โดย Glenn Santos. เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2554
จาก androidauthority
ดูเหมือนว่าโทรศัพท์แอนดรอยด์นั้นทำอะไรได้ไปซะทุกอย่าง ยกเว้นปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ที่หมดไวไปซะหน่อย จนบางทีดูเป็นเรื่องปกติที่โทรศัพท์พวกนี้ไม่สามารถใช้นานเป็นวันๆ บางครั้งแค่ครึ่งวันทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้อะไรมาก วันๆ ก็แค่วางบนโต๊ะที่ทำงาน แบตฯ ก็หมดซะแล้ว
นี่เป็นปัญหาใหญ่ของผู้ใช้แอนดรอยด์ทุกคน แต่คุณยังไม่จำเป็นต้องพกแบตฯ เสริมในตอนนี้ บรรดาเซียนทั้งหลายได้หาแนวทางง่ายๆ เพื่อช่วยประหยัดพลังงานได้แล้ว ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ เผื่อว่าจะช่วยคุณได้บ้าง
1. การตั้งค่าความสว่างของหน้าจอ
ลดความสว่างหน้าจอขณะที่คุณใช้ในที่ร่ม ไปถึงระดับที่คุณคิดว่ามองเห็นได้อย่างสบายตาและปิดระบบการปรับค่าความสว่างอัตโนมัติซะด้วยจะยิ่งดี หรือจะทั้งปรับช่วงเวลาการดับไฟหน้าจออัตโนมัติให้สั้นลง แม้ว่าคุณจะเปิดเช็คอีเมล์บ่อยๆ ก็พยามปรับให้สั้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เปลี่ยนมาใช้ภาพหน้าจอที่ไม่สว่างจัดหรือภาพนิ่งแทนภาพเคลื่อนไหว (live wallpaper) เพราะภาพที่สว่างมากและเคลื่อนไหวจะยิ่งสูบแบตฯ ของคุณ
2. ปิดไวเลสต่างๆ เมื่อไม่ใช้งาน
โทรศัพท์แอนดรอยด์มีพวกไวเลสต่างๆ ซึ่งคุณอาจไม่ได้ใช้ จึงควรปิดเพื่อช่วยยืดระยะเวลาแบตฯ ของคุณ เช่น บลูทูธ ไวไฟ จีพีเอสและอื่นๆ ปิดไวไฟขณะเดินทาง ปิด 3จี/จีพีเอสเมื่ออยู่ในที่ไม่มีสัญญาณ โดยติดตั้งวิดเจ็ตต่างๆ ที่สามารถตั้งปิดเปิดแบบอัตโนมัติเช่น Extended Controls (หมายเหตุ ผู้แปลใช้ JuiceDefender ) หรือถ้าอยากปิดแบบเร็วๆ ก็เข้า Flight Mode หรือ Airplane ซะหรือวิธีมาตรฐานก็กดค้างปุ่มเปิดปิด แล้วเลือกปิดการใช้ดาต้า หรือวิดเจ็ตต่างๆ ที่มีในมาร์เก็ต เช่น Green power , ZDBox
3. ลดการใช้ดาต้า
ถ้าส่วนใหญ่คุณใช้โทรศัพท์ไว้โทรและส่งข้อความ ขอแนะนำว่าเปลี่ยนสัญญาณมาที่ 2G/ จีเอสเอ็ม ซึ่งไม่สูบแบตฯ มากแบบ 3G เข้าไปที่ Setting > Wireless&Network > Mobile Networks > GSM only ด้วยระบบ GSM จะไม่สูบแบตฯ มากนัก หรือถ้าอยากเล่นเนตหนักๆ ก็แนะนำว่าใช้กับไวไฟจะประหยัดแบตฯ กว่า 3G แต่ก็อย่าลืมไปตั้งค่า WiFi Sleep Policy ด้วยหละ
