KengKawiZ รายงานตัวครับผม! วันนี้กวิสจะขอมารีวิวมือถือ rare item จากค่ายน้องใหม่ OnePlus … เชื่อว่าหลายๆ คนคงได้ยินชื่อค่ายนี้กันมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่อาจจะยังไม่รู้ว่าทำไมมือถือตัวแรกของทางค่าย อย่าง OnePlus One ถึงเป็นที่จับตาและเป็นที่สนใจของเหล่า geek กันขนาดนี้!?  

จริงๆ จะว่าไปก็มีหลากหลายปัจจัยที่ช่วยเสริมกันอยู่นะคะ ไม่ว่าจะเป็นความฮือฮาตั้งแต่คนนั่งตำแหน่งผู้บริหารที่ได้อดีตผู้บริหารจากค่าย Oppo อย่าง Pete Lau มาทำหน้าที่ แถมยังได้รอมดีจาก CyanogenMod ที่มีฐานแฟนคลับหนาแน่นมาเสริมทัพ บวกกับการทำ device ออกมาดูดีในสเปคจัดเต็มเทียบเท่ากับรุ่น flagship ของค่ายอื่นๆ ในราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่าครึ่งนึง! 

แต่กระนั้นเมื่อเปิดตัวมาเรียกความอยาก OnePlus ก็ยังขอทำตัวเป็น rare item ด้วยการไม่เปิดขาย OnePlus One ในทันทีแต่กลับใช้วิธีการจัดกิจกรรมเรียกกระแสให้คนเข้ามาร่วมเพื่อแลกกับโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของ OnePlus One โดยหากใครได้เป็นเจ้าของเครื่องแล้วคุณก็จะมีสิทธิส่ง invite ออกไปให้เพื่อนอีก 3 คนไปซื้อ online กันได้ (เอ๊ะ นี่มัน ice bucket หรือเปล่าเนี่ย?!) ซึ่งแม้บางกิจกรรมก็ดูดีบางกิจกรรมก็มีโดนด่ากันไป แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นวิธีการเรียกกระแสที่ได้ผลดีแถมลงทุนน้อยด้วย

ซึ่งสำหรับคนที่อยู่นอกเหนือจากประเทศที่มีการประกาศวางจำหน่าย OnePlus One แล้วยิ่งยุ่งยากเพราะแม้จะควานหา invite มาได้ แต่ว่าเครื่องก็ดันนนจะจัดส่งให้เฉพาะในประเทศที่กำหนด แถมยังต้องใช้ที่อยู่และบัตรเครดิตและที่อยู่ของคนที่ในประเทศนั้นๆ อีกด้วย งานนี้ต้องฝากเพื่อนสั่ง ฝากเพื่อนรับ แล้วฝากเพื่อนส่งมาที่ไทยอีกที วุ่นวายพอตัวทีเดียว แต่เอาหละ … ไหนๆ เราก็ได้มันมาครอบครองแล้ว งั้นลองมาเริ่มแกะกล่องกันก่อนเลยดีกว่า ^_^

ตอนแรกที่เห็นกล่องของ OnePlus One นี่ประทับใจมากทีเดียว สวย ดูคลีน ยิ่งเปิดเข้าไปยิ่งดูดี! ดูเหมือนกล่อง GoogleGlass ดี!! โดยจะมาการแบ่งเลเยอร์ในการวางสรรพสิ่งต่างๆ อย่างเรียบร้อยทั้งตัวเครื่อง สายชาร์จ ที่จิ้มซิม ส่วนกล่องเล็กๆ นั้นจะเป็นตัวชาร์จค่ะ

แท่นแท้นนนน และนี่ก็คือ OnePlus One ที่เรารอคอย! สัมผัสแรกเนี่ยฟินมากก เพราะว่า texture ของฝาหลังทำมาดีทีเดียวค่ะ เป็นเนื้อทรายๆ ให้สัมผัสดี ไม่ลื่นหลุดมือง่าย ( texture ของฝาหลัง OnePlus One เครื่องสีขาวและสีดำนั้นจะต่างกันนะคะ สีดำจะออกทรายๆ แต่สีขาวจะลื่นๆ เหมือน baby skin ของเครื่อง OPPO) แถมที่ด้านหลังของตัวเครื่องยังได้รับการออกแบบมาโค้งนิดๆ เพื่อให้เข้ากับรูปมือด้วย ..  ซึ่งเมื่อดูด้านมองหลังแล้วโดยรวมแล้วมันคล้าย OPPO Find 7 มากเลย!

