Samsung เริ่มปล่อย One UI 4 Beta (Android 12) ให้กับผู้ใช้งานบางประเทศได้ทดสอบกันแล้ว แต่ตอนนี้ยังใช้ได้กับเฉพาะมือถือซีรีส์เรือธงล่าสุดอย่าง Galaxy S21, S21+ และ S21 Ultra ซึ่งจะเปิดทดสอบให้กับ จีน, อินเดีย, เยอรมนี, โปแลนด์, เกาหลีใต้, สหราชอาณาจัร และสหรัฐอเมริกาก่อน จากนั้นจึงจะเริ่มทยอยให้ประเทศอื่น ๆ ต่อไป โดยล่าสุดก็ได้มีข้อมูลจากผู้ที่ได้ใช้ One UI 4 Beta ออกมาเผยแล้วว่ามันจะมีการปรับปรุงระบบ และเพิ่มฟีเจอร์อะไรใหม่ ๆ เข้ามาบ้าง

Samsung บอกว่า One UI 4 ที่มีพื้นฐานอยู่บน Android 12 นั้น จะมาพร้อมกับการปรับปรุงระบบเพื่อเพิ่มความเสถียรในการใช้งาน, การปรับแต่งระบบ และความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ UI ใหม่ พร้อมกับเพิ่มฟีเจอร์เข้ามาให้อีกหลายอย่างด้วย

และจากข้อมูลของผู้ที่ได้ทดสอบ One UI 4 Beta แล้ว พบว่าผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าตา UI ของเครื่องตัวเองได้ละเอียดกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่ง Widget บนหน้าจอปกติ, Widget บน Lock Screen, Notification บน Lock Screen และอื่น ๆ

ส่วนเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวก็จะมีทั้ง Notification แจ้งเตือนเวลามีแอปที่กำลังใช้งานไมโครโฟน หรือกล้องตัวใดตัวหนึ่งอยู่, ฟีเจอร์เรียกดูว่าเราให้ Permission กับแอปไหนไปบ้างในช่วงเวลา 7 วัน ที่ผ่านมา, ตรวจสอบข้อมูล Data ที่ถูกใช้ไปของแต่ละแอป

ส่วนรายชื่อของฟีเจอร์ใหม่ ๆ ทั้งหมดที่ปรากฎบน Changelog หลังการอัปเดต One UI 4 Beta แล้ว ก็มีดังนี้