ปิดคำสั่งซิงค์อัตโนมัติ อย่างพวกเฟสบุค ทวิตเตอร์ โดยเข้าไปที่การตั้งค่าเลือก ยกเลิกการดึงข้อมูลอัตมัติแล้วใช้การดึงข้อมูลแบบแมนนวลแทน
อย่าลืมดูโปรแกรมตัวอื่นๆ ที่มีการตั้งการอัพเดตข้อมูลอัตโนมัติ ซึ่งบางครั้งเราอาจไม่เคยดูมาก่อนด้วย
อีกทางนึงคือ การตั้งค่าเช็คอีเมล์ มักตั้งอัตโนมัติไว้ที่ทุกๆ 15 นาที ซึ่งกินพลังงานอย่างมาก ควรปรับเป็นแมนนวล หรืออย่างน้อยตั้งเป็นทุกชั่วโมงแทน หรือถ้าคุณใช้โปรแกรมแบบพุช (push) ตัวนี้ก็ช่วยคุณประหยัดพลังงานได้เช่นกัน ถ้าอยากได้โปรแกรมที่สนับสนุนฟังก์ชั่นพุช ขอแนะนำ K-9 หรือเลือกแอพปลิเคชั่นของ Gmail ก็ได้เช่นกัน
4. ลบโปรแกรมที่ไม่ใช้ออกไปบ้าง
บางโปรแกรมเปิดทำงานเองตลอดเวลาซึ่งเปรียบได้กับมัลแวร์ในเครื่องของเรา ทำการลบทิ้งที่ Setting>Application>Manage application กด uninstall ถ้าอันไหนลบไม่ออกก็ไปที่ Setting>Local and Security>เลือก Device adminstrators แล้วกด able to uninstall ก่อนแล้วไปกดลบที่เดิมอีกครั้ง
5. ลดการใช้พวกวิดเจ็ตต่างๆ
โดยเฉพาะตัวที่เรียกดาต้าหรือมีการอัพเดตเองวิดเจ็ตเป็นตัวการสำคัญที่กินพลังงานในระบบแอนดรอยด์ เลือกแค่ตัวที่คุณต้องการเห็นในหน้าแรกเท่าที่จำเป็น โดยเฉพาะตัวที่มีการดึงข้อมูลจากอินเตอร์เนตยิ่งกินพลังงานมากที่สุด ถ้าติดตั้งแล้วมันกินพลังงานอย่างมากเพื่อแลกกับความสะดวกเล็กน้อย แนะนำว่าให้ลบออกแล้วไปใช้แอปจะดีกว่า
6. อย่าทำให้มือถือร้อน
พยามรักษาตัวโทรศัพท์ไม่ให้ร้อน การเก็บในที่อุ่นหรือร้อนก็ทำให้แบตฯ เสื่อมเร็วขึ้นได้ อย่าวางโทรศัพท์โดนแดดโดยตรง หน้าคอนโซลรถที่ร้อนหรือบนคอมพิวเตอร์ อย่าเอาเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงตลอดเวลาเพราะร่างการมนุษย์ก็เป็นแหล่งปล่อยความร้อนเช่นกัน เวลาชาร์จควรวางในที่อากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อให้คลายความร้อนเร็วขึ้น อย่างการวางราบบนพื้นนั้นให้ดีก็ควรหาแท่นอะไรมารองอย่างเช่นที่วางนามบัตรในภาพ หรืออะไรก็ได้เท่าที่หาได้ในที่ทำงาน
7. เลิกการใช้โปรแกรมปิดอัตโนมัติต่างๆ Task Killer
