กูเกิ้ลปล่อย Android SDK 1.5 รุ่นพรีวิวออกมาแล้ว วันนี้ผมก็จะมาพรีวิวให้ดูกันครับ

—การติดตั้ง—

ใครอยากจะลองก็ไปดาวน์โหลดจาก http://developer.android.com/sdk/preview/ ได้ แต่การรันอีมูเลเตอร์เวอร์ชั่นนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้หรอกนะ เวอร์ชั่นเก่าๆแค่ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ emulator.exe ใน Folder tools มันก็ขึ้นมาแล้ว แต่นี่ต้องมานั่งสร้าง AVD (Android Virtual Device) ก่อน ใครโหลดมาแล้วทำไม่เป็นก็ทำขั้นตอนตามนี้เลย

1. ดาวน์โหลดและ Extract ไฟล์ให้เรียบร้อย
2. เข้า Command Prompt และ cd ไปที่โฟลเดอร์ Tools ของ Android SDK 1.5
3. พิมพ์คำสั่งว่า

android list targets

  จะมีลิสต์ของ Android Targets ออกมาให้ดูว่าตอนนี้ในเครื่องลงอะไรไว้บ้าง ดังนี้

[1] Android 1.1
     API level: 2
     Skins: HVGA (default), HVGA-L, HVGA-P, QVGA-L, QVGA-P
[2] Android 1.5
     API level: 3
     Skins: HVGA (default), HVGA-L, HVGA-P, QVGA-L, QVGA-P
[3] Add-on: Google APIs
     Vendor: Google Inc.
     Description: Android + Google APIs
     Based on Android 1.5 (API level 3)
     Libraries:
     * com.google.android.maps (maps.jar)
     API for Google Maps
     Skins: QVGA-P, HVGA-L, HVGA (default), QVGA-L, HVGA-P

4. ให้จำไว้ว่า Android 1.5 อยู่ในข้อไหน แล้วพิมพ์คำสั่งดังนี้

android create avd –name –target

   ในที่นี้ผมใส่ไปว่า

android create avd –name NeonCupcakeVM –target 2

5. จากนั้นเราก็จะสามารถเรียก Emulator ขึ้นมาได้แล้วด้วยคำสั่ง

emulator @NeonCupcakeVM

—ทดสอบอีมูเลเตอร์—

เห็นใน Change Log กูเกิ้ลโม้ไว้ว่ามีสิ่งเปลี่ยนแปลงมากมาย พอ Boot ขึ้นมาก็จะเห็นสิ่งที่แตกต่างไปอย่างเห็นได้ชัดอันนึงคือ Boot Screen

ดูดีขึ้นกว่าอันก่อนเยอะ อันก่อนมันดูการ์ตูนเกินไป ตัวนี้ดูจริงจังขึ้นมาพอควร

พอบู้ทเสร็จก็จะมาเจอหน้าจอนี้…

โดยรวมแทบไม่มีอะไรต่างจากเดิม -*- จะมีต่างก็แค่ 2-3 อย่างแบบ Minor เช่น Google Search Widget ย้ายมาอยู่หน้ากลาง ภาพตรงปุ่มเมนูเปลี่ยนไป … หมดละ!!

แต่หลังจากทิ้ง Emulator ไว้แป๊บนึง หน้าจออยู่ดีๆก็มืดลง

อ้อ! Emulator มีฟีเจอร์ Backlight แล้วนี่เอง ใช้ได้ๆ (เป็นแบบ Fade In/Fade Out ด้วยนะ สวยดีๆ)

ลองมาดูตรง Notification Area ก็พบว่าพวก BG และ UI เปลี่ยนไปเล็กน้อย จะเห็นได้ว่าไม่มีปุ่ม Clear Notification แล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะเคลียร์ยังไง อย่างที่เห็นเราก็เคลียร์ไม่ได้ -*-

อีกสิ่งนึงที่เปลี่ยนไปในส่วนของ UI คือหน้า Lock Screen ที่แต่ก่อนจะมี Dialog ขึ้นมาขณะที่พื้นหลังสีดำๆ แต่ตอนนี้พื้นหลังจะเป็น Background ของ Desktop แทน

ลองลากเมนูขึ้นมาดู พบว่า Background ไม่ได้เป็นแบบ Semi Tranparent อีกต่อไป

ก็จะเห็นว่ามีโปรแกรม Camcorder โผล่มาด้วย เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า Android เวอร์ชั่นถัดไปถ่ายวีดีโอได้แน่นอน! แต่เฮ้อ… กุ้มใจจัง ดูกี่อันก็ Minor Change ทั้งนั้น งั้นมาดู Major Change กันบ้าง

อย่างแรกที่หลายคนรอคอย Cupcake Keyboard นั่นเอง!

