รฟท. เปิดให้บริการจองและซื้อตั๋วโดยสารผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยระบบ e-TSRT เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารในการใช้บริการซื้อหรือจองตั๋วโดยสารรถไฟล่วงหน้าผ่านทางอินเทอร์เน็ต และสามารถชำระค่าโดยสารผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้ทันที เริ่มเปิดให้บริการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป 

สำหรับการจองและซื้อตั๋วรถไฟผ่านระบบ e-TSRT มีข้อกำหนดและเงื่อนไข ดังนี้ 

  1. ผู้โดยสารจะต้องสมัครสมาชิกที่ระบบ e-TSRT ก่อนเพื่อใช้ในการสำรองที่นั่ง (www.thairailwayticket.com)
  2. ระยะเวลาการจำหน่ายตั๋วและสำรองที่นั่งล่วงหน้า 60 วัน
  3. สามารถสำรองที่นั่งได้ก่อนขบวนรถออก 2 ชม.
  4. ให้บริการเฉพาะเชิงพาณิชย์ใน 3 เส้นทาง (ไม่รวมขบวนรถนำเที่ยว) คือ เส้นทางสายเหนือ, เส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ, เส้นทางสายใต้
  5. ให้บริการเฉพาะตั๋วเต็มราคา ผู้ใหญ่ และเด็กเท่านั้น (มีสิทธิ์ลดราคา 50% สำหรับเด็กที่มีส่วนสูงตั้งแต่ 100 เซนติเมตร ขึ้นไปและไม่เกิน 150 เซนติเมตรเท่านั้น)
  6. การสำรองที่นั่งทาง Internet สามารถสำรองได้ไม่เกิน 4 ที่นั่งต่อการทำรายการ 1 ครั้ง
  7. ผู้โดยสารสามารถเลือกที่นั่งได้เอง หรือให้ระบบ e-TSRT ทำการจัดที่นั่งโดยอัตโนมัติ
  8. การชำระเงินค่าตั๋ว จะรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตระบบ VISA, Mastercard, JCB และบัตรเดบิตของธนาคารกรุงเทพ, กรุงไทย, กสิกรไทย, กรุงศรีอยุธยา และไทยพาณิชย์ ที่อยู่ในระบบ VISA และ Mastercard 
  9. ผู้โดยสารต้องพิมพ์ตั๋วที่ได้จากระบบ สำหรับใช้ในการเดินทาง
  10. การเลื่อนชั้น, เปลี่ยนแปลงตั๋ว สามารถทำได้ที่สถานีรถไฟเท่านั้น
  11. การยกเลิก และขอคืนเงินสามารถทำการยกเลิกได้ที่ระบบ e-TSRT โดยจะทำการคืนเงินเข้าสู่บัญชีบัตรเครดิต, ทำการยกเลิกได้ที่สถานีรถไฟทุกสถานี โดยเจ้าหน้าที่จะทำการรับเรื่องไว้ และจะทำการคืนเงินเข้าสู่บัญชีบัตรเครดิต 
  12. ค่าบริการในการสำรองที่นั่งและยกเลิกที่นั่ง คิดตามชั้นการโดยสาร ดังนี้

          – ชั้น 1 คิดค่าบริการ 40 บาทต่อใบ

          – ชั้น 2 คิดค่าบริการ 30 บาทต่อใบ

          – ชั้น 3 คิดค่าบริการ 20 บาทต่อใบ

ก่อนจะทำการจองตั๋วให้เราเข้าไปสมัครสมาชิกในเว็บไซท์ www.thairailwayticket.com ก่อนเลยจ้า

เมื่อสมัครสมาชิกแล้วก็จะสามารถทำการเลือกสถานีต้นทาง-ปลายทาง และเลือกวันเดินทางตามนี้เลย

จากนั้นจะเป็นการเลือกเวลาเดินทาง และประเภทของรถไฟที่ต้องการ

ต่อจากนั้นเป็นการเลือกตู้โดยสาร พร้อมบอกข้อมูลราคาตั๋วเดินทาง 

จากนั้นจะเป็นการยืนยันข้อมูลของผู้เดินทาง โดยต้องใส่เลขประจำตัวประชาชน/เลขที่พาสปอร์ต ของผู้เดินทางทั้งหมด เสร็จแล้วกดปุ่มเลือกที่นั่งเอง หรือถ้าไม่ต้องการเลือกที่นั่ง ก็กดเลือกที่นั่งอัตโนมัติได้เลย

หน้าต่อไปจะเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกที่นั่งในตู้โดยสารที่เราได้เลือกไว้

เมื่อยืนยันที่นั่งแล้วก็จะเข้าสู่หน้าชำระเงิน โดยสามารถเลือกชำระเงินค่าตั๋วได้ 2 ช่องทาง ผ่านบัตรเครดิตของ VISA, MasterCard และ JCB (หลังจากเลือกชำระผ่านบัตรเครดิต ให้กดเลือกที่ icon ของบัตรที่เราใช้ด้วย) หรือจะชำระผ่านบัตรเดบิตของธนาคารกรุงเทพ, กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์, กรุงศรี และกรุงไทย 

จากนั้นจะเข้าสู่หน้ายืนยันการชำระเงิน โดยต้องทำการยืนยันภายในเวลา 10 นาที ไม่งั้นต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่นะจ๊ะ

และใส่ข้อมูลของบัตรเครดิต / เดบิตของเรา จากนั้นก็สั่งพิมพ์ตั๋วที่เราได้ทำการชำระเงินแล้วออกมาได้เลยเพื่อนำไปยื่นที่สถานีรถไฟต้นทางที่เราได้เลือกเอาไว้

ก็ถือเป็นการปรับตัวให้เข้ากันเทรนด์ “ประเทศไทย 4.0” กันเลยทีเดียว และเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเหล่านักเดินทางทั้งหลายที่ไม่ต้องไปจ่ายเงินซื้อตั๋วกันถึงสถานีแบบเมื่อก่อนแล้ว ต่อไปนี้ก็แค่นั่งจองตํ๋ว, จ่ายเงินอยู่ที่บ้าน เสร็จแล้วก็พิมพ์ตั๋วเตรียมรอวันไปเที่ยวกันได้เลยจ้า

 

ที่มา : Thairailwayticket