  1. Home screen : เปลี่ยนดีไซน์ Widget ต่างๆ บนหน้า Home ให้โชว์ข้อมูลมากขึ้น
  2. Lock screen :
    – สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ไร้สายที่กำลังเล่นเสียงได้จากหน้าจอที่ล็อคอยู่ (เช่น เปลี่ยนให้เสียงออกจากหูฟัง เป็นลำโพง) หรือปรับแต่งเสียงจากแอปเล่นเพลงต่าง ๆ ได้ด้วย
    – Widget สำหรับบันทึกเสียงบน Lock Screen กดอัดเสียงได้เลยโดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอ
    – Calendar Widget เพิ่มปฏิทินบนหน้า Lock Screen
  3. Always On Display :
    – เปิด Always On Display ได้เวลามี Notification เด้งขึ้นมา
    – เพิ่ม Sticker เคลื่อนไหวใหม่ ๆ สำหรับ Always On Display
  4. Quick panel (แถบตั้งค่าตรงหน้าจอด้านบน) :
    – ตั้งค่า Notification ได้ง่ายขึ้นจากแถบ Quick panel
    – แถบตั้งค่าแสงหน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้กดใช้งานได้ง่ายขึ้น
  5. Dark mode :
    – Wallpaper, Icon และอื่น ๆ จะมีสีหม่นลงไปอัตโนมัติให้เข้ากับ Theme และเพิ่มความสบายตามากขึ้น
  6. Charging effects : เปลี่ยนภาพกราฟิกตอนเสียบสายชาร์จใหม่ โดยจะมีข้อมูลของความไวในการชาร์จบอกด้วย
  7. Samsung Keyboard :
    – กดใช้ Emoji, GIF และสติ๊กเกอร์ ได้โดยตรงจากคีย์บอร์ด
    – เพิ่มฟีเจอร์ผสม Emoji ได้ 2 แบบ พร้อมใส่ภาพเคลื่อนไหวได้ด้วย
    – เพิ่มสติ๊กเกอร์เคลื่อนไหวแบบใหม่
    – เพิ่มฟีเจอร์ตัวช่วยในการสะกด และตรวจสอบแกรมมาร์ จาก Gammarly (ภาษาอังกฤษเท่านั้น)
  8. Tips : เพิ่มคลิปวิดีโอสั้น ๆ ในหัวข้อ Tips ของแอปต่าง ๆ เพื่อช่วยบอกวิธีการใช้งานของแอปนั้น ๆ
  9. Sharing :
    – ตั้งค่าเลือกแอปที่จะโผล่ขึ้นมาเวลาต้องการแชร์ไฟล์ จะได้ไม่ต้องเลื่อนหานาน ๆ
    – มีการแนะนำให้แก้ไขภาพก่อนจะกดแชร์ หากภาพดังกล่าวเบลอ หรือถ่ายไม่ชัด และจะมีคำแนะนำให้ด้วยว่าควรแก้ไขอย่างไร
  10. Camera :
    – ปรับแต่ง UI กล้องใหม่ให้ดูโล่งกว่าเดิม
    – เพิ่มการโชว์ข้อมูลระดับการซูมบนไอค่อนรูปเลนส์
    – โหมดถ่ายวิดีโอจะเริ่มการบันทึกทันทีเมื่อแตะโดนปุ่ม Record จากเดิมที่ต้องแตะแล้วปล่อยก่อน ถึงจะเริ่มบันทึก, ส่วนการถ่ายวิดีโอจากโหมดถ่ายภาพจากเดิมต้องกดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้ คราวนี้สามารถกดปุ่มค้างแล้วเลื่อนนิ้วเพื่อล็อคชัตเตอร์ให้ถ่ายวิดีโอต่อไปได้เรื่อย ๆ
    – โหมด Single Take เพิ่มระยะเวลาในการบันทึกให้นานขึ้น และปรับแต่ง UI ให้ใช้ง่ายขึ้น
    – โหมด Pro เปลี่ยน UI การตั้งค่าให้ดูโล่งขึ้น
    – ปรับปรุงฟีเจอร์สแกนเอกสาร คราวนี้สามารถซูมเข้าได้, สแกน QR Code มีตัวเลือกเพิ่มเข้ามาให้ ขึ้นอยู่กับว่าสแกนโค้ดประเภทไหน
  11. Gallery :
    – ตอนนี้ Stories จะโชว์คลิปพรีวิวสั้น ๆ ก่อนกดเข้าไปดู, โชว์ Location ของแต่ละภาพที่ถ่ายบนแผนที่ด้วย
    – เพิ่มตัวเลือกในการเรียงลำดับภาพในอัลบั้มที่มีไฟล์เป็นจำนวนมาก
    – มีภาพปกของอัลบั้มภาพโชว์ตรงมุมจอด้านบนเวลากดเข้าไปดูภาพในอัลบั้มนั้น ๆ
    – ปรับปรุงระบบค้นหาภาพและวิดีโอ
    – ภาพที่ผ่านการแต่งสามารถย้อนกลับไปเป็นภาพต้นฉบับได้ แม้จะบันทึกไปแล้ว
    – เพิ่มความสามารถในการเปลี่ยนวัน / เวลา / สถานที่ ของภาพหรือวิดีโอที่ถ่ายได้
  12. Photo and video editor :
    – ใส่ Emoji และสติ๊กเกอร์ลงในภาพและวิดีโอได้
