หลังจากห่างหายไปนานเกือบเดือนกับเกม LINE Dragonica Mobile เกมตัวแรงของค่าย Asiasoft ที่ปีนี้หันมาลุยกับตลาดเกมมือถือบ้างแล้ว โดยในรอบนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปตะลุยกับ Raid Boss แต่เราไม่ได้มาโชว์ความโหดของ Boss แต่อย่างใด แต่เราจะว่ากันด้วยเรื่องเมื่อ Boss เป็นเรื่องขนมๆ ส่วนเรื่องราวจะเป็นยังไงนั้นเราไปดูกันเลย
เงื่อนไขการเข้า Raid Boss
ต้องเล่นผ่านดันเจี้ยนระดับ “ ยาก “ ของด่าน 1-10 แต่ละ Stage ก่อนอย่างเช่น ผ่าน Stage 1 “Path of Heros” จะเข้า Raid Boss “Thon’s Swamp” ได้
เราสามารถชนะได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้นต่อวัน
สามารถพาเพื่อนๆ ไปได้อีก 2 คน แต่ถ้าไม่มีเพื่อนคบ ก็สามารถกดค้นหาได้เพื่อนร่วมทีมได้
ข้อสุดท้ายคือ “ ใจกล้า ของถึง 555 “ ในที่นี้หมายถึง เราต้องมีความใจกล้าที่ลุย อย่ากลัวเพราะบอสตัวใหญ่กว่า และที่สำคัญไอเทมในตัวละครของเราต้องเทพ สามารถสู้กับบอสได้ ข้อนี้สำคัญ ถ้าใจไม่กล้า ของไม่ถึง สู้ยังไงบอสก็ไม่ตาย
หากผ่าน Stage 1 “Path of Heros” จะเข้า Raid Boss “Thon’s Swamp” ได้
รู้หรือไม่ Raid Boss ไม่มีมอนสเตอร์อย่างอื่นเลยนะ!
ในดันเจี้ยนปกติ เวลาเราเจอบอสเรามักจะเห็นมอนสเตอร์ หรือลูกน้องของบอส คอยติดตามบอสประจำดันเจี้ยนนั้นๆ เสมอ แต่ภายใน Raid Boss จะมีบอสเพียงตัวเดียวเท่านั้น ซึ่ง Raid Boss จะมีอยู่ด้วยกัน 8 ระดับได้แก่
Thon’s Swamp: จะเข้าได้จะต้องการเคลียร์ Chapter 1 : Hard Mode 1-10 (เหมาะสำหรับเลเวล 20-30)
ZeroBolt’s Crystal Cave: จะเข้าได้จะต้องการเคลียร์ Chapter 2 : Hard Mode 1-10 (เหมาะสำหรับเลเวล 30-40)
Lava inside Kane St.: จะเข้าได้จะต้องการเคลียร์ Chapter 3 : Hard Mode 1-10 (เหมาะสำหรับเลเวล 35-45)
Ice Dragon’s Iceberg: จะเข้าได้จะต้องการเคลียร์ Chapter 4 : Hard Mode 1-10 (เหมาะสำหรับเลเวล 40-50)
Amethyst Mines: จะเข้าได้จะต้องการเคลียร์ Chapter 5 : Hard Mode 1-10 (เหมาะสำหรับเลเวล 45-55)
Valley in the Pool: จะเข้าได้จะต้องการเคลียร์ Chapter 6 : Hard Mode 1-10 (เหมาะสำหรับเลเวล 50-55)
Altar of the Brave: จะเข้าได้จะต้องการเคลียร์ Chapter 7 : Hard Mode 1-10 (เหมาะสำหรับเลเวล 55-60)
Chateau secret room: จะเข้าได้จะต้องการเคลียร์ Chapter 8 : Hard Mode 1-10 (เหมาะสำหรับเลเวล 60-65)
ความแตกต่างของแต่ละ Boss คือไอเทมที่ดรอป และความยากตามเลเวลของดันเจี้ยน
