นอกจากการเปิดตัว Nokia 8 Sirocco แล้วโนเกียก็ได้ขนทัพมือถือระดับอื่นๆ มาด้วยไม่ว่าจะเป็นระดับกลางอย่าง Nokia 6 (2018) และ Nokia 7 Plus สเปคระดับล่างราคาประหยัดอย่าง Nokia 1 และฟีเจอร์โฟนที่โนเกียได้ชุบชีวิตมือถือทรงกล้วยหอมให้รองรับ 4G กลายมาเป็น Nokia 8110 4G อีกด้วย
Nokia 7 Plus
รุ่นกลางสเปคทอปสุดตอนนี้ของโนเกียก็คงเป็นใครไม่ได้นอกจาก Nokia 7 Plus เพราะมาพร้อมกล้องหลังสเปคเดียวกับ Nokia 8 Sirocco เลยทีเดียว แถมยังเป็นมือถือรุ่นแรกของโนเกียอีกด้วยที่มาพร้อมจอสัดส่วน 18: 9 ขนาดสะใจใหญ่ 6 นิ้ว
ในแง่ของดีไซน์เครื่องนั้นขึ้นรูปจากอลูมิเนียมทั้งก้อน ทำให้รับประกันเรื่องความทนทานของเครื่องได้เป็นอย่างดี พร้อม coating ที่ให้ความรู้สึกเหมือนจับเซรามิกหรูหรา ขอบเครื่องตัดด้วยเพชรให้มีเงางาม และแม้จะเป็นโลหะแต่ก็สามารถซ่อนไม่ให้เห็นเสาสัญญาณได้ด้วย
สเปคของ Nokia 7 Plus มีดังนี้
- จอ 6 นิ้ว IPS LCD, อัตราส่วน 18:9, ความละเอียด Full-HD+ 2160 x 1080
- CPU Snadpraogn 660
- GPU Adreno 512
- RAM 4GB LPDDR4, ROM 64GB eMMC 5.1, รองรับ Micro SD สูงสุด 128GB
- กล้องหลังคู่ 12 MP f/1.7 + 13MP f/2.6 (telephoto)
- กล้องหน้า 16MP, ZEISS optics
- รองรับการใช้งาน Bothie
- แบตเตอรี่ 3,800 mAh, ใช้งานได้ 2 วัน
- รองรับ Bluetooth 5.0, NFC
- พอร์ท USB-C, มีช่อง 3.5 ม.ม.
- สัดส่วนเครื่อง (รวมความหนากล้อง) 158.38 x 75.64 x 9.55 ม.ม.
- มีทั้งหมด 2 สีคือ ดำตัดทองแดง, ขาวตัดทองแดง
- มาพร้อม Android Oreo
- อยู่ในโครงการ Android One
Nokia 6 (2018)
เรียกได้ว่าเป็นการอัพเกรดประสิทธิภาพให้กับ Nokia 6 ที่ปีที่แล้วเปิดมาพร้อมกับสเปคที่ดูไม่ค่อยแรงด้วยชิป Snapdragon 430 มาปีนี้โนเกียได้ปรับใหม่แล้วให้ Nokia 6 รุ่นปี 2018 นี้มาพร้อมกับ Snapdragon 630 ที่โนเกียบอกว่าประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 60% เลยทีเดียว มีการปรับให้ดีไซน์แข็งแรงทนทานมากขึ้นด้วยอลูมิเนียมยูนิบอดี้ และกล้องหลังก็ได้ ZEISS มาช่วยพัฒนาอีกด้วย
สเปคของ Nokia 6 (2018) มีดังนี้
- จอ 5.5 นิ้ว IPS LCD, Full-HD
- CPU Snapdragon 630
- GPU Adreno 508
- RAM 3GB/4GB, ROM 32GB/64GB, รองรับ Micro SD สูงสุด 128GB
- กล้องหลัง 16 MP, f/2.0, ZEISS optics
- กล้องหน้า 8 MP
- แบตเตอรี่ 3,000 mAh
- รองรับ Bluetooth 5.0, NFC
- พอร์ท USB-C, มีช่อง 3.5 ม.ม.
- สัดส่วนเครื่อง (รวมความหนากล้อง) 148.8 x 75.8 x 8.6 ม.ม.
- มีทั้งหมด 3 สีคือ ดำทองแดง, ขาวเหล็ก, น้ำเงินทอง
- มาพร้อม Android Oreo
- อยู่ในโครงการ Android One
Nokia 1
เมื่อปีที่แล้วโนเกียเปิดตัว Nokia 2 สเปคระดับล่าง ชูจุดเด่นคือแบตแสนอึดใช้งานข้ามวันสบายๆ และเตรียมจะอัพเดตเป็น Android Oreo Go Edition ด้วย มาคราวนี้โนเกียก็ได้เพิ่มรุ่นน้องมาอีกรุ่นคือ Nokia 1 ที่มาพร้อม Android Go ในตัวเลย ซึ่งทางโนเกียและกูเกิลก็รับประกันว่าแม้สเปคจะไม่แรง ก็ลื่นได้ไม่ต่างกันถ้าใช้เวอร์ชันนี้ด้วยแอปเวอร์ชันพิเศษจากทางกูเกิล ไม่ว่าจะเป็น Google Go, YouTube Go, Maps Go และ Google Assistant
ด้านการออกแบบนั้นโนเกียได้หยิบเอาฝาหลัง Xpress-on มาเป็นตัวเลือกสำหรับคนอยากเปลี่ยนสีสันให้เครื่อง สามารถถอดฝาหลังแล้วเปลี่ยนเป็นลายที่ต้องการได้
สเปคของ Nokia 1
- จอขนาด 4.5 นิ้ว IPS ความละเอียด 854 x 480
- CPU MediaTek MT6737M Quad Core 1.1GHz
- GPU Mali-T720
RAM 1GB, ROM 8GB, รองรับ Micro SD สูงสุด 128GB - กล้องหลัง 5 MP พร้อมแฟลช
- กล้องหน้า 2 MP
- แบตเตอรี่ 2,150 mAh ถอดได้, ชาร์จผ่าน Micro USB
- รองรับการใช้งาน 2 SIM
- รองรับช่อง 3.5 ม.ม., รองรับวิทยุ FM
- รองรับ Bluetooth 4.2, WiFi 802.11 b/g/n
- เซนเซอร์ที่รองรับ Proximity sensor, Ambient light sensor, G-sensor
- กันฝุ่น, ป้องกันหยดน้ำ IP52
- สัดส่วนเครื่อง 133.6 x 67.78 x 9.5 ม.ม.