    – สร้าง Video Collage จากหลาย ๆ ภาพและคลิปวิดีโอได้
    – เพิ่มตัวปรับ Light balance ของภาพถ่าย
    – โหมด Highlight reel editor ปรับแต่งให้ใช้งานง่ายขึ้น
    – คลิปที่ผ่านการแต่งสามารถย้อนกลับไปเป็นคลิปต้นฉบับได้ แม้จะบันทึกไปแล้ว
    – เพิ่มความสามารถในการตัดหน้าคน, สัตว์เลี้ยง, อาคาร และอื่น ๆ จากภาพนึงไปแปะอีกภาพนึงได้
  13. AR Emoji :
    – ใช้ AR Emoji เป็นภาพโปรไฟล์ได้ หรือจะใช้เป็นภาพของ Contact ก็ได้ โดยสามารถเลือกท่าทางได้ 10 อย่าง และสร้างรูปแบบการแสดงอารมณ์ได้เอง
    – เพิ่มสติ๊กเกอร์ AR Emoji ที่โชว์แต่ใบหน้าได้
    – เพิ่ม Template ใหม่ ๆ ให้กับ AR Emoji อีก 10 แบบ
    – วาดเสื้อผ้าให้ตัว AR Emoji ได้เอง
  14. Multitasking :
    – ย้ายปุ่มตัวเลือกไปไว้ด้านบนของแอปที่เป็นหน้าต่าง Pop-up ให้กดง่ายขึ้น
    – ปรับขนาดหน้าจอของ Picture-in picture ง่ายขึ้น แค่ใช้นิ้วถ่าง
    – เวลาใช้งาน Edge panels หน้าจอแอปหลักจะไม่เบลอแล้ว
  15. Settings : 
    – ตั้งค่าเบอร์โทรฉุกเฉินกับข้อมูลความปลอดภัยได้จากเมนู Safety and emergency
    – ปรับปรุงระบบค้นหาใน Settings ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  16. Digital Wellbeing : เพิ่มโหมด Driving monitor สำหรับแจ้งข้อมูลว่าตอนขับรถแล้วใช้มือถือเป็นเวลานานแค่ไหน และใช้แอปอะไรไปบ้าง
  17. Clock : เปลี่ยนหน้าตาของ Dual Clock Widget ให้เป็นคนละสีขึ้นกับว่านาฬิกาไหนเป็นเวลาของเมืองไหน และเป็นช่วงเช้าหรือกลางคืน
  18. Calendar :
    – Calendar รูปแบบใหม่ กดเพิ่ม Event ตามวันที่ต้องการได้ทันที และเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหากำหนดการที่ตั้งไว้ได้ดีขึ้น
    – Widget ใหม่บนหน้า Home โชว์ปฏิทินแบบทั้งเดือนพร้อมโชว์ข้อมูล Event ของแต่ละวัน
    – สร้าง Shared Calendar เพื่อให้ผู้ใช้งานอุปกรณ์ Galaxy อื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วยได้
  19. Messages : ตอนนี้สามารถค้นหาไฟล์ภาพ, วิดีโอ, ลิ้งค์ ฯลฯ จากแอป Messages ได้
  20. My Files :
    – ปรับปรุงระบบการค้นหาให้ดีขึ้น แม้พิมพ์ชื่อไฟล์ผิดก็ยังหาเจอ
    – ขยายพื้นที่หมวด Recent files ทำให้หาไฟล์ที่พึ่งมีการใช้งานเร็ว ๆ นี้ เจอง่ายกว่าเดิม เพราะจะโชว์ไฟล์ได้มากขึ้น
  21. Samsung Internet :
    – เพิ่มจำนวนคำแนะนำในการค้นหาจากช่อง Search และมีการเปลี่ยนดีไซน์ใหม่
    – เพิ่ม Search Widget ไว้ที่หน้า Home
    – Samsung Internet จะเริ่มการใช้งานในโหมด Secret โดยอัตโนมัติ ถ้าหากเข้าโหมดนี้เอาไว้จากคราวที่แล้ว
  22. Device Care :
    – หากอุปกรณ์มีปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่หรือมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย จะมีการแจ้งเตือนบนหน้าจอหลักทันที
    – สถานะโดยรวมของอุปกรณ์จะถูกโชว์ด้วย Emoji ให้สังเกตได้ง่าย ๆ ว่าตอนนี้เครื่องของเราเป็นยังไง
    – เข้าถึง Samsung Members diagnostics ได้ทันทีจากหน้า Device Care

และยังมีการปรับปรุงอื่น ๆ ของแอป Samsung health, Bixby, Accessibility และ Privacy อีกเพียบเลยล่ะ โดยตัวอัปเดต One UI 4 Beta นี้ มีขนาดอยู่ที่ราว ๆ 2.4GB ซึ่งได้รวม Security Patch ของเดือนกันยายนเอาไว้ด้วย สำหรับใครที่ใช้ Galaxy S21 Series อยู่ ก็ต้องมารอลุ้นกันครับว่าประเทศไทยจะได้กับเค้าเมื่อไหร่

 

ที่มา : @FrontTron (Twitter)