ทุกครั้งที่มีการเปิดตัวมือถือใหม่จาก Xiaomi ก็มักจะเห็นข้อความ #ตายทั้งตลาด #ตายทั้งแผ่นดิน ตามโซเชียลตลอดเวลา เห็นแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ (คือจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีแบรนด์ไหนตายนะ จะเลิกใช้ได้หรือยัง) แต่การมาของ Pocophone F1 กับราคาเปิดตัว 10,990 บาท นั้นอาจจะทำให้เกิดการตายจริงๆ ขึ้นมาซะแล้ว แต่อาจจะเป็นการฆ่าพี่น้องร่วมสาบานอย่าง Mi 8 นั่นเอง

แกะกล่อง Pocophone F1

เชื่อว่าวันนี้หลายคนที่จองไปน่าจะได้เครื่องกันแล้ว อุปกรณ์ในกล่องของ Pocophone F1 นั้นมีเคสใส สายชาร์จที่เป็น USB C และหม้อแปลงที่รองรับ Quick Charge 3.0 ตัวกล่องเป็นสีดำตัดกับสีเหลืองข้างใน แปลกตาสวยดีครับ

วันก่อนในงานเปิดตัวได้ลองจับสีดำซึ่งตอนนี้หลายๆ คนก็น่าจะรู้กันแล้วว่าตัววัสดุมันเป็นพลาสติกหรือโพลีคาร์บอเนต วันนี้ได้ลองจับเครื่องสีฟ้า.. มันดูพลาสติกกว่าสีดำอีก 😀

แต่เรื่องของวัสดุอาจจะไม่ใช่ประเด็นของใครหลายๆ คน เพราะจุดขายมันคือสเปคกับราคาที่ช่างเย้ายวนซะเหลือเกิน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเลยจะขอรีวิวและเปรียบเทียบกับพี่น้องของมันที่หลายคมถามกันมานั่นก็คือ Mi 8 นั่นเอง เผื่อว่าแฟนๆ ของ Xiaomi กำลังคิดและพิจารณาอยู่ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี

เริ่มกันจากภายนอก ขนาดตัวเครื่องนี่แทบจะพอๆ กัน แต่ Pocophone F1 นั้นหนากว่านิดหน่อย ส่วน Mi 8 นั้นใช้เป็น Gorilla Glass 5 ทั้งส่วนของหน้าจอและฝาหลังเครื่อง ในขณะที่จอของ Poco นั้นเป็น Gorilla Glass 3

ส่วนของหน้าจอนั้น Mi 8 เป็น OLED ก็เลยขาวและสว่างกว่า ที่ความสว่างสูงสุดหากวางเทียบกันนี่จะเห็นได้ชัดว่าจอ IPS LCD ของ Pocophone นั้นเร่งแสงได้ไม่เท่า แต่เรื่องความคมและรายละเอียดของเม็ดพิกเซลบนหน้าจอผมว่าไม่หนีกันเท่าไหร่

ตำแหน่งของปุ่มต่างๆ นั้นไม่ตรงกันเป๊ะแต่ก็ใกล้เคียงกันครับ ด้านขวาเป็นพวกปุ่มพาวเวอร์ เปิด/ปิดเครื่อง และก็ปุ่มปรับเสียง

ด้านบนของ Pocophone F1 นั้นมีช่องหูฟัง 3.5 มม มาให้ด้วย ในขณะที่ Mi 8 นั้นโดนตัดทิ้งไปแล้ว

ด้านล่างเป็นช่อง USB C ไมโครโฟน และลำโพง ซึ่ง Pocophone F1 นั้นเป็นลำโพงคู่สเตอริโอ (คู่กับลำโพงสนทนาบนหน้าจอ) แต่จากที่ลองฟังแล้วเสียงจากลำโพงด้านท้ายเครื่องนั้นดังกว่าบนหน้าจอประมาณ 2-3 เท่าได้ ไฟแจ้งเตือนของ Mi 8 นั้นอยู่ด้านบนตรงติ่ง แต่ไฟแจ้งเตือนของ Pocophone F1 นั้นอยู่ที่ด้านล่างจอ