ซอฟต์แวร์

เมื่อลองเปิดเครื่องใช้งานจริงก็ยิ่งกรี๊ดกร๊าดเพราะว่ามันลื่นมากค่ะ! ปัดซ้ายไปซ้ายปัดขวาไปขวา ไม่อืด ไม่หน่วง ไม่กระตุก และด้วยรอมของ CyanogenMod 11S ที่เบสมาจาก Android 4.4 ที่ได้รับการปรับแต่งให้กินทรัพยากรเครื่องน้อยทำให้ได้ประสบการณ์การใช้งานดีพอๆ กับการใช้รอม Pure Google เลย แถมยังให้เราสามารถเลือกตั้งค่าสรรพสิ่งในเครื่องได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าฟีเจอร์เพิ่มเติมของปุ่มต่างๆ, การเลือกได้ว่าจะใช้แถบเมนูแบบ on-screen หรือปุ่มที่มีมาด้านล่างหน้าจอ, การเลือก front เลือก theme เลือก รูปแบบของไอคอน, การปรับแต่งค่าเสียง รวมไปถึงการเลือกล็อคการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของคนมีความลับเยอะ

 

นอกจากนี้ยังได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชา gesture ขณะปิดหน้าจอจากทาง OPPO มาด้วยทั้งการวาดวงกลมเพื่อเปิดกล้อง, การวาดตัว V เพื่อเปิดไฟฉาย และการใช้ guesture ต่างๆ เพื่อควมคุมการเล่นเพลง

โดยรวมแล้วด้านซอฟต์แวร์เนี่ยเร็ว ลื่นมาก แถมยังเลือกปรับแต่งได้เยอะน่าจะถูกใจคนที่ชอบการ customize กันหละ แต่ทั้งนี้ก็ยังแอบมี bug กันอยู่บ้าง ซึ่งอาการเหล่านี้ก็จะเป็นๆ หายๆ อย่างเช่น ออกจากหน้าแอพแล้วปิดหน้าจอไป พอเปิดหน้าจอเข้ามากลับเปิดหน้าแอพเดิมกลับขึ้นมาเอง เป็นต้น

หน้าจอ

ส่วนเรื่องของการใช้งาน แน่นอนว่ามาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แบบนี้ก็เน้นรองรับการใช้งานมัลติมีเดียโดยเฉพาะ ซึ่งท่ามกลางกระแสที่หน้าจอ QHD กำลังบูมกันอยู่ตอนนี้การที่ OnePlus One เลือกใช้หน้าจอ IPS Full HD มันเพียงพอไหม?

โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกพอนะ อาจเป็นเพราะตอนนี้โดยส่วนตัวด้วยยังไม่เห็นความต่างของหน้าจอ Full HD กับ QHD ที่เด่นชัด … หน้าจอของ OnePlus One นั้นถือว่าคมกริบและให้สีสดดีทีเดียว ประกอบกับขนาดหน้าจอที่รองรับการใช้งานมันติมีเดียได้เต็มตาทั้งการดูหนัง เล่นเกม และการท่องเว็ปต่างๆ

แต่ขอแอบติงนิดนึงตรงที่ลำโพงของ OnePlus One ดันไปอยู่ตรงตูดเครื่องพอดีเลย ทำให้เวลาเล่นเกมเมื่อเอียงเครื่องแนวนอนแล้วมือของเราจะไปอุดช่องลำโพงพอดี ส่วนอีกหนึ่งข้อเสียที่พบบนหน้าจอ OnePlus One ก็คือตรงขอบด้านล่างหน้าจอเป็นแถบเหลือง ซึ่งป็นกันทุกเครื่องและก็เป็นปัญหาเดียวกับที่เครื่อง OPPO หลายรุ่นเจอกันค่ะ

ประสิทธิภาพ

ส่วนด้านการใช้งานจริงก็ลื่นๆ เล่นเกมหนักๆ ได้แบบสบายๆ ไม่มีติดขัดเพราะว่าเขาจัดสเปคมาแน่นทั้งหน่วยประมวลผล quad-core Snapdragon 801 2.5 GHz และแรม 3 GB ซึ่งผลการ benchmark จากทั้ง Antutu และ 3DMark ก็ออกมาดีมากทีเดียว … ผลจาก Antutu ได้มาถึง 45,509 คะแนน ซึ่งก็แซงหน้า flagship หลายๆ ตัวในตลาดกันไปเลย ส่วนทาง 3DMark (Ice Strom Extreme) ก็ได้ผล Maxed Out ค่ะ

กล้องถ่ายภาพ

งานกล้องต้องมี งาน selfie ต้องมา เรื่องกล้องเนี่ยไม่พูดถึงไม่ได้เลยจริงๆ ซึ่ง OnePlus One นั้นมาพร้อมกล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล, ไฟแฟลช LED แบบคู่, รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K และยังมีฟีเจอร์ time lapse มาให้เล่นอีกด้วย

ซึ่งหน้าตาของแอพกล้องบน One Plus One นั้นใช้งานไม่ยุ่งยาก โดยเราสามารถเลือกสไลด์เพื่อเปลี่ยนโหมดในการถ่ายถ่ายภาพได้จากด้านบนของหน้าจอทั้งโหมด Aqua, Posterize, Sepia, Mono, Steady Photo, Night, Action,Clear Image, HDR, Smart Scene, Slow Shutter, Beauty Mode แต่ถ้าเกิดงงๆ เลือกไม่ถูกขอแนะนำให้จิ้ม Auto ไปโลด

และนี่คือถาพถ่ายบางส่วนจากกล้องหลักของ OnePlus One ค่ะ

  

