ในช่วงที่น้ำมันแพงสุด ๆ ขึ้นราคากันได้วันเว้นวันแบบนี้…คงไม่มีอะไรเหมาะไปกว่ารถยนต์ไฟฟ้าอีกแล้ว ซึ่งล่าสุดทางค่ายน้องใหม่อย่าง GWM (Great Wall Motor) ได้ออกมาเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง ORA Good Cat (เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าซีรีส์ Cat ที่มีทั้ง ORA Black Cat และ ORA White Cat ซึ่งอาจจะมีลุ้นเปิดตัวภายในปีนี้ด้วย) ที่มีจุดเด่นอยู่ที่สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 500 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
ORA Good Cat เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ประเภท Hatchback รูปร่างหน้าตาน่ารักสมชื่อทั้งภายนอกและภายใน สาว ๆ เห็นแล้วน่าจะถูกใจกันได้ไม่ยาก (หนุ่ม ๆ ก็ขับได้ไม่ว่ากัน) โดยเฉพาะการตกแต่งด้านในที่ออกแนวย้อนยุคนิด ๆ
แต่ยังผสานเข้ากับความล้ำของเทคโนโลยีสมัยใหม่ด้วยหน้าจอขนาด 17.25 นิ้ว เป็นแนวยาวพาดไปตั้งแต่บริเวณพวงมาลัยจนถึงตรงกลางรถ แบ่งเป็น 2 ส่วนคือหน้าจอสัมผัสสำหรับใช้งานขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอสำหรับแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งานทั้ง Apple carplay และ Android Auto ด้วย
ORA Good Cat มีขนาดตัวถังราว ๆ รถ Hatchback ทั่วไป ด้วยความกว้าง 1,825 มม. ยาว 4,235 มม. สูง 1,596 มม. ระยะฐานล้อ 2,650 มม. และมีน้ำหนักที่ 1,510 กก. ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 150 กม. / ชม. และมีอัตราเร่งจาก 0 – 50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที
มีโหมดขับขี่ทั้งหมด 5 แบบ คือ โหมดมาตรฐาน, โหมด Sport, โหมด Eco, โหมด Eco+ และโหมดอัตโนมัติ พร้อมโหมด Energy Recovery ให้เลือกใช้ได้อีก 3 ระดับ
ORA Good Cat ใช้แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion มีให้เลือกทั้งหมด 2 ความจุคือ ORA Good Cat รุ่น 400 แบตเตอรี่ขนาด 47.8 kWh วิ่งได้สูงสุด 400 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และ ORA Good Cat รุ่น 500 แบตเตอรี่ 63.1 kWh วิ่งได้สูงสุด 500 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
โดยมากับระบบชาร์จไว ชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% – 80% ได้ในเวลาแค่ 45 นาที สำหรับรุ่น 400 และใช้เวลา 60 นาที สำหรับรุ่น 500 ส่วนการชาร์จจากไฟบ้านจนเต็ม 100% ใช้เวลา 8 ชม. สำหรับรุ่น 400 และ 10 ชม. สำหรับรุ่น 500
ORA Good Cat วางจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่นดังนี้
- 400 TECH : ราคา 989,000 บาท
- 400 PRO : ราคา 1,059,000 บาท
- 500 ULTRA : ราคา 1,199,000
รุ่น tech แพงกว่าที่คิดไว้เยอะเลย 😯😯
นึกว่าจะ 800,000 ต้นๆ 😂😂
ของผมคาดไว้ประมาณนี้เลยครับ เพราะ MG ก็ราคาช่วงนี้เหมือนกัน ที่เหลือก็รอเวลาพิสูจน์แล้วล่ะ
1 รอบ เป็นเงินกี่บาทครับ ถ้าชารทไฟบ้าน ถ้า รอบละ 100 บาท คุ้มนะ วิ่งได้ 3-400 ระยะ 100/ชม
ราคาขึ้นอยู่กับหลายอย่างเลยครับ รถรองรับชาร์จเร็วได้แค่ไหน ถ้าชาร์จเร็วก็แพงขึ้นอีก (แต่เวลาน้อยลง) ถ้าค่ากลางๆ ก็ชาร์จเร็วที่ที่ 7.2kW ครับ เรทนี้น่าจะหน่วยละ 4.1 บาท ถ้าอิงตัว 500 จะต้องชาร์ต 8 ชม 48 นาที สูตรจะเป็น 7.2 x 4.1 x 8.8 = 259.776 ก็คือวิ่ง 1 กิโลจ่ายแค่ 0.52 บาท ถือว่าถูกมาก ๆ เลยนะครับ ออกทริป 300 กิโล จ่ายแค่ 150 บาท
.