สเปค Mi 8 และ Pocophone F1

Mi 8Pocophone F1
ระบบปฏิบัติการAndroid 8.1 Oreo
Android 8.1 Oreo
UIMIUI 9.6 (รออัพเกรดเป็น MIUI 10)
MIUI 9.6 (ปรับแต่งโดย POCO)
หน้าจอ6.21 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+
6.18 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด Full HD+
หน่วยประมวลผลSnapdragon 845 AIESnapdragon 845 AIE
หน่วยประมวลผลกราฟิคAdreno 630Adreno 630
RAM6GB / 8GB6GB (ไทยมีเฉพาะ 6GB)
ROM64GB / 128GB / 256GB (UFS 2.1)64GB / 128GB (UFS 2.1)
กล้องหลัง12MP + 12MP ขนาดพิกเซล 1.4 ไมครอน, มี AI, Dual PD, Optical Zoom 2x12MP + 5MP ขนาดพิกเซล 1.4 ไมครอน, มี AI, Dual Pixel PDAF
กล้องหน้า20MP f/2.0 ขนาดพิกเซล 1.8 ไมครอน
20MP f/2.0 ขนาดพิกเซล 0.9 ไมครอน
แบตเตอรี่3400 มิลลิแอมป์4000 มิลลิแอมป์
ระบบสแกนใบหน้าสแกนใบหน้าผ่านระบบอินฟราเรดสแกนใบหน้าผ่านระบบอินฟราเรด
ระบบ GPSDual GPS จับสัญญาณ 2 คลื่นA-GPS, GLONASS, BDS

MIUI กับ Poco Launcher

ระบบปฏิบัติการของทั้ง 2 รุ่นเป็น Android 8.1 บน MIUI 9.6 เหมือนกันครับ และถามกันเข้ามาเยอะว่าฟีเจอร์เฉพาะตัวของ MIUI อย่าง พื้นที่ทับซ้อน (Second Space) และแอปโคลน (App Clone) นั้นยังมีบน Pocophone F1 หรือไม่ ซึ่งจากที่ลองแล้วก็ยังมีครบหมดทุกฟีเจอร์ไม่ได้มีการตัดทอนอะไรออกไป คือเปิดหน้า setting ดูแล้วมีเท่ากัน

ส่วนที่ต่างคือหน้าโฮมที่มีการใช้ POCO Launcher ซึ่งปรับดีไซน์การใช้งานเพิ่ม App Drawer เข้ามา แถมยังมีการแบ่งหมวดหมู่ตามประเภทของแอปให้หาได้ง่ายๆ

แต่ที่เจ๋งกว่านั้นคือการแยกแอปตามหมวดหมู่สีครับ อันนี้ชอบมากเวลาลงแอปเยอะๆ คือเรามักจะจำสีของแอปได้อยู่แล้วเช่น Youtube สีแดง LINE สีเขียว Facebook สีน้ำเงิน เวลาเลื่อนหาแอปที่อยากใช้ก็จะช่วยให้หาได้เร็วขึ้น

ส่วนหน้าจอนั้นก็สามารถ เปิด/ปิด ติ่งได้ เลือกใช้กันตามสะดวก และก็สามารถเลือกเปิดใช้ gesture แทนปุ่มนำทาง navigation bar ด้านล่างได้ด้วย

ซึ่งก็ใช้การลากขึ้นเพื่อกลับหน้าโฮม ลากขอบจอซ้ายขวาเป็นปุ่มย้อนกลับแบบเดียวที่มีให้ใช้บน MIUI นั่นแหละ

 

ประสิทธิภาพตัวเครื่อง

มาพูดถึงความแรงกันบ้าง งานนี้ Mi 8 จะโดน F1 เผาเครื่องหรือเปล่า เรามาลองดูกัน เพราะถ้าใครจำได้ Xiaomi เคยประกาศในงานเปิดตัวว่า Mi 8 สามารถทำคะแนน Antutu ได้ทะลุ 300,000 แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเคยทดสอบได้แรงขนาดนั้น (สงสัยต้องรอ MIUI 1o) ส่วนของ Pocophone F1 ก็ประกาศบนเวทีว่า 290,000 คะแนน แต่ผลทดสอบจริงก็ออกมาตามนี้ครับ