หลายคอลัมน์แนะนำให้คุณใช้โปรแกรมพวกนี้ แต่สำหรับผู้เขียนขอให้เลิกใช้ เพราะโปรแกรมไหนที่คุณมักสั่งให้มันหยุดทำงาน คุณก็ควรเอามันออกไปเลยดีกว่าปล่อยให้มันไปกิน CPU/RAM ในเครื่อง เพราะการที่ไปปิดมันยิ่งไปทำให้มันต้องเปิดตัวเองบ่อยขึ้น ยิ่งเป็นการกินพลังงานมากขึ้นไปอีก ลบออกไปเลยให้ได้ RAM คืนมาจะดีกว่า
แต่ถ้าต้องใช้เลือกปิดตัวที่กิน CPU จะดีกว่า เสียดายที่โปรแกรมในเครื่องโชว์ค่า RAM ฉะนั้นแนะนำว่าควรลง Watchdog Task Manager (lite) ที่จะเตือนคุณเมื่อมีการใช้ CPU ที่เกินไปแล้วคุณเลือกปิดจากจุดนี้จะดีกว่า
8. เลือกการตั้งค่าประหยัดพลังงานอัตโนมัติ
ถ้าคุณเป็นชอบปรับแต่ง มีแอปฯ หลายตัวช่วยคุณได้ในการตั้งค่าอัตโนมัติพวกนี้ เช่น Juice Defender กับ Tasker หรือพวกแอปฯ ตั้งการใช้พลังงานอัตโนมัติที่จะช่วยปิดอะไรก็ตามที่ต้องการตามเวลา หรือ Llama ที่ปิดตามสถานะที่คุณอยู่
สรุป
จนกว่าผู้ผลิตแอนดรอย์โฟนทั้งหลายจะหาทางให้โทรศัพท์สามารถใช้ได้นานเป็นอาทิตย์ คุณต้องคิดเสมอว่าวิธีการใช้งานของคุณนั้นมีผลต่อระยะเวลาของแบตฯ ผมไม่ได้บอกให้คุณใช้น้อยลง อันที่จริงคือคุณอยากให้มันกินแบตฯ น้อยลงเมื่อมันไม่ได้ถูกใช้งาน นั่นก็คือคุณต้องการให้แบตฯ มีเพียงพอให้คุณใช้มันได้เมื่อต้องการ ฉะนั้นคุณควรลองทำการตั้งค่าต่างๆ อย่างที่บอกไปและลบอะไรที่ไม่จำเป็นออกไปซะ ง่ายๆอย่างพวกไลฟ์วอลเปเปอร์หรือวิดเจ็ตที่อัพเดตตัวเองตลอดเวลา
หมายเหตุ หากผิดพลาดตรงไหน ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ
เป็นบทความที่ดีครับ
โดยเฉพาะ เลิกการใช้โปรแกรมปิดอัตโนมัติต่างๆ Task Killer
คนเราชอบห่วงกันแต่ตัวเลข เห็นแรมน้อยเป็นไม่ได้ ต้องเคลียร์
ถ้ามันยังทำงานได้ ก็ไม่ควรไปยุ่งกะมัน ให้มันจัดการตัวเองดีกว่า
มีประโยชน์ดีมากเลย เป็นเหมือนกันที่ widget สูบแบตเพราะตั้ง update บ่อยมากๆ
ส่วน task killer นี่ยิ่งใช้แบตยิ่งหมดไว
เริ่มต้นได้ดีครับ แต่อยากให้ขัดเกลาภาษา เอาให้มันอ่านง่ายหน่อย ไม่ต้องแปลมาทั้งดุ้นก็ได้ ประมาณว่าเราอ่านแล้วมาสรุปให้เพื่อนๆ ฟัง ในภาษาของเราเองได้ครับ
สู้ๆ
ขอบคุณ สำหรับข้อมูลดีๆคับ
