักงานก็แนะนำมาหมดเลยทั้งโน่นนี่นั้น พูดจนน้ำไหลไฟดับเลย (เอาแล้วไงเลือกไม่ถูกเลยไหมละเยอะจัด)
เลยถามพนักงานว่า มีทีวีดิจิตอลไหมครับ พนักงานเลยแนะนำทีวีโปรวิชั่น (นั้นไง กำลังสงสัยกับเจ้าตัวนี้อยู่พอดี)
ตัวนี้เป็นรุ่น LT-42ED7 Android Smart TV ระบบปฏิบัติการเป็น Android คิดในใจเฮ้ยนี้มัน แท็บเล็ต ติดพนังชัดๆเลยนินา จอกว้าง และเป็น Android Smart TV อีก แต่ราคาคิดว่าคงแพงแน่ๆ เลยถามพนักงาน
ผม : “เครื่องนี้ราคาเท่าไหร่ครับ?”
พนักงาน : “อ่อ เครื่องนี้ราคา 19,XXX”

ผมได้ยินอย่างนั้นถึงกับอึ้งเลยครับ กำราคาแค่หมื่นกว่าบาท กับคุณสมบัติขนาดนี้ในใจผมคิดว่าสัก สองหมื่น สองหมื่นห้าด้วยซ้ำ ถูกใจเลยครับ ราคาไม่แพงอย่าที่ตั้งใจไว้แต่แรก ดีไซน์โดยรวมถือว่าทำได้ดีครับ เรียบๆหรูๆดี หลังจากนั้นเลยตัดสินใจซื้อเจ้าเครื่องนี้มาใช้ที่บ้าน เอาละหลังจากเกรินนำ(เยอะไปน่ะ) กันมาพอสมควรเรามาดูที่ตัวทีวีกันดีกว่า มันจะใช้งานได้อย่างที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกหรือไม่

ตัวทีวีมีพอร์ตต่างๆเยอะแยะมากมายทั้ง HDMI , AV,VGA,Componets ต่างๆ สามารถต่อเข้ากับคอมหรือเครื่องเล่นต่างๆเพื่อดูแบบ HD ได้เลย

ด้านข้างๆมีปุ่มต่าง เพิ่มเสียงลดเสียง เปลี่ยนช่อง ปุ่มเปิด ปิด


ตัวรีโหมท มีปุ่มฟังก?ชั่นต่างๆ โดยเฉพาะปุ่มตัว “E” อันนี้แหละที่อยากลองเล่น เดี๋ยวจะพูดถึงในทีหลัง ต่อไปมาดูระบบของทีวีกันบ้าง เมื่อเปิดขึ้นมาทีแรก ตกใจเลยทำไมเป็นจอน้ำเงินละ ทั้งๆที่เสียบสายอากาศแล้ว กดที่ปุ่ม “Source” จะมีเมนูขึ้นมาให้เราทำการค้นหาช่องรายการก่อน เลือก เป็น Auto เลยค้นหาสัญญาณแล้วหลังจากนั้นก็ค้นหาไปเรื่อยรอจนกว่ามันจะค้นหาให้เราเสร็จ ก็สามารถดูได้ตามปกติแล้ว เย้ๆ ได้ดู HD จอใหญ่สมใจแล้ว

ภาพระดับ HD หลังจากค้นหาสัญญาณ ความละเอียดสูง ภาพคมชัดมากๆ
ต่อมาเรามาดูเจ้าปุ่ม “E” ตัวนี้กันดีกว่าครับ น่าสนใจมากๆ
พอกดเข้าไปปุ่ม ก็จะมีข้อความขึ้นมาว่าเป็น Android คลายๆในโทรศัพท์เราเลย

