ถ้าเพื่อนๆ คนไหนติดตามราคาตลาด PC บ้านเราในช่วงนี้ จะเห็นได้ฮาร์ดแวร์แต่ละอย่างราคาถูกกว่าช่วงกลางปีที่ผ่านมาเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นซีพียู, การ์ดจอ, SSD และที่เห็นได้ชัดที่สุดเลยคือ Ram ราคาลดลงแบบครึ่งต่อครึ่ง ทีมงานเลยถือโอกาสนี้มาจัดสเปค PC แนะนำเริ่มต้นสำหรับคนงบน้อย 3 แบบ เน้นใช้งานทั่วไป เล่นเกมลื่น เริ่มต้น 6,000 บาท จะมีสเปค PC แบบไหนบ้างไปดูกันเลยครับ

SET 1 สเปคงบ 6,000 บาท

รายละเอียดสเปคที่ใช้

  • CPU : AMD Athlon 3000G
  • GPU : VEGA 3 Graphics (Onboard)
  • Ram : BLACKBERRY 8GB DDR4  Bus 2666
  • Storage : SSD KINGSTON A400 240GB
  • Mainboard : GIGABYTE A320M-S2H
  • Power Supply : NEOLUTION ETERNITY-550W
  • Case : อะไรก็ได้ราคาประมาณ 500 บาท

สำหรับ SET 1 จะเหมาะกับคนที่งบน้อยอยากได้ PC สักเครื่องไว้ใช้งานทำงานทั่วไป เช่น งานเอกสาร ท่องเว็บ เล่นเน็ต ดู YouTube Facebook ครอบคลุมทำได้หมดลื่นๆ ซึ่งที่แนะนำตอนนี้เลยคือ AMD Athlon 3000G เป็นรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวมาล่าสุด ราคาเทียบประสิทธิภาพคุ้มมาก ได้ 2 Core/4 Thread ความเร็ว 3.5 Ghz บนสถาปัตยกรรม 14nm

นอกจากนี้ตัวซีพียูยังมีการ์ดจอออนบอร์ดเป็น VEGA 3 ความแรงก็ถือว่าเล่นเกมเบาๆ พอได้โดยไม่ต้องเพิ่งการ์ดจอแยก เช่น Dota 2, Overwatch (ปรับ Low-Medium ได้ FPS 30-60 ความละเอียด Full HD) ส่วน Ram 8 GB และ SSD 240GB ก็ถือเป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่แนะนำสำหรับการใช้งานปัจจุบัน ต่ำกว่านี้ใช้งานไปมีหงุดหงิดเปล่าๆ ครับ

  • คำแนะนำ ในอนาคตหากมีงบเพิ่มเติมมา แนะนำใสการ์ดจอแยกที่เป็นตัว AMD RX570 (4GB) ราคาประมาณ 3,500-4,000 บาท มาเล่นเกมหนักๆ อย่าง PUBG หรือ GTAV ได้สบาย

SET 2 สเปคงบ 12,000 บาท

รายละเอียดสเปคที่ใช้

  • CPU : AMD Ryzen 5 2600
  • GPU : ASUS ROG STRIX RX570 Gaming OC 4GB
  • Ram : BLACKBERRY DDR4 8GB (8GBx1) 2666
  • Storage : Apacer PANTHER AS340 240GB
  • Mainboard : GIGABYTE A320M-S2H
  • Power Supply : DTECH PW036 650W
  • Case : อะไรก็ได้ราคาประมาณ 1,000 บาท

ขยับขึ้นมาหลักหมื่นนิดๆ กันบ้างสำหรับ SET 2 เหมาะกับคนที่ต้องการเล่นเกมแบบจริงจังมากขึ้น ใช้งานหนักขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานตัดต่อ ทำกราฟิก หรือจะสตรีมมิ่งเบาๆ ก็สามารถทำได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่า AMD Ryzen 5 2600 ก็ยังคงตอบโจทย์ในเรื่องของประสิทธิภาพต่อราคาที่ดีแม้ว่าจะเป็นรุ่นเก่าก็ตาม โดยตัวสเปคซีพียูเองจะได้เป็นแบบ 6 Core/ 12 Thread ความเร็ว 3.4 – 3.9 GHz สถาปัตยกรรม 12nm