คะแนนกดแล้วออกมาไม่ต่างกันเท่าไหร่ รุ่นพี่อย่าง Mi 8 เฉือนชนะไปแบบนิดๆ เท่านั้นเอง คาดว่าถ้ากดไปหลายๆ รอบก็คงผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ

ส่วนหน่วยความจำนั้นก็ใช้เป็น UFS 2.1 ทั้งคู่ ความเร็วในการเขียนอ่านก็จะประมาณนี้

เซนเซอร์ต่างๆ ในตัวเครื่องมีมาให้ครบ Accelero, Gyro, Magneto รวมถึงพวกตรวจจับการเคลื่อนไหว ยกเครื่องจอติด นับก้าวเดิน ก็ใส่มาเยอะสุดๆ

GPS และการนำทางจากที่ลองเปิดเทียบกับ Mi 8 ก็จับสัญญาณได้เร็วไม่หนีกันเท่าไหร่ (อ้อ! ส่วนใครที่เจอบั้ก GPS ของ Mi 8 ตอนนี้มีการแก้ไขในอัพเดทล่าสุดแล้วนะครับ)

 

การเล่นเกม

ตอนนี้ทดสอบ 2 เกมหลักๆ นั่นก็คือ PUBG และ RoV ซึ่งการเปิดกราฟิคสูงสุดของทั้ง 2 เกมนั้นไม่ใช่ปัญหา อย่าง PUBG เองเปิดเครื่องมาตัวเกมก็เลือกกราฟิคสูงสุดให้อยู่แล้ว ภาพสวย แสงเงามาเต็ม เนียนตา สมกับพลังของชิป Snapdragon 845

ส่วนใน RoV ก็เช่นกัน กราฟิคสุด เฟรมเรทสูงได้หมด ตีบวกก็สบายๆ ภาพลื่นเนียน แม้แพทช์ใหม่ แผนที่ใหม่จะกินสเปคมากกว่าเดิม จนมือถือหลายๆ รุ่นเป๋ไปตามๆ กัน

แต่ยังก่อนครับ เรายังเจอปัญหาในการเล่น RoV นิดหน่อย ซึ่งอาการแรกคือทัชวาร์ป  คือจากที่แปะนิ้วให้ joystick มันอยู่ที่มุมซ้ายล่างแล้วบังคับตัวละครอยู่ดีๆ ในบางจังหวะ joystick มันย้ายตำแหน่งไปจุดที่เราแตะอยู่ล่าสุดแทน ใครใช้ Mi 8 ก็น่าจะเจออาการคล้ายๆ กัน อาการนี้มีบ้าง แต่ไม่บ่อยมากนัก เกมนึงเจอ 1-2 ครั้ง (แต่ถ้าเจอตอนกำลังบวกๆ นี่ หัวร้อนแน่นอน) แต่กับ PUBG ไม่มีอาการนี้ อาจจะเป็นเพราะมีการล็อคตำแหน่งของ Joystick เอาไว้

อาการที่ 2 คือเฟรมเรตแกว่ง ซึ่งยังหาสาเหตุไม่เจอ คือตอนเล่น RoV บางเกมก็นิ่งๆ ยาวๆ 60-61 ไม่เคยตกเกิน 50 ครับ แต่บางเกมแค่เริ่มเข้ามาก็ 40 แล้ว เดินคนเดียวก็หล่นไป 50 อาการนี้เป็นๆ หายๆ รีสตาร์ทเครื่องใหม่ก็จะกลับมาปกติ น่าจะเป็นปัญหาที่ระบบหรือ ROM ของเครื่องครับ (คุ้นๆ ว่าตอน Mi 8 แรกๆ ก็เจออาการแบบนี้เหมือนกัน)

 

กล้องถ่ายภาพ

กล้องเป็นอีกส่วนนึงที่หลายๆ คนถามถึงมาใน กลุ่ม droidsans บน facebook ซึ่งก็เป็นจุดนึงที่ Pocophone F1 นั้นแตกต่างจาก Mi 8 เรื่องนึงที่เจอคือระบบ AI นั้นเหมือนจะยังฉลาดไม่เท่ากัน ทั้งในการมองวัตถุและแบ่งแยกประเภทของภาพ

