แน่นอนล่ะว่าหากมีมือถือเครื่องใดมาถึงมือเฮีย JerryRigEverything เมื่อไหร่ จะไม่ได้มีแค่การทดสอบทรมานโหดๆ แน่นอน เพราะจะต้องมีการชำแหละดูไส้ในของมือถือรุ่นนั้นๆ ด้วย ซึ่งหลังจากที่ OnePlus 8 Pro โดนทรมาน ขีดข่วน ไฟลนไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ล่าสุดก็ถึงคิวขึ้นเขียงผ่าตัด ชำแหละดูฮาร์ดแวร์ภายในของเครื่องกันบ้าง.. ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยดีกว่าครับ

Play video

สำหรับการเปิดฝาหลังของมือถือรุ่นนี้ ก่อนอื่นต้องใช้ปืนความร้อนเป่าให้กาวคลายตัวซะก่อน จากนั้นจึงใช้ใบมีดค่อยๆ แงะฝาหลังออกมาออกมา เนื่องจากมันได้รับการซีลกันน้ำมาอย่างดีนั่นเอง

สิ่งแรกที่แตะตามากๆ ตอนที่เปิดฝาหลังของ OnePlus 8 Pro ออกมาก็คือ แผ่น Wireless Charging ขนาดใหญ่ ที่รองรับการชาร์จไวความเร็วถึง 30 วัตต์ เรียกว่าไวกว่าระบบชาร์จแบบมีสายของบางค่ายเสียอีก

เมื่อนำไปเทียบกับแผ่น Wireless Charging ของ Galaxy S20 Ultra จะเห็นได้ว่าแผ่นของ OnePlus 8 Pro มีขนาดที่ใหญ่กว่ามากๆ

เขยิบขึ้นมาดูที่กล้องหลักของ OnePlus 8 Pro ที่แม้ว่าจะมีความละเอียดเพียงแค่ 48 ล้านพิกเซล แต่เมื่อนำไปเทียบขนาดกับของ Galaxy S20 Ultra ที่มีความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล จะเห็นได้ว่า ทั้งคู่นั้นมีขนาดที่แทบจะไม่ต่างกันเลย

ส่วนแบตเตอรี่ของ OnePlus 8 Pro แม้ว่าจะมีเขียนเอาไว้ชัดเจนว่า “Battery is not removeable” หรือแปลง่ายๆ ว่า แบตถอด (เอง) ไม่ได้ แต่การถอดออกมาก็แสนจะง่ายดาย เนื่องจากมีที่ให้ดึงเอาไว้เสร็จสรรพ ออกแรงนิดเดียว แบตก้อนขนาด 4,510 มิลลิแอมป์ ก็หลุดออกมาแล้ว (ก่อนถอดแบตออก อย่าลืมถอดพอร์ตที่เชื่อมต่อกับเมนบอร์ดก่อนนะ)

รูไมค์กับช่องใส่ซิมของ OnePlus 8 Pro นั้น อยู่ใกล้กันมากๆ และแน่นอนว่า ต้องเคยมีใครสักคนเผลอเอาเข็มไปจิ้มผิดรูกันบ้างล่ะ..(หนึ่งในนั้นคือผมเอง ฮ่าๆ) ซึ่งตรงนี้ ก็บอกเลยว่าต่อให้จิ้มผิดรู ก็ไม่น่าส่งผลเสียอะไรต่อโทรศัพท์นะ ทุกอย่างยังทำงานได้เหมือนเดิมตามปกติ (ทางที่ดีอย่าเอาอะไรไปจิ้มจะดีที่สุด)

และเมื่อชำแหละบริเวณหน้าจอ Fluid AMOLED ของ OnePlus 8 Pro จะพบกับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Optical นอกจากนี้ยังมีแผ่นเทป Graphite และแผ่นดำๆ ที่อยู่ข้างบนก็คือแผ่นระบายความร้อน หรือ Heat Pipe สำหรับช่วยระบายความร้อน

และทางด้านหลังของตัวเครื่องก็ยังมี Heat Pipe หรือท่อสำหรับระบายความร้อนอยู่อีกหนึ่งแห่ง

OnePlus 8 Pro ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่ถอดชิ้นส่วนออกมาซ่อม หรือเปลี่ยนอะไหล่ได้ค่อนข้างง่าย แต่รอบนี้อาจจะแกะเครื่องยากกว่าเดิมเล็กน้อย เนื่องจากทาง OnePlus เองได้ซีลตัวเครื่องให้แน่นหนากว่าเดิม เพื่อที่จะให้ผ่านมาตรฐานการทดสอบกันน้ำกันฝุ่นแบบ IP68 นั่นเอง

 

ที่มา: JerryRigEverything