ถ้าหากว่าเราลองซูมรูปที่ถ่ายจากแอพกล้องที่ติดมาในเครื่องจะเห็นได้ว่าคุณภาพนั้นไม่ดีเท่าที่ควร Noise เยอะ ซึ่งส่วนนึงก็น่าจะเป็นที่ซอฟต์แวร์เองด้วย เพราะเมื่อลองไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นกล้อง Google Camera มาลองถ่ายภาพเดียวกันดูกลับพบว่าภาพที่ได้นั้นมีคุณภาพที่ดีกว่าค่ะ

ส่วนด้านกล้องหน้าให้มาที่ 5 ล้านพิกเซลพร้อม Beauty Mode ให้สาวๆ ได้ selfie กันแบบฟินๆ สวยดูดีได้แม้ไม่ต้องแต่งหน้า! ซึ่งภาพที่ได้ก็จะเน้นปรับให้ตาโต ผิวขาวมาตั้งแต่ตอนถ่ายเลย

เมื่อลองเทียบกับกล้องหน้าที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเท่ากันของ HTC One M8 ที่เปิดโหมด make up ระดับ 5 แล้วจะเห็นได้ว่ากล้องของ OnePlus One จะดูฟรุ้งฟริ้งกว่า จนบางคนบอกว่าประหนึ่งมีอุทัยทิพย์ฟิลเตอร์มาให้ แต่โดยรวมแล้วภาพจาก M8 นั้นจะได้เปรียบในเรื่ององศากล้องที่กว้างกว่าและสีที่ตรงกว่าค่ะ

 

แบตเตอรี่

ประสบการณ์การใช้งานจะดีแค่ไหนแต่ถ้าแบตไม่พอใช้ก็จบกันใช่ไหมคะ สำหรับแบตเตอรี่ของ OnePlus One นั้นให้มาที่ความจุ 3100 mAh ซึ่งก็ถือว่าอึดดีทีเดียว ถ้าชาร์จเต็ม 100% จะสามารถใช้งานปกติได้เต็มวันแบบกลับบ้านมายังมีแบตเหลือด้วย >.<

 

เอาหละ ตอนนี้เราก็ได้ทำความรู้จักกับ OnePlus One กันไปแล้ว สุดท้ายนี้เรามาดูข้อดี-ข้อเสียของ OnePlus One กันสักหน่อยดีกว่า

ข้อดี
-สเปคจัดมาเต็ม
-ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับสเปค
-มาพร้อม CyanogenMod , ปรับแต่งได้เยอะและลื่นสุดๆ
-แบตอึด

ข้อเสีย
-ยังมี bug อยู่บ้าง
-ขอบจอด้านล่างเหลือง
-แอพกล้องที่มีติดมากับตัวเครื่องยังทำออกมาไม่ได้ดีเท่าที่ควร
-ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายในได้
-หาซื้อยาก / ไม่มีศูนย์

สำหรับใครที่สนใจ OnePlus One จะมีวางจำหน่ายกัน 2 สีทั้งสีขาว Silk White สำหรับรุ่นหน่วยความจำภายใน 16 GB วางขายที่สนนราคา $299 และสีดำ Sandstone Black สำหรับรุ่น 64 GB ที่สนนราคา $349 ค่ะ

 

ซึ่งตัวเครื่องจะแบ่ง 2 แบบคือเครื่องรุ่น International กับเครื่องที่มาจากจีน โดยความต่างก็คือเครื่องจากจีนเห็นว่ามีแหล่งให้สั่งกันได้แบบไม่ต้องง้อ invite แต่จะมาพร้อมกับรอม ColorOS ของ OPPO แทน และที่ฝาหลังจะไม่มีคำว่า CyanogenMod อยู่(แต่เมื่อซื้อมาแล้วก็สามารถเอามาลง CyanogenMod เองได้เหมือนกัน) แถมยังมีเวอร์ชั่นฝาหลังไม้มาให้เลือกด้วย!(แบบรูปด้านบน ซึ่งของเวอร์ชั่น International จะยังไม่ฝาหลังแบบนี้มีมาให้สั่งกัน) ซึ่งเครื่องหิ้วในบ้านเราส่วนมากก็จะเป็นเครื่องจีนกันซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

Play video

สเปค OnePlus One

  • ตัวเครื่องหนา 8.9  มิลลิเมตร หนัก 162 กรัม

  • หน้าจอ IPS Full HD ขนาด 5.5 นิ้ว  

  • หน่วยประมวลผล Snapdragon 801 quad-core 2.5 GHz

  • GPU Adreno 330

  • แรม 3 GB

  • หน่วยความจำภายใน 16 / 64 GB

  • กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล (f/2.0, แฟลช LED คู่, รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K)

  • กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล

  • แบตเตอรี่ 3100 mAh

  • การเชื่อมต่อ 3G / 4G LTE , รองรับ USB-OTG, Dual-band Wi-Fi (2.4G/5G) 802.11 b/g/n/ac, Bluetooth 4.0, NFC

  • ระบบปฏิบัติการ CyanogenMod  11S (Android 4.4)