อย่างเฟมนี้ Mi 8 ระบุได้ใน 1-2 วินาทีว่ามันคือการถ่ายภาพตึกหรืออาคาร

ส่วน Pocophone F1 ระบบ AI มองไม่ออกว่ามันคืออะไร ค้างเอาไว้นานแล้วก็ไม่เปลี่ยนระบบ หมุนไปหมุนมาก็ไม่เห็น

พอลองเปลี่ยนมุมส่องนิดหน่อย ก็ไปจับภาพท้องฟ้าที่เป็นโหมดแมฆแทน

ตัวอย่างภาพจากกล้องหลังของ Pocophone F1

ในส่วนของโหมดละลายหลังหรือ Portrair นั้น ดูแล้วมีความใกล้เคียง Redmi Note 5 คือยังตัดไม่ค่อยขาดเท่าไหร่ แต่นั่นเป็นการทดสอบกับแก้วชาเขียว แต่หลังจากลองเอาไปถ่ายภาพบุคคลมา ดูแล้วทำได้ดีขึ้นเยอะ แต่ลักษณะของการเบลอฉากหลังก็จะเยอะไปหน่อย บางภาพสวยกำลังดี บางภาพดูหลอกไปนิด

คราวนี้มาลองเทียบภาพมุมเดียวกันกับของ Mi 8 ดูบ้างนะครับ จะได้เห็นว่ามีความแตกต่างกันพอสมควรเลยทีเดียว

Pocophone F1 Mi 8
Pocophone F1 Mi 8

สำหรับการถ่ายภาพในโหมด Pro หรือ Manual นั้นไม่สามารถเปิดการถ่ายภาพ RAW หรือ DNG ได้นะครับ จะต้องใช้แอปอื่นแทน อย่างที่ผมลองนี่ใช้ Adobe Lightroom ก็สามารถถ่าย DNG ได้ แปลว่าตัวเครื่องนั้นรองรับ

มาถึงกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซลกันบ้าง มีให้ดูทั้งภาพปกติ และโหมด Portrait กันเลย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า Pocophone F1

กล้องหน้าของ Pocophone F1 ผมว่ามันใช้ได้เลย แถมยังเปิด HDR ดึงสีของฉากหลังได้ด้วย โหมด Portrait เบลอหลังก็ตัดขอบได้ค่อนข้างดี ระดับบิวตี้ที่ผมเปิดเอาไว้นี่คือเบอร์ 3 ครับ หน้าเนียนพอได้เลย

ส่วนเรื่องกานถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด Full HD 1080p ระบบ EIS กันสั่นทำออกมาได้เนียนดีครับ ตอนถ่ายอาจจะเห็นภาพสั่นหน่อยๆ แต่ในคลิปนี่นิ่งจริงจัง

แต่ถ้าเลือกเปิดเป็นถ่ายแบบ 4K ระบบกันสั่นจะหายไปแล้ว ภาพก็จะเด้งๆ หน่อย

Play video

[อัพเดท 31 สิงหา] ตอบคำถามที่หลายๆ คนสงสัย

Q : ตัวเครื่องรองรับ CAหรือไม่?

A : รองรับ 3CA ครับ แต่ต้องรออัพเดทก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ ส่วนเรื่องคลื่นที่สามารถเอามารวมได้ต้องรอข้อมูลเพิ่มเติม

Q : เสียงเป็นอย่างไร เห็นว่ามีชิปเสียง?

A : ชิปเสียงไม่เห็นมีข้อมูลนะครับ แต่มีระบบเสียง Dirac HD (เป็นการปรับจูนเสียงด้วย software) กับ Smart PA (อันนี้เป็นแอมป์) คือถ้ามีก็อาจจะเป็นตัวถอดรหัสเสียงของ Qualcomm Aqstic ส่วนเสียงลองฟังจากช่องหูฟัง 3.5 มม แล้วเสียงโดยรวมถือว่าโอเคครับ เสียงสูงก็มา ใส แต่