พอเข้ามาแล้วก็จะเจอกับหน้าตาของ UI(User interface) ที่ออกโทนสีน้ำเงิน
ไม่รีรอเข้าไปดูข้อมูลของเจ้าตัว Android ตัวนี้ทันที ตัวนี้มาพร้อมกับ Android version 2.3 kernel 2.6
โอเคเรามาดูในส่วนของฟังก์ชั่นการทำงานกัน โดยคราวๆน่ะ เพราะเมนูส่วนใหญ่จะคลายๆในโทรศัพท์ที่เราๆใช้กันอยู่ มี Smart App,Multimedia,setting,system management

ลองเข้าไปที่หมวดหมู่ของแอพ โอ้โห!! มีแอพต่างๆมากมายเลย มี Google Play ให้โหลดแอพมาติดตั้งได้ไม่อั้น โทรศัพท์ทำอะไรได้ ทีวีเครื่องนี้ทำได้หมด



ไม่รอช้าผมลองโหลดแอพที่ใช้เป็นประจำมาลองเล่นดู ไม่ว่าจะเป็น Facebook Tweeter Line ฯลฯ เยอะแยะมากมายครับ เอาเป็นว่าใครอยากลงอะไรลงได้หมด (มันเจ๋งดีจริงๆเลย) จากการลองใช้งานดูแล้ว ถือว่าใช้ได้ดีทีเดียวเลยครับ ไม่กระตุก แอพไม่เด้ง ทำงานลื่นมากๆ
เอาละหลังจากลองใช้ไปได้สักพักหนึ่ง แน่นอนว่ามันต้องมีข้อดีข้อเสียเรามาดูกันมีอะไรบ้าง
ข้อดี
1. ภาพและเสียงคมชัด สามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าได้ทันทีในแบบที่ชอบ
2. มีช่อง Input ให้หลายรูปแบบทั้ง HDMIx2,VGA,AV,USB,YPbPr
3. เมนูการตั้งค่าต่างๆมีภาษาให้เลือกมากมาย มีทั้ง อังกฤษ,ไทย ฯลฯ
4. มีระบบ Android ที่มาพร้อมในตัวเครื่องไม่จำเป็นต้องซื้อกล้องมาเสียบเพิ่ม
5. สามารถโหลดแอปพลิเคชั่นต่างๆได้ไม่จำกัด สามารถ ชิงค์ข้อมูลกับมือถือได้จาก แอคเคาว์ที่มีอยู่แล้ว
6. ดีไซน์ที่เรียบหรู บาง และเบา สามารถยึด หรือแขวนติดกับผนังได้
7. ราคาไม่แพง อันนี้สำคัญ
ข้อเสีย
1. ถ้าหากอยู่ในที่อัพสัญญาณอาจค้นหาช่องสัญญาณได้น้อยลง
2. เมื่อเข้าสู่โหมดของ Android จะใช้เวลาสักครู่ก่อนจะเข้าระบบ เหมือนเปิดเครื่องโทรศัพท์ใหม่นั้นเอง
3. ไม่สามารถดูทีวีพร้อมกับใช้งาน Android ได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากมีแอปพลิเคชั่นที่ใช้ดูทีวีอยู่ด้วย
4. ตัว Version Android ยังเป็น 2.3 อยู่ซึ่งปัจจุบันโทรศัพท์เป็น 4.0 แล้ว (คาดว่าน่าจะมีการอัพเดทในอนาคต)

โดยรวมแล้วสำหรับผม เต็ม 10 ผมให้ 8.9 ทั้งความสามารถ ทั้งระบบฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ มี Android ในตัวรองรับการใช้งานที่หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพ อีกด้วย แถมยังราคาไม่แพงมากอีกด้วยเมื่อเทียบกับแบรนด์ใหญ่ๆ ตัวนี้ถือว่าคุ้มครับ สนับสนุนคนไทยด้วยกัน ให้ก้าวไปข้างหน้า สำหรับใครที่มองหาทีวีที่ตอบโจทย์ในด้านการทำงานที่หลากหลายผมแนะนำตัวนี้เลยครับ น่าสนใจมากๆ