- น้ำหนัก 131 กรัม (รวมแบตเตอรี่แล้ว)
- มี 2 สีคือ สีแดง, สีดำ
- มาพร้อม Android 8.1 Go Edition
Nokia 8110 4G
เรียกได้ว่าดักแก่กันอีกครั้งครับ เพราะว่านอกจากตระกูล 3310 แล้วยังมี 8110 อีกที่โนเกียชุบชีวิตกลับมาพร้อมใส่ความสามารถในการรองรับ 4G ให้ โดยเจ้า 8110 นี่ก็เป็นรุ่นที่ได้รับฉายาว่าทรงเหมือนกล้วยหอม มาคราวนี้โนเกียเลยจัดเต็มทำสีเหลืองออกมาซะเลย แต่เห็นเป็นฟีเจอร์โฟนยังงี้ก็ไม่ใช่เล่นๆ นะครับเพราะพกฟีเจอร์พิเศษมาเพียบ
Nokia 8110 4G ชื่อก็บอกแล้วว่ารับ 4G แต่ไม่ใช่แค่นั้นเพราะมันสามารถเปิด Hotspot แชร์เน็ตให้คนอื่นได้ด้วย แถมยังรองรับ VoLTE อีกด้วยต่างหาก ในแง่ของการใช้งานนั้นใช้ชิป Qualcomm 205 Mobile Platform และรองรับการใช้งานแอปไม่ว่าจะเป็น Google Assistant, Google Search, Google Maps, Facebook, Twitter รวมถึงแอปเมลอย่าง Outlook และ Gmail อีกด้วย แน่นอนว่าเกมงู Snake ก็ยังคงใส่มาให้
ราคาและวันวางจำหน่าย
Nokia รุ่นใหม่ทั้ง 4 รุ่นนี้จะเริ่มวางขายในเดือนเมษายนนี้ครับ สำหรับราคาของแต่ละรุ่นก็มีดังนี้เลย
- Nokia 7 Plus ราคา (15,xxx บาท)
- Nokia 6 (2018) ราคา 279 ยูโร (10,xxx บาท) โดยรุ่น RAM 4GB, ROM 64GB จะวางขายทีหลัง
- Nokia 1 ราคา $85 (2,6xx บาท), ฝาหลัง Xpress-on อันละ $7.99 (250 บาท)
- Nokia 8110 4G ราคา 79 ยูโร (3,xxx บาท)
สำหรับราคาไทยนั้นคงต้องรอทางโนเกียประเทศไทยยืนยันมาอีกทีครับ แอบมีหวังว่าน่าจะถูกกว่าราคาโซนยุโรปพอสมควร ถ้ามีความคืบหน้ายังไงเราจะแจ้งให้ทราบครับ
อยากได้ NOKIA 8110 อ่ะ….มีความนึกถึงอดีตเบาๆ
ใครรู้จักรุ่นนี้ต้องมีเลข 3 บวกขึ้นแน่ๆ
ปล. ผมก็อยู่ในกลุ่มนั้นเหมือนกัน 😛
555+ ตอกย้ำ
อย่างน้อย3+ อิอิ
7+ ตั้งราคาสักหมื่นต้นๆ กำลังดี
มีโอกาศนะ ไม่เกิน 15000
ไม่เกินหมื่นสามนะผมว่า
หรือ…กระแสกำลังจะตีกลับ
ชื่นชม Nokia นะ ทุกรุ่นกล้องหน้า autofocus หมดทุกตัว คือแอบมากๆไม่เข้าใจว่าทำไมไม่โฆษณา
samsung ต้องตัว top 20000up ถึงจะได้ front auto focus ต้อง s8 note8
iphone จะแพงแค่ไหนกล้องจะกี่ล้าน แต่กระจอกมาก ไม่มี auto focus ซักรุ่น โครตกั๊ก
สนใจทุกข่าวที่โนเกียทำโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟน หรือทำมือถือสเป็คเล็กราคาย่อมเยา
พวกนี้ขายดีและเข้าถึงผู้คนได้มาก สมกับสโลแกนโนเกียจริงๆ NOKIA connecting people
ปักหมุด nokia 7 เลย
Nokia 7 plus 2 sim หรือป่าวครับ
อยากได้ NOKIA 8110
ชอบ nokia ตรงนี้แหละ อินดี้รียูเนี่ยน 55+
รอดู 7+ ครับ (แอบหวังเล็กๆ 5555)
ตอนนี้ nokia 6 มี3รุ่นใช่ไหม(2017,2018,2018ตัวใหม่)?
กลยุทธ์ดีนะ เปิดตัวรุ่นใหม่บวกกับรุ่นเก่าเกลาใหม่
ดึงความสนใจคน 2 เจนได้