ผมใช้ไปไม่สนใจแบตฯหมดก็ชาร์จ ซื้อมาเดียวก็พังใช้ให้คุ้ม บางทีมัวแต่ทะนุถนอมตกน้ำป๋อมแป๋ม เฮ้ย..ยังได้ใช้อะไรไม่คุ้มเลยเซ็งไปอีก อยากได้ลูกเล่นวืบวาบหน้าจอสวยๆ อุ่ตส่าซื้อมาตั้งแพง มาปิดลูกเล่นโน้นนี่นั่นจนหมด จนบางครั้งดูแล้วราคาโทรศัพท์เครื่องละเป็นหมื่นเหลือเครื่องละไม่กี่ร้อยดีๆนี่เอง ไม่ว่ากันนะ ก็ผมใช้ของผมแบบนี้ บางทีผมก็ใช้แบบประหยัดนะครับยามที่ต้องออกเดินทางไกล ก็มันจำเป็นอะนะ จะให้ใช้ลูกเล่นตระหง่านตระการตาตลอดเวลาได้ไง อิอิ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่า ว่าจะเลิกใช้อยู่เหมือนกัน task killer เนี่ย – -'
เราก็เพิ่งรู้ว่าใช้ task killer ยิ่งกระตุ้นให้แอพต่างๆสูบแบท เป็นความรู้ใหม่ที่ดีมาก ขอบคุณค่ะ
ผมว่าเค้าคิดผิดตรงนี้นะ ที่เค้าบอกก็แค่ถ้าใช้แล้วสั่งให้มันปิดโปรแกรมบ่อยๆ ตัว task killer มันจะทำงานบ่อยเปลืองแบตมันไม่ได้กระตุ้นให้โปรแกรมอื่นเปิดขึ้นมาบ่อยขึ้นครับ แล้วโปรแกรมอื่นที่มันเปิดอยู่มันไม่ได้ใช้แค่แรมอย่างเดียวตามที่เจ้าของโพสบอกนะครับ มันก็กิน CPU เหมือนกันนั้นแหละ ถ้ามีโปรแกรมรันอยู่สิบโปรแกรมทำงานอยู่มันก็ต้องใช้ cpu เหมือนกันใช้ task killer ปิด 10 โปรแกรมนั้นการใช้ cpu ก็ลดลงนะครับ พูดง่ายๆถ้าคุณมีโปรแกรมรันเยอะการใช้ task killer อันเดียวแลกกับ ปิดโปรแกรมอื่นหลายอัน ผมว่ายังไงก็ประหยัดกว่าไม่ใช้นะครับ = =!!
ปล.งงเรื่องนี้ของเจ้าของกระทู้ โปรแกรมถ้ามันอยู่แค่บนแรมแล้วไม่มี cpu ไปเรียกใช้มันมันจะทำงานได้ไงหว่า
สิ่งที่จขกท.จะสื่อคือ โปรแกรม auto kill task จะค่อยปิดโปรแกรมให้เราอัตโนิมัติใช่ไหม แล้วคนส่วนใหญ่จะตั้งให้มันค่อยปิดแอปให้อัตโนมัติตามช่วงเวลาที่ตั้งไว้ใช่ไหม แต่พฤษติกรรมของแอปเหล่านั้นมันจะค่อยรันขึ้นมาอัตโมนัติอยู่แล้ว ถ้าลง auto kill ลงไปอีกค่อยสักพักมันก็รันขึ้นมา แล้วก็ปิดมันอีก สักพักมันก็รันขึ้นมา เท่ากับไปเพียบ process ให้ cpu ทำงานเพิ่มอีก ผลก็คือกินแบตมากขึ้นอีัก
ง่ายๆก็คือแอปไหนไม่ใช้งานก็ uninstall มันออกไป แอปไหนจำเป็นต้องใช้อยู่ แล้วยังไม่ถึงขั้นเครื่องหน่วงหรือเครื่องจะแฮงก็ไม่ต้องไปปิดมันครับ
ความหมายนี้คิดว่าน่าจะหมายถึงพวก task killer อื่นๆที่โหลดเสริมเข้ามามากกว่าครับ ซื้อจริงๆแล้วใน app มาตราฐานที่ให้มากับเครื่องนั้นก็มี task killer มาอยู่แล้ว แต่ไม่ใช้ และชอบที่จะโหลดมาเพิ่มซะมากกว่า
