ณผ่านไปครบ 1 ปี ก็ถึงเวลาการกลับมาของเรือธงรุ่นที่จัดเต็มของ Huawei ในซีรี่ส์ Mate 10 ที่ปีนี้ก็เปิดตัวมา 3 รุ่น เพิ่มรุ่น Pro และ Porsche Design เหมือนในปีที่ผ่านมา โดยใน 3 รุ่นนี้จะมีรุ่นที่ทาง Huawei เลือกให้เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยก่อนคือ Huawei Mate 10 Pro และ Porsche Design ซึ่งตอนนี้ทีม droidsans ได้รุ่น Pro มาอยู่ในมือพร้อมกล่องและอุปกรณ์ภายใน เลยขอมาแกะกล่องพรีวิวให้ดูความสวยงามและความน่าสนใจของรุ่นนี้กันก่อน

สำหรับกล่อง Mate 10 Pro ที่เราได้นำมาแกะกันในวันนี้เป็นชุดพรีวิวจากทางยุโรป อุปกรณ์บางชิ้นอาจจะหน้าตาไม่เหมือนกับชุดขายจริงในไทย เช่นหม้อแปลงนะครับ แต่คิดว่าของที่มาในกล่องน่้าจะเท่ากัน เพราะเป็นชุดมาตรฐานที่ทาง Huawei จัดมาให้ คือมีเคส สาย Type C, หูฟัง Type C และมีตัวแปลง Type C to Audio หรือหูฟัง 3.5 มาด้วย

สเปค Huawei Mate 10 Pro

  • หน้าจอ OLED 6.0 นิ้ว 2160 x 1080 FHD+ อัตราส่วน 18:9, รองรับ HDR10
  • CPU Kirin 970 + Neural-network Processing Unit
  • GPU Mali-G72 MP12
  • RAM 6GB, ROM 128GB
  • กล้องหลังคู่ 12MP RGB+ 20MP Monochrome รองรับ OIS, AI Object Recognized
  • กล้องหลังเลนส์ SUMMILUX, F/1.6
  • กล้องหน้า 8 MP
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือหลังเครื่อง
  • Bluetooth 4.2, aptX HD, LDAC
  • Wi-Fi 2.4G/5G, 802.11a/b/g/n/ac
  • Dual SIM รองรับ Dual LTE 4G พร้อมกัน 2 SIM
  • USB Type-C, DisplayPort 1.2
  • แบตเตอรี่ 4,000 mAh, รองรับ SuperCharge
  • Android 8.0 + EMUI 8.0
  • กันน้ำกันฝุ่น IP67
  • สัดส่วน 154.2 x 74.5 x 7.9 มม.
  • น้ำหนัก 178 กรัม
  • สี Titanium Gray, Mocha Brown, Midnight Blue, Pink Gold

ชุดหูฟัง USB Type C ที่แถมมาในกล่อง หากมีหูฟังอยู่แล้วก็สามารถใช้ตัวแปลง USB Type C to Audio เพื่อเสียบหูฟัง 3.5 ของเราได้ ส่วนสาย Type C to HDMI นั้นไม่ได้มีแถมมาในกล่องนะครับ

การมาของ Huawei Mate 10 Pro ในปีนี้มีหน้าตาแปลกไปจากรุ่น Mate 9 Pro พอสมควร เพราะมีการปรับดีไซน์ด้านหน้าใหม่ ขอบข้างไม่โค้งเหมือนรุ่นที่แล้ว (แว่บแรกดูคล้าย Mate 9 รุ่นปกติ) แต่ได้หน้าจอเต็มพื้นที่ 18:9 มาแทนโดยเป็นหน้าจอ OLED มีความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ FHD+  ส่วนตัววัสดุและงานประกอบยังดีและพรีเมี่ยมเหมือนเดิม ฝาหลังกระจกนั้นเงาสวยงาม ตัวเครื่องกันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP67 มาพร้อม Android 8.0 Oreo และ EMUI 8.0 เลขเดียวกันเป๊ะ โดยจุดเด่นของ Mate 10 Pro ยังมีชิป Kirin 970 ที่เพิ่มพลังการประมวลผลด้วยระบบ AI ในการประมวลผลตัวเครื่องและเรื่องของภาพถ่าย

กล้องหน้า Huawei Mate 10 Pro มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ไม่มีการระบุว่าเป็นเลนส์ที่พัฒนากับ LEICA หรือไม่ (ก็น่าจะแปลว่าไม่ใช่) ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าระบบ AI ในชิป Kirin จะมาช่วยในเรื่องของภาพถ่าย ทั้งการทำ Portrait และ Bokeh ซึ่งไว้ค่อยไปดูกันที่ตัวอย่างภาพถ่ายอีกที ส่วนของ Ear-piece หรือลำโพงนั้นทำหน้าที่เป็นลำโพงสเตอริโอพ่วงกับลำโพงด้านล่างด้วย

พอร์ทด้านล่างตัวเครื่องเหลือแค่ USB Type C เท่านั้น ทางซ้ายคือช่องไมโครโฟนและทางขวาคือลำโพงหลัก แบตเตอรี่มีความจุ 4000 mAh มาพร้อม Huawei SuperCharge และมีการทดสอบความปลอดภัยจาก TÜV Rheinland

ด้านบนมี IR Blaster หรืออินฟราเรดรีโมทที่เราสามารถนำไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้ ส่วนทางขวาตัวเครื่องนั้นคือช่องถาดซิม

Huawei Mate 10 Pro เปิดตัวพร้อมกับความสามารถในการสแตนบายด์ 4G และใช้งาน VoLTE ได้พร้อมกัน 2 ซิม ในถาดซิมก็จะสามารถใส่ nanoSIM ได้ 2 แผ่นเท่านั้น ไม่มีช่อง Micro SD นะครับ (ตอน Mate 9 Pro ก็ไม่มี) เพราะหน่วยความจำภายใน 128GB ก็น่าจะพอนะ

อีกด้านของตัวเครื่องก็เป็นปุ่ม power + volumne rokr ใช้เปิดปิดเครื่องและปรับเสียง แกนกลางเป็นโลหะขัดเงาประกบหน้าหลังด้วยกระจก

กล้องหลัง Huawei Mate 10 Pro นั้นรอบนี้ไม่ได้มาแค่ความร่วมมือกับ LEICA ในการผลิตเลนส์ SUMMILUX f/1.6 เท่านั้น แต่ระบบ AI จาก NPU ใน Kirin 970 จะมาช่วยในการประมวลผลให้ภาพจากกล้องคู่ 12MP สี + 20MP ขาวดำ ถ่ายภาพได้ดีขึ้น รวมถึงการประมวลผลภาพ Bokeh ที่เนียนและเป็นธรรมชาติเหมือนเกิดจากเลนส์กล้องใหญ่ และยังช่วยในการตรวจจับวัตุในภาพว่าเป็นคน สัตว์ วิว หรืออาหาร เพื่อปรับโหมดกาารถ่ายภาพให้ออกมาได้ดีที่สุด

ภายในกล้องของ Mate 10 Pro นั้นนอกจากเซนเซอร์คู่สี 12 ล้านพิกเซล + เซนเซอร์ขาวดำ 20 ล้านพิกเซลแล้ว ยังมีระบบกันสั่น OIS, Laser focus, Phase Detection Auto Focus และไฟ LED คู่ สีทูโทน

=ตัวอย่างภาพถ่าย Huawei Mate 10 Pro=

 

ลองไปดูภาพทั้งเซ็ตได้จาก >> Gallery Huawei Mate 10 Pro