เทคนิคการลง Raid Boss แต่ละระดับ
เทคนิคการลง Raid Boss นั้นจะมีเคล็ดลับก็คือ การหลบ Raid Boss นั้นทำได้ง่ายมากๆ เพราะบอสแต่ละดันเจี้ยนจะมีเส้นสีแดงลากบนพื้น เพื่อจะบอกกับเราว่าตรงนั้นสกิลของข้าจะลงแล้วนะ ให้เรากดเดินออกได้ แต่ว่าจะมีระดับหลังๆ ที่ไม่มีเส้นสีแดงแล้ว ซึ่งวิธีแก้ทางก็ง่ายๆ คือ เพื่อนๆ จะต้องจำรูปแบบการใช้สกิลของบอสตัวที่ต้องการลงเอาไว้ให้ดี ซึ่งตรงนี้ต้องอาศัยการลงบ่อยๆ แรกอาจจะตายบ่อยแต่ถ้าจำได้แล้วจะสบายเลยละ ยกตัวอย่าง การรูปแบบการใช้สกิลของบอส อย่างเช่น ยกมือข้างซ้าย สกิลจะมาตรงนี้ ขยับตัวทางนี้จะสกิลตรงนี้ เป็นต้น
หากจำรูปแบบการใช้สกิลของ Boss ได้ เราจะไม่ลำบาก
นอกจากนี้แล้วการโจมตีบอสกลับนั้น เราควรเล็งตอนที่บอสโจมตีเรามา เพราะมันจะเป็นจังหวะที่บอสชะงักไปเสี้ยววินาที เพราะถ้าใช้ในจังหวะที่บอสยังไม่โจมตีเรา แล้วบังเอิญบอสยัดสกิลพอดีรับรอง ได้กดยารัวๆ แน่นอน
อีกสิ่งนึงที่สำคัญมากๆ เวลาที่เราลงดันเจี้ยน Raid Boss เมื่อเราลงไปสักได้สักระยะนึง บอสจะทำการเรียกเสาหินขึ้นมา ให้เรารีบทำลายเสาหินพวกนี้ก่อน ข้อดีของการทำลายเสาหินคือ จะทำให้เลือดบอสลดเยอะมากๆ ข้อเสียถ้าเราไม่รีบทำลายเสาหินพวกนี้คือ มันจะเล่นงานเราหนักมาก
การโจมตีของบอสค่อนข้างแรงมาก สิ่งที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ามาคือไอเทมฟื้นพลังต่างๆ ระดับของไอเทมตัวละคร สกิลตัวละคร และเลเวลตัวละคร ควรมีมากกว่าดันเจี้ยนที่เราจะลงอย่างเช่นจะลง ดันเจี้ยน Thon’s Swamp ควรจะมีเลเวลสัก 25 – 30 เพื่อที่เราจะได้ทนรับสกิลของบอสได้ ไม่ตายในสกิลเดียว ยาฟื้นฟูเลือดก็ควรมีให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้
บอสตัวใหญ่มากกก!!
ไอเทมที่ได้จาก Raid Boss
ของที่ดรอปจาก Raid Boss นั้นยังไงก็คุ้ม เพราะไอเทมที่ดรอปนั้นจะมีโอกาสดรอปไอเทมระดับดี ไปจนถึงระดับ H ไอเทมระดับสีทองที่หาไม่ได้นอกจาก Raid Boss เท่านั้น
ถ้าดวงดีก็ได้ไอเทมระดับ H!!!
การลงดันเจี้ยน Raid Boss นั้นไม่ควรลงคนเดียว ถ้าหากไอเทมยังไม่ถึงพอ ทางที่ดีควรลงให้เต็มครบ 3 คนจะดีกว่าอย่างน้อยก็จะได้ไม่เสียเวลาลงไปฟรีๆ เมื่อไอเทมและเลเวลเราพร้อมแล้วการลงคนเดียวก็ไม่สายจนเกินไป.. ในบทความหน้าจะเป็นการเจาะลึกว่าบอสแต่ละตัวต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง จำนวนไอเทมฟื้นฟูที่เหมาะสมสำหรับการลงแต่ละรอบ ถ้าไม่มีเพื่อนคบ ควรลงเลเวลเท่าไหร่ดี บทความหน้าเจอกันแน่นอน!!
Comment