ผมใช้ Tab อยู่เป็น official 2.3.3 ซึ่งมันก็มี app task manager มาให้อยู่แล้วตั้งแต่ 2.2 ผมก็ไม่เคยโหลด task killer ตัวอื่นมาเสริม ก็ใช้ตัวที่ติดมากับเครื่องก็พอแล้ว
นี้คือความเข้าใจของผมนะ ในส่วนของเรื่อง task killer
ผมใช้ 2.2 อยู่ แล้วทำตามขั้นตอนตามบทความนี้ทุกอย่าง ทำให้ผมประหยัดแบตเตอรี่มากเลย ทิ้งไว้ทั้งคืนยังไม่ ลดซักขีดเลยครับ เวลาเล่นเกม ก็ 2 ชั่วม ลดที อันนี้เรื่องจริงที่สุด >,< ประหยัดมากๆ
อ่านๆ ดูแล้วพบว่าทำทุกข้อเป็นกิจวัตรอยู่แล้วแฮะ โปรแกรมไหนมี Notification ผมปิดหมด ชอบ Manual มากกว่า
ผมว่าต้นฉบับเขียนเรื่อง task killer สุดโต่งเกินไปหน่อย
มันก็ไม่ผิดที่จะบอกว่า ถ้าต้องมา kill บ่อยๆก็ควร uninstall ออกไปเลย แต่ในโลกความเป็นจริงเรามักจะต้องใช้แอพบางตัวที่จำเป็นต้องเก็บใช้ แถมมันก็ชอบรันขึ้นมา อย่างเช่น paypal
ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว ยังไงการใช้ task killer ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอยู่ดีครับ
ป.ล. ถ้าปิด packet data + อยู่ที่พื้นที่ที่สัญญาณแรง ใช้ 3g จะประหยัดแบตกว่า 2g ครับ
ป.ล.2 ใครใช้จอตระกูล amoled ทั้งหลาย แนะนำตั้ง wallpaper สีดำสนิทครับ ช่วยได้
ขอบคุณครับที่ให้ความรู้ เป็นกำลังใจให้หาข้อมูลมาเขียนอีกน่ะครับ
แบตควรพัฒนาไปเป็น 1900-2000 mAh แท้ ตามด้วยครับ คาดว่าตัวมือถือบางเครื่องก็กว้างตั้ง 4.3 นิ้ว ขนาดเต็มมือขนาดนั้นแบตน่าจะขยายได้อยู่ อาจจะทำให้เครื่องหนาขึ้นเป็น 9-10 มิล แต่ผมว่าคนส่วนใหญ่ไม่คิดมากหรอก แพ้ความบางให้เจ้าอื่น แต่แบตยาวนานที่สุดในโลกมือถือมี OS เท่ไปเลย ^ ^
ผมใช้ไม่ค่อยสนเท่าไรนักเรื่องเซฟแบต ตอนนอนก้อเสียบชาต มีสายชาต ทุกที่ บ้าน ออฟฟิส ในรถ เลยใช้โทรศัพท์ให้คุ้มกับราคาที่จ่ายไป…
ปัจจุบันก้ใช้ juice defendfer อยุ่คับ เพราะเหนความแตกต่างมากเลยเมื่อตอนยังไม่ได้ใช้กับตอนนี้ ช่วยประหยัดแบตดีคับ
ผมเป็นคนที่ชอบกดปุ่มด้านข้างเพื่อดับไฟหน้าจอครับ กลายเป็นนิสัยไปแล้ว พอไม่ได้ทำไร
ต้องกดล๊อคหน้าจอเพื่อดับไฟ
แต่ปัญหาก็คือถ้าใช้ไปสักพักปุ่มนะพังแทน
พอจะมีแอพแนะนำมั้ยครับ ที่ล๊อคหน้าจอโดยกดจากหน้าจอแทนปุ่มด้านข้างเครื่องอ่ะครับ
ผมใช้ Galaxy S2 นะครับ