อีโคคาร์ ถ้าวิ่งเฉลี่ยๆ ก็ 20 โลลิตร อิงน้ำมัน E20 ตอนนี้ก็ปาไป 31 ละ ก็ตกกิโลละ 1.5 บาท ครับ รถไฟฟ้าถูกกว่า 3 เท่าเลย และถ้ารถปกติ วิ่งกัน 15 โลลิตร นั่นก็วิ่งกิโลละ 2 บาทกว่าเลยทีเดียว เติมน้ำมันเท่าไหร่ก็หาร 2 เลยว่าวิ่งได้เท่านั้น
.
รอดูอีกสัก 5 ปีเพราะเรายังไม่รู้เลยว่าเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตกันเนี่ย จะแพงขนาดไหน (ตอนนั้นอาจจะเทิร์นกันหมด) ส่วนรถก็ไม่รู้จะมีเซนเซอร์อะไรเสียจนต้องจ่ายเพิ่มรึเปล่าเพราะจัดเต็มเยอะเกิน เสียทีนึงไม่อยากคิดเลย เขาว่ากันว่าบำรุงรักษาง่าย แต่ก็ต้องรอดูต่อไปกันครับ
.
ไม่ได้ใช้เองนะครับ อยากรู้เหมือนกันเลยค้นมาตอบให้ครับ
จากคนที่ใช้รถไฟฟ้าอยู่นะครับ 500 กม. นั่นต้องวิ่งที่ 90 กม./ชม. หรือต่ำกว่านั้น ครับ ชีวิตจริงมันเกิดยาก ถ้าคุณกด 110 -120 จะลดลงฮวบเลยครับ เรทค่าไฟเวลาคิดจริง ควรจะขั้นต่ำ 4.4 บาท /หน่วย ยกเว้นจะใช้ TOU มิเตอร์ ก็ได้ 2.8 บาท /หน่วย ส่วนแบต LFP ปัจจุบัน 30 kWh 1 แสนก็ซื้อได้แล้วครับ แต่นั่นมันแบบเป็นก้อนๆ แล้วเอามาต่อเองนะ ใช้กับงาน โซล่าเซล ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้อนาคต ถูกลงแน่นอน แต่ใช้รถแบบนี้มันเหมาะกับวิ่งในเมืองครับ เส้นทางชัดเจน ไม่ค่อยเปลี่ยน ออกต่างจังหวัด ต้องคิดเยอะหน่อย ไม่เหมาะเอาไปท่องเที่ยวครับ อีกอย่างใช้แบต ควรใช้ไม่ให้หมดเกลี้ยงครับ ดีที่สุดคือ เหลือซัก 30% (DOD70) ไม่อย่างนั้น cycle ของแบตมันจะลดลง เหลือแค่ 3000 (ถ้า DOD 70 จะได้ประมาณ 5000, ถ้า DOD 60 เกือบ 10000) แต่โดยรวม ยังดีกว่ารถน้ำมันครับ ยิ่งรถติดยิ่งดีกว่า ถ้ารับข้อจำกัดด้านบนที่ผมบอกได้ก็น่าใช้ครับ
ขอบคุณคุณ GolfOly มากเลยค้าบบ
ส่วนตัว ตอนนี้ในเมืองไทยที่จุดชาร์ทยังไม่พร้อม hybrid ตอบโจทย์ที่สุดล่ะ
พวก cross hybrid หรือ altis hybrid ทำได้ 20-22 Km/ลิตร
อ่านไปเจอ ราคาในจีน รุ่นเริ่มต้นแค่ 540,000 เองนะ
เหตุผลกลใดกันหนอ กลายมาเป็น สองเท่าในประเทศไทย
ถ้าราคายังสูงขนาดนี้เกิด ev ในบ้านเรายาก
ภาษีนำเข้า
https://www.grandprix.co.th/imported-car/
และค่าขนส่ง