LG Optimus One P500 เป็นมือถือรุ่นแรกของ LG ที่ผมคิดว่าน่าซื้อมาใช้งานที่สุด ซึ่งก่อนหน้าจะมี LG Eve ออกมา แต่ผมอยากให้ลืมๆ มันไปก่อนแล้วมาเต็มอิ่มกับ LG Optimus One กัน รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ดีทั้งวัสดุ หน้าตาการออกแบบ และระบบข้างในอย่างลงตัว เรามารู้จักกับ Optimus One กันมากกว่านี้กันดีกว่าครับว่าทำอะไรได้บ้าง


หน้าจอ
สิ่งที่ LG ให้มาคือหน้าจอ TFT ที่ค่อนข้างสีสด (ไม่รู้ว่าทำให้สดเหมือน AMOLED หรือเปล่า) ความที่สีสดนี้เราจะสัมผัสได้ตั้งแต่การเล่นเกม เปิดเว็บได้เลย สีสันค่อนข้างจัดจ้านสมใจมากกว่ามือถือรุ่นทั่วๆ ไปในระดับใกล้เคียงกัน หน้าจอความละเอียด 480×320พิกเซล หรือ HVGA (ครึ่งของ VGA) ซึ่งเป็นความละเอียดที่พบใน iPhone 3G, HTC Hero, Magic, Legend, Aria และ Samsung Galaxy Spica ซึ่งไม่ใช่หน้าจอที่ผิดเพี้ยนไปจากความคุ้นเคยของเราเลย เช่นเดียวกับเกมก็เป็นหน้าจอมาตรฐาน

ข้อดีของจอ LG คือทาง LG นั้นผลิตจอเองครับ ใครไปอเมริกาบ่อยจะรู้ว่าเกือบทุกบ้านใช้จอ LG และจอของ LG นี่คืออันดับหนึ่งของโลกเลยในเรื่องจอทีวี LCD แน่นอนมือถือ LG ก็ผลิตจอให้กับค่ายผลไม้ค่ายหนึ่งด้วย ถ้าใครคิดว่ามือถือรุ่นไอ (แค๊กๆๆ) ดีแค่ไหน เราจะได้ประสบการณ์นั้นบน LG Optimus One ด้วย

รูปร่างของเครื่อง
รูปทรงที่ได้นั้น พูดกันง่ายๆ ก็คือคล้ายกับ LG Cookie (และแอบเอาไปผสมกับ HTC Touch) จนออกมาเป็นแบบนี้ มีปุ่มหลักอยู่ 4 ปุ่มด้านหน้าคือ กลับ/โฮม และค้นหา/เมนู ที่เรามองเห็นได้เลย ปุ่มมีไฟด้วยไม่ต้องมานั่งกังวลว่ามืดๆ จะเป็นอย่างไร

ขอบและด้านหลังเป็นพลาสติกเคลือบสีเงินด้าน ดูแล้วจะเหมือน BlackBerry Blod 9000 มากจนน่าตกใจว่ามันอารมณ์ใกล้เคียงกันได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ด้านล่างมีที่ชาร์จ microUSB ซึ่งเอาของ BlackBerry, Nokia, Motorola, LG, Samsung มาใช้ด้วยกันได้เลย ด้านข้างมีรูเป็นไมโครโฟนที่จับเสียงได้ดี

ด้านหลังฝาหลังเป็นวัสดุกันลื่น จับแล้วจะรู้สึกถึงความหนืดๆ แต่ไม่เหนียว เหมาะมากกับการวางบนโต๊ะ หนัง และผ้า การแกะฝาหลังนั้นจะต้องแกะที่ด้านบนซึ่งมีช่องให้เอาเล็บแงะแล้วก็ดึงออกมาจากสลักจำนวน 12 จุด (นี่เขาจะไม่ให้แกะเลย) ต้องใช้ความพยายามนิดหน่อยนะครับในการเปิดมันออกมา

ข้างในมีแบตขนาด 1500 มิลลิแอมป์ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดแล้วสำหรับตอนนี้ แต่มาอยู่ในเครื่องแค่นี้ ทำได้ การจะเปลี่ยนซิมต้องเอาแบตออก แต่เปลี่ยน microSD Card นั้นยกก้านยึดโดยเลื่อนขึ้นเพื่อเปิดได้เลยไม่ต้องปิดเครื่องเลย สำหรับ microSD นั้นใส่ได้มากถึง 32GB เลยนะครับ โอ้! สุดยอด ส่วนที่ยื่นออกมาอีกส่วนคือกล้องที่มีฐานเหล็กแข็งแรงมากยึดตัวกล้องไว้จากการกระแทก หรือการขูดขีดเป็นอย่างดี

ซิมที่ใส่ได้เป็นซิม GSM และ 3Gแบบ900Mhz ซึ่งไม่รองรับกับทรู3Gที่ 850Mhz นะครับ ซึ่งไม่ใช่ปัญหาอะไรมากครับ 3G บ้านเรายังเป็นวุ้นอยู่