ขอบคุณครับ
มีหลายตัวครับ เช่น screen off and lock ปรับแต่งได้ด้วย โหลดแล้วใช้ไม่เป็นยังไง ลองถาม google ดูครับ เดียวนี้นะเอะอะอะไรก็กูเกิ้ล ถ้าไม่ เว็บพวกนี้จะทำไงนิ
ลงหาใน Market ดู ครับ
จะมี วิทเจต ล๊อค หน้าจอโดยไม่ต้องกดปุ่ม Power
ผมใช้ Lock Screen Widget ตัวนี้อยู่ ครับ ตั้ง อยู่หย้าจอเลย
สดวกดีครับ (:
ลงหาใน Market ดู ครับ
จะมี วิทเจต ล๊อค หน้าจอโดยไม่ต้องกดปุ่ม Power
ผมใช้ Lock Screen Widget ตัวนี้อยู่ ครับ ตั้ง อยู่หย้าจอเลย
สดวกดีครับ (:
tap tap app ครับ ใช้อยู่ แตะปุ๊บหน้าจอดับปั้บ
โดยส่วนตัวแล้วก็ทำตามที่เจ้าของกระทู้โพสไว้ส่วนนึง ส่วนที่เหลือทำตามใจตัวเองครับ ว่าแต่ app ปิดหน้าจอมีแล้ว แต่แบบเปิดหน้าจอโดยไม่ใช้ปุ่มจะหรือเปล่าครับ
ผมว่ารู้ๆเอาไว้ก็ดี แต่สำหรับผมไม่มีปัญหามากมายเรื่องแบ็ตแล้วหลังจากเปลี่ยน radio โดยส่วนตัว widget เป็นอะไรที่ให้ความสะดวกผมมากไม่ใช่เล็กน้อยมันขึ้นกับคนนะครับ ของใช้ก็ใช้ๆไปเถอะครับ มันกินแบ็ตก็แค่บางตัวแหละ ลองใช้ current widget เช็คดูก็ได้ว่ากินมากไหม ถ้ากินมากก็เอาออก
เหมือนเคยเจอด้วยซ้ำไปตัว app ประหยัดแบตชื่อ green อะไรเนีย เช็คดูทำให้กินไฟมากขึ้นตอน idle 3 – 4 เท่าเลย -*-
ปล. ได้คนเขียน blog หน้าใหม่ด้วย สู้ๆครับ -w-
ผมใช้วิธีแก้ปัญหาโดยการลบแอปที่มากับรอมที่มันไม่ได้ใช้ออกไป มีหลายตัวอยู่ ตอนนี้เครื่องผมสามารถอยู่ได้ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงเที่ยงคืนได้สบายๆ เปิด wifi กับดาต้าสลับกันถ้าออกไปข้างนอก แต่ส่วนใหญ่จะใช้ WiFi แต่ถ้าเล่นหนักๆบ่ายๆก็หมดแล้ว จริงๆแล้ววิธีของ จขกท ก็มีประโยช์สำหรับมือใหม่ๆที่พึ่งเล่น andriol แต่เรื่อง task killer ผมว่าเป้นเรื่องของรางเนื่้อชอบรายามากกว่า แล้วเรื่องปุ่มกดผมว่าเขาออกแบบมาให้ใช้งานได้หนักอยู่แล้วมันไม่พังง่ายๆหรอก ถ้าไม่ใช่ปุ่มข้างบนยังไงก็ต้องมาลงวิดเจทที่หน้าจอทำให้มันกินแบตอีก ผมว่าแบตมันจะไปก่อนปุ่มอีกนะ เหมือนหนีเสือปะจรเข้นะ ถ้าจะให้แนะนำจริงๆนะ ให้หาพวกชาร์จแบตแบบพกพาติดไว้ เอาที่ชาร์จไปที่ทำงานด้วย,ในรถด้วยแบบคนข้างนู้น จะได้ใช้ได้แบบสบายใจ ไม่ใช่เวลาจะใช้ต้องคอยมากังวลว่าแบตจะหมด ซื้อมาก็ต้องใช้ให้คุ้ม..