ถัดมาการจอแยกทีมงานขอแนะนำตัว AMD RX570 ซึ่งในที่นี้แนะนำเป็นตัว ASUS ROG STRIX RX570 Gaming OC 4GB เพราะราคาดิ่งลงมาเยอะมาก ประสิทธิภาพโดยรวมก็ยังคือคุ้มต่อเม็ดเงินจ่ายไป สามารถเล่นเกมหนักๆ ได้ทุกเกมบนความละเอียด Full HD ไม่ว่าจะเป็น GTAV, PUBG, BF1 ปรับเพื่อเล่นเอา FPS 60+ ได้สบายๆ

  • คำแนะนำ หากจะหา PC เริ่มต้นเล่นเกมดีๆ สักเครื่อง SET 2 นี้คือดูลงตัวที่สุดแล้วในหลายๆ ด้าน และหากอยากจะอัปเกรดอะไรเพิ่มเติม แนะนำเพิ่ม Ram เป็น 16GB ใช้งานยาวๆ หรือเปลี่ยน PSU เป็นเกรด 80+ ที่ดีขึ้นก็ได้ครับ

SET 3 สเปคงบ 18,000 บาท

รายละเอียดสเปคที่ใช้

  • CPU : INTEL Core i5-9400F
  • GPU : GIGABYTE GTX 1660 OC 6GB
  • Ram : KINGSTON Hyper-X Fury DDR4 8GB 2666
  • Storage : KINGSTON A400 480GB
  • Mainboard : GIGABYTE H310M H
  • Power Supply : AEROCOOL AE-550W (80+)
  • Case : อะไรก็ได้ราคาประมาณ 1,000 บาท

สุดท้ายกับ SET 3 ที่คราวนี้มาใช้สเปคของทางฝั่ง Intel กันบ้าง โดยสเปคนี้เหมาะกับคนที่ต้องการเล่นเกมกราฟิคสูงๆ เป็นหลัก ซึ่งตัว Intel i5-9400F เองก็จะถือเป็นรุ่นประหยัดที่ตัดการ์ดจอออนบอร์ดออกไป เพื่อบังคับให้ใส่การ์ดจอแยก โดยมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล 6 Core/ 6 Thread ความเร็ว 2.9 – 4.1 GHz บนสถาปัตยกรรม 14nm

ทางฝั่งการ์ดจอแยกใช้ของฝั่ง NVIDIA ที่เป็นรุ่น GIGABYTE GTX 1660 OC 6GB ซีรีส์ใหม่อัปเกรดจากรุ่น GTX 1060 ตัวเก่า ประสิทธิภาพแรงกว่าตัว RX570 ของ SET 2 ประมาณ 30% ซึ่งสามารถปรับกราฟิคสุดได้เกือบทุกเกม เล่นได้ลื่นๆ สบายๆ แน่นอนบนความละเอียด Full HD

ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ในสเปคเซตนี้ก็ใช้ของเกรดที่ดีขึ้นมาอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็น PSU ที่เป็นเกรด 80+ ที่ช่วยประหยัดพลังงานและจ่ายไฟได้เต็มกว่า, SSD ขนาด 480 GB จะเก็บงานหรือลงเกมก็ทำได้มากขึ้น รวมถึง Ram ที่ใช้เป็นตัว Hyper X Fury ที่ดีไซน์มาสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ

  • คำแนะนำ หากมีงบมากกว่านี้อีกประมาณ 2,000 บาท สามารถอัปเกรดเพิ่มเป็นการ์ดจอ GTX 1660Ti ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอีกประมาณ 18% หรือจะไปอัปเกรด Ram เพิ่มเป็น 16GB ก็ได้เช่นกันครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับการจัดสเปค PC ทั้งสามแบบหวังว่าจะเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ไปประกอบคอมกันได้ ทั้งนี้ราคาที่ทีมงานใช้เป็นราคากลางตามร้านออนไลน์ พอไปซื้อจริงราคาอาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อย รวมกันบวกลบไม่เกิน 500 บาทราวๆ นี้

และในช่วงนี้เองหากใครที่อยู่ กทม. ก็อย่าลืมลองแวะไปงาน Commart Work 2019 ประจำท้ายปี 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 19-22 ธันวาคม 2019 นี้ ที่ ไบเทค บางนา เปิดตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. แนะนำเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีบางนา จะสะดวกสุดครับ หรือเพื่อนๆ คนไหนก็ขนของกลับเต็มที่ก็สามารถขับรถมาเองก็ได้ มีที่จอดรถเพียบครับผม