ด้านบนเครื่องมีปุ่มเปิดปิด พร้อมกับการเปิดหน้าจอในตัว และรูหูฟังรีโมต หูฟังปกติก็ใช้ได้เพระามีขนาด 3.5ม.ม. เป็นขนาดมาตรฐานอยู่แล้ว และด้านข้างขวามีปุ่มกดเพิ่ม-ลดเสียงให้ด้วยเวลาใช้งานปกติ

การออกแบบของเครื่อง
เนื่องจากเครื่องที่ได้มาเป็นสีดำ จะตัดกับขอบสีเงินสวยงามมาก ขอบจะมีโค้งทั้งหมด สวยตัดกันพอดี (หรูมากว่างั้นเถอะ) และออกแบบให้ไม่เป็นรอยนิ้วมือ ไม่เลอะ ไม่เปื้อนง่าย แต่สีที่จะออกจริงๆ มีสีดำ ขาว และสีเงินคือ โดยมีพรีเซ็นเตอร์คือลี มิน โฮ ดาราจาก F4 เกาหลี

สิ่งที่ประทับใจในการออกแบบคือการใช้วัสดุที่เป็นเหล็กแท้ในการทำปุ่ม และที่บังกล้อง ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเยอะมากกับการใช้งาน รวมไปถึงการใช้เหล็กในส่วนลำโพงที่แนบหูด้วย

ระบบในเครื่อง
เครื่องนี้เป็นเครื่องที่ออกแบบโดยทีม LG และ Google ช่วยกัน เพราะฉะนั้นระบบต่างๆ นั้นเป็นไปตามมาตรฐานขั้นสูงสุดเลยก็ว่าได้ที่ Google ทำออกมา ซึ่งความจริงแล้ว NexusOne และ OptimusOne เป็นญาติกันก็พูดไม่ผิดครับ

ความเร็วของเครื่องนั้นมีความเร็ว 600Mhz พร้อมกับการเชื่อมต่อ GPS, Bluetooth, Wifi อย่างครบเครื่องรวมไปถึง 3G ด้วย

ระบบปฏิบัติการคือ Froyo 2.2 พร้อมกับ Rom และ Ram 512 MB ทั้งคู่ (เอาไว้เปิดโปรแกรม และเอาไว้ใช้เก็บโปรแกรมในเครื่อง) แต่เนื่องจากสเป็กของ Adobe Flash ที่แจ้งเอาไว้นั้นเป็น CPU 1Ghz จึงทำให้ไม่สามารถติดตั้ง Flash ได้

กล้อง
กล้องที่ได้นั้นคือกล้องขนาด 3ล้านพิกเซล ที่ไม่มีแฟลชแต่มีออโต้โพกัสมาให้ครับ ลูกเล่นของกล้องนั้นโอเคมากเลย ถ่ายรูปเร็ว บันทึกเร็วกว่ากล้องปกติเสียอีก มีฟังชั่นในการปรับแสงสีภาพเยอะแยะมากมายมาก คุณภาพที่ได้นั้นถือว่าเอาไปใช้งานได้เลย

ข้อดีที่เจอ
1.เครื่องออกแบบให้กระชับมือ ไม่เป็นรอย ขนาดมาตรฐานหาซองใส่ง่าย พกง่าย
2.หน้าจอสีสวยสดประทับใจ
3.แบตเตอรี่ขนาด 1500 มิลลิแอมป์
4.Android Froyo 2.2 แท้ๆ สามารถแชร์อินเตอร์เน็ตจากเครื่องไปยัง iPod Touch, Notebook ได้
5.สามารถเล่นเกมสามมิติอย่าง Need For Speed และ The Sims 3 ได้ด้วย ถึงแม้จะหน่วงๆ บ้างเล็กน้อย
6.การรวมกันของสมุดโทรศัพท์ ทั้ง Facebook, Twitter รวมกันหมดเลย สามารถอัพเดทสถานะต่างๆ รวมกันได้เลย
7.ราคาไม่แพง คุ้มค่ามาก คือ 9,900 บาท

ข้อเสียที่เจอ
1.ฝาหลังเป็นฝาหลังแบบ 12 จุด เวลาจะเปิดฝาหลังทำได้ยากมาก แต่ข้อดีคือการที่เครื่องตกแล้วฝาหลังไม่ระเบิดออกมา
2.ไม่รองรับ Adobe Flash

เอาละครับ นี่ก็คือที่สุดของแอนดรอยอีกหนึ่งรุ่น มีคนถามว่าตัวนี้ดีที่สุดหรือเปล่า? ผมตอบได้เลยว่าไม่ที่สุด แต่ผมกล้าฟันธงได้ว่านี่คือรุ่นที่คุ้มที่สุด ทั้งการใช้งาน จอ กล้อง แรม และอื่นๆ ที่ออกแบบมาลงตัวมากๆ ใครที่ต้องการมือถือคุ้มๆ ในยุคที่อะไรก็ไม่แน่นอนแบบนี้ LG Optimus One ครับ

ที่มาจาก http://www.theroom23.com/index.php/2010/10/lg_optimus
รีวิวดีๆ จากผมเองครับ (nAtz)