ผมใช้วิธีหาแบตสำรอง หรือ ซื้อ ที่ชาร์จ เคลื่อนที่ครับ
เล่นเต็มที่ไม่ต้องกลัวแบตหมด
ของทุกอย่างผมคิดว่าซื้อมาใช้เสมอ
ซ้ำ…
ผมว่าวิธีประหยัดแบตสุดคือใช้ OFFICIAL ROM ที่ไม่ได้ Customize/Over Clock ใด ๆ ทั้งสิ้นคับ เพราะผมลองเทียบแล้วกับ 2.3.3 หรือ 2.2.1 กับพวก CFW ทั้งหลาย ของ OFFICIAL นี่อยู่นานอยู่ทนจริง ทั้งวันแทบไม่หมดแต่ก็แลกกับความช้าบ้างตามประสา
ลดClock เหลือ250MHz 555
เรื่อง task killer นะครับ
ใครยังไม่เคยใช้ spica ที่มี RAM 128MB คงไม่รู้ซึ้ง
ระบบมันเคลียร์RAM ช้าครับ
บางครั้งใช้จนมันเหลือ 5-10MBแล้วมันยังไม่เคลียร์
ก็เลยต้องเอามีดจ่อคอบังคับให้มันเคลียร์ด้วยการใช้ task killer ครับ
แต่ก็ต้องรู้นิสัยโปรแกรมที่เราจะไปฆ่ามันด้วยครับว่ามันเปิดขึ้นมาแค่ครั้งเดียวตอนเราเปิด ตอนเราใช้งานแล้วปิดไม่ได้
หรือทำงานตลอดเวลา ยกตัวอย่าง opera mini ไม่มีปุ่ม exit ครับ แต่เราสามารถ kill มันได้ แล้วมันก็จะไม่ถูกเปิดขึ้นมาอีก
เราทำมันได้ตอนที่ต้องการ แต่ปล่อยๆไประบบก็จะจัดการให้เราเอง
บางโปรแกรมเราไป kill มัน แล้วมันก็จะโผล่ขึ้นมาทำงานอีก เปลืองแบตเพิ่มนะครับ
เปลืองเพิ่มได้ตรงไหนนะหรอ ก็ตอนที่มันเปิดมันก็จะเริ่มจองRAMแล้วก็อ่าน database ที่เก็บการตั้งค่าหรืออะไรต่างๆไว้ใหม่อีกรอบ
การที่เราไปkillมัน มันก็ต้องคอยloadพวกนี้เข้ามาใหม่ตลอดทุกครั้งที่กลับมาทำงานใหม่
การ kill ไม่ใช่ killซี้ซั้ว ยกตัวอย่าง ตั้ง widget ให้ update ทุกนาที แต่พี่แกก็ดันไปใช้ task killer ให้ killมัน
พอนาทีต่อมาตัวมันเองก็ถูกปลุกให้update แต่มันจะupdateยังไง ก็ถูกkill ไป มันก็ต้องเปิดขึ้นมาใหม่จองramอ่านdiskอีก
ยกซดเลยครับ แบตลดฮวบๆจากการ kill มั่วๆ
กลับมาพูดถึงปัจจุบัน ใช้ incredible s ที่มี ram 768MB สบายครับ ปล่อยมันแล้ว ram เยอะสุดในบรรดาเครื่อง cpu 1GHz
ใช้สบายไม่ต้องยุ่งมันแล้ว
ส่วนของแฟนครับ xperia neo ซึ่ง sony ได้ทำ timescapeและอื่นๆที่ซดRAMกระหน่ำ แล้วพอดู process ของ sonyเอง ก็เยอะซะด้วย จนเลือก ลบออกจากROMไม่ถูก
ถ้าลบออก ก็update software รุ่นใหม่ๆไม่ได้อีกต้องคอย flash ใหม่เลย ก็เลยต้องใช้ task killer กับโปรแกรมเล็กๆน้อยๆที่ไม่เปิดตัวเอง เท่านั้น
แต่ทั้งสองเครื่อง ก็ใช้วิธีลดความเร็ว cpu ตอนไม่ได้ใช้ให้ลงไปเหลือ 248MHz พอใช้งานค่อยขึ้นมา 1GHz ก็ประหยัดแบตมากขึ้นนะ