ตอนนี้ทุกส่วนที่สามารถพิมพ์ได้เราสามารถเรียก Cupcake Virtual Keyboard ขึ้นมาพิมพ์ได้หมด แต่ปัญหาคือ… ซ่อนมันไม่ได้ -_- ไม่รู้เค้าออกแบบมายังไง ถ้าจะซ่อนต้องไปคลิกที่ว่างๆเอา ในขณะที่ของ WM และไอโฟนจะมีปุ่มซ่อนคีย์บอร์ดให้

สำหรับ Cupcake Virtual Keyboard ก็มีลูกเล่นให้เล่นอยู่นิดหน่อย สังเกตว่าบางปุ่มเวลากดแล้วจะมีสัญลักษณ์ “…” อยู่ตรงมุมขวาล่าง ตรงนี้มีไว้บ่งบอกว่าถ้ากดค้างจะมีอะไรโผล่มาให้เล่นอีกเป็นตับนั่นเอง

สำหรับ Cupcake Virtual Keyboard เราพยายามหาปุ่มเปลี่ยนภาษา รวมถึงหน้า Settings สำหรับเปลี่ยนรูปแบบคีย์บอร์ด แต่ก็หาไม่เจอสักที หะหะ ถ้างั้นขอจบเรื่อง Cupcake VK แต่เพียงเท่านี้ จะพาทัวร์ต่อละนะ

ใน Android 1.5 นี้ เราสามารถเลือก Locale ของเครื่องได้แล้ว เปลี่ยนภาษาเป็นภาษาต่างๆได้ตามใจชอบ แต่ก็จะมีจำกัดอยู่เพียงไม่กี่ภาษาเท่านั้น และแน่นอน… ไม่มีภาษาไทย ฮ่าๆๆ ทั้งนี้เราสามารถเพิ่ม Locale th_TH ภาษาไทยได้ แต่คงต้องนั่งแงะโน่นนี่เพื่อให้มีภาษาไทยใช้กันอีกทีนึง

เวอร์ชั่นใหม่ของ Android นี้มี Settings อะไรมาให้ใช้เยอะแยะเต็มไปหมด เช่นเปิด/ปิดคีย์บอร์ด ปรับ Windows Animation/Transition Animations (ก็อปทุกฟีเจอร์ของ DroidSans Tweak Tools ไปหมดนั่นเอง) รวมถึงสามารถปรับขนาดฟอนต์ได้ตามใจชอบ แต่ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อการใช้งานยังไงไม่รู้สิ หะหะ เหมือนของเล่นมากกว่า

เห็นใน Change Logs บอกว่าเปลี่ยนโปรแกรม Browser เล็กน้อย ก็เลยขอเข้าไปดูหน่อย ก็พบว่าเปลี่ยนไปนิดหน่อยจริงๆด้วยดังนี้

ที่มีเพิ่มมาคือปุ่มด้านซ้าย (1X) จะเอาไว้ปรับการซูมให้เป็นแบบ 100% ที่เหลือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นอกจากแค่ภาพบางภาพ -_-

สุดท้ายละ มี Widget ให้เล่นเพิ่มอีกหนึ่งอันคือ Music Player Widget

อ้อ! แถมๆ อีกฟีเจอร์หนึ่งที่สำคัญแต่ไม่สามารถ Capture หน้าจอมาให้ดูได้คือระบบ Speech Recognition ไว้รอเอาลงเครื่องจริงแล้วจะมาบอกอีกทีว่ามีประสิทธิภาพแค่ไหน

… จบการพรีวิวเพียงเท่านี้ เพราะมันแทบไม่มี Major Change ใดๆเลย ส่วนตัวผิดหวังกับ SDK ตัวนี้นะ นึกว่าจะมีอะไรเท่ๆมาให้เล่น …