ชิปเซต Tensor G4 ของกูเกิล ถูกพูดถึงอย่างมากหลังการเปิดตัว Pixel 9 Pro โดยเฉพาะการหยิบยกไปเทียบความแรงกับชิปค่ายอื่น ด้วยเครื่องมือวัดประสิทธิภาพต่าง ๆ ที่ผลออกมาชัดเจนว่า Tensor G4 ยังเป็นรอง เช่นเดียวกับ The Financial Express ที่ก็สนใจประเด็นนี้ จึงยิงคำถามไปยัง Soniya Jobanputra ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ Pixel ของกูเกิล ในการสัมภาษณ์นัดพิเศษ
ในงาน Made by Google สัปดาห์ที่ผ่านมา กูเกิลนำเสนอบนเวทีว่า Tensor G4 ได้รับการพัฒนาร่วมกับทีม DeepMind ที่เชี่ยวชาญเรื่อง AI เพื่อให้ชิปทำงานสอดรับกับ Gemini ได้อย่างเต็มที่ โดยมีเอาต์พุต 45 โทเคนต่อวินาที สูงที่สุดเหนือคู่แข่งในตลาด
ยิ่งไปกว่านั้น Tensor G4 ยังรองรับการรัน Gemini แบบ multimodal เป็นรุ่นแรก ทำให้สามารถเข้าใจอินพุตหลายประเภทพร้อมกันในคราวเดียว เช่น ข้อความ เสียง รูปภาพ และวิดีโอ เป็นการปลดล็อกไปสู่ฟีเจอร์ Pixel Screenshorts และ Call Notes ที่ประมวลผลได้โดยตรงจากบนเครื่อง
- มือถือ Google Pixel ใช้งานในไทยเป็นยังไง เสียซ่อมที่ไหน ติดข้อจำกัดอะไรบ้าง
- สรุป 12 ของใหม่ Pixel 9 Pro XL และ Pixel 9 Pro Fold จัดเต็มฟีเจอร์ Google AI มีอะไรน่าสนใจบ้าง
- เทียบ Pixel 9 และ Pixel 9 Pro ต่างกันอย่างไร รุ่นไหนเหมาะกับใคร
ในแง่ประสิทธิภาพ Jobanputra อธิบายเสริมว่า Tensor G4 ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเอาชนะเบนช์มาร์กด้วยคะแนนดิบ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้สะท้อนถึงการใช้งานจริง แต่สิ่งที่กูเกิลให้ความสำคัญคือ การปรับแต่งชิปให้ตอบโจทย์กับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น การท่องเว็บ ดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายภาพ หรือถ่ายวิดีโอ ที่ Tensor G4 ถูกปรับปรุงให้กินแบตน้อยกว่าเดิม
Jobanputra ยังบอกอีกว่า Tensor G4 ผ่านการออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานด้าน AI ในระยะยาว กล่าวคือ ในอนาคตโมเดล AI จะฉลาดขึ้น เก่งขึ้น ทำอะไรได้มากขึ้น เป็นเรื่องที่ยังไงแล้วก็ต้องเกิด แต่ในทางเดียวกัน ‘ขนาด’ ของโมเดลก็จะใหญ่ตาม และต้องการพลังการประมวลผลที่แรงพอ รวมถึงองค์ประกอบอย่างอื่นที่อาจกลายมาเป็นข้อจำกัดในอนาคต เช่น ความเร็ว (และขนาด) ของแรม ซึ่ง Pixel 9 Pro มีการการันตีอัปเดตซอฟต์แวร์นานถึง 7 ปี ดังนั้นทุกอย่างต้องคิดเผื่อไว้ไม่น้อยไปกว่านั้น
อย่างไรก็ดี แม้กูเกิลจะมอง AI และการใช้งานทั่วไปนำมาเป็นอันดับต้น ๆ แต่ก็ไม่ได้ความว่า ‘ความแรงพื้นฐาน’ จะถูกละเลยไปซะเฉย ๆ เพราะที่ผ่านมาก็มีข่าวลืออย่างหนักว่า Tensor G5 จะได้รับการยกเครื่องครั้งใหญ่ในปีหน้า โดยเป็นชิปที่กูเกิลออกแบบเองทั้งหมด ไม่ได้ดัดแปลงจากชิป Exynos ของ Samsung อีกต่อไป รวมถึงเปลี่ยนมือถือผู้ผลิต และยกระดับกระบวนการผลิตเป็น 3 นาโนเมตร ที่ล้ำหน้ากว่าเดิมอย่างมีนัยสำคัญ
ที่มา : The Financial Express
ใช้ 6Pro 8Pro
กดถ่ายรูปรัวๆแบบไม่ใช่กดค้าง ตอนเครื่องไม่ร้อน ยังกดถ่ายได้ไม่กี่รูปเองเครื่องก็ค้างแล้ว
แล้วลองกดถ่ายค้างเหมือนburst ภาพที่ได้ก็ไม่ชัดเท่ากดถ่ายทีละภาพอีก ยังงงอยู่เลยว่า"CPUพี่จะใช้งานจริงเก่งกว่าคนอื่นในเรื่องไหน"
แล้วFeature Magic Editor ก็แอบสงสัยว่ามันทำงานแบบไหนกันแน่
เพราะต้องupload ก่อนแล้วAi ถึง gen นี่มันไม่ต่างจากใช้Canva หรือแอฟแต่งภาพ Onlineเลย
Hardware G3 ทำงานประมวลผลยังไงเนี่ย
กลัวจะเหมือน Magic Erase ที่ตอนนั้นต้อง G1 ถึงใช้ได้เอาไปเอามา Google One ก็ใช้ได้
ไม่เกี่ยวกับHardware เลย
จากใจติ่งที่ตั้งใจจะขิงเพื่อนแต่พอลองใช้จริงก็เจอแบบนี้
ประสิทธิภาพของ hardware มากเกินความจำเป็น ด้วยข้อจำกัดของ OS และ application เอง ทำให้ การใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น (กับราคาที่จ่ายไป)
วันนี้ โทรศัพท์มือถือกลายเป็นเครื่องประดับราคาแพง มากกว่า