เรื่อง task killer นะครับ
ใครยังไม่เคยใช้ spica ที่มี RAM 128MB คงไม่รู้ซึ้ง
ระบบมันเคลียร์RAM ช้าครับ
บางครั้งใช้จนมันเหลือ 5-10MBแล้วมันยังไม่เคลียร์
ก็เลยต้องเอามีดจ่อคอบังคับให้มันเคลียร์ด้วยการใช้ task killer ครับ
แต่ก็ต้องรู้นิสัยโปรแกรมที่เราจะไปฆ่ามันด้วยครับว่ามันเปิดขึ้นมาแค่ครั้งเดียวตอนเราเปิด ตอนเราใช้งานแล้วปิดไม่ได้
หรือทำงานตลอดเวลา ยกตัวอย่าง opera mini ไม่มีปุ่ม exit ครับ แต่เราสามารถ kill มันได้ แล้วมันก็จะไม่ถูกเปิดขึ้นมาอีก
เราทำมันได้ตอนที่ต้องการ แต่ปล่อยๆไประบบก็จะจัดการให้เราเอง
บางโปรแกรมเราไป kill มัน แล้วมันก็จะโผล่ขึ้นมาทำงานอีก เปลืองแบตเพิ่มนะครับ
เปลืองเพิ่มได้ตรงไหนนะหรอ ก็ตอนที่มันเปิดมันก็จะเริ่มจองRAMแล้วก็อ่าน database ที่เก็บการตั้งค่าหรืออะไรต่างๆไว้ใหม่อีกรอบ
การที่เราไปkillมัน มันก็ต้องคอยloadพวกนี้เข้ามาใหม่ตลอดทุกครั้งที่กลับมาทำงานใหม่
การ kill ไม่ใช่ killซี้ซั้ว ยกตัวอย่าง ตั้ง widget ให้ update ทุกนาที แต่พี่แกก็ดันไปใช้ task killer ให้ killมัน
พอนาทีต่อมาตัวมันเองก็ถูกปลุกให้update แต่มันจะupdateยังไง ก็ถูกkill ไป มันก็ต้องเปิดขึ้นมาใหม่จองramอ่านdiskอีก
ยกซดเลยครับ แบตลดฮวบๆจากการ kill มั่วๆ
กลับมาพูดถึงปัจจุบัน ใช้ incredible s ที่มี ram 768MB สบายครับ ปล่อยมันแล้ว ram เยอะสุดในบรรดาเครื่อง cpu 1GHz
ใช้สบายไม่ต้องยุ่งมันแล้ว
ส่วนของแฟนครับ xperia neo ซึ่ง sony ได้ทำ timescapeและอื่นๆที่ซดRAMกระหน่ำ แล้วพอดู process ของ sonyเอง ก็เยอะซะด้วย จนเลือก ลบออกจากROMไม่ถูก
ถ้าลบออก ก็update software รุ่นใหม่ๆไม่ได้อีกต้องคอย flash ใหม่เลย ก็เลยต้องใช้ task killer กับโปรแกรมเล็กๆน้อยๆที่ไม่เปิดตัวเอง เท่านั้น
แต่ทั้งสองเครื่อง ก็ใช้วิธีลดความเร็ว cpu ตอนไม่ได้ใช้ให้ลงไปเหลือ 248MHz พอใช้งานค่อยขึ้นมา 1GHz ก็ประหยัดแบตมากขึ้นนะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่ะ
เรื่องภาษาจะแก้ไขในรอบหน้า แต่ยังไงก็ไม่อยากแปลแล้วใช้คำเหมือนเป็นตัวเอง เพราะมันเป็นของคนอื่น เลยคิดว่าแปลแบบกลางๆ ตรงๆ น่าจะดีกว่า
รอบหน้าจะพยามให้ดีขึ้นค่ะ :>
เยี่ยมมากคับ กระทู้นี่ดีจริง
ทำหมดทุกข้อก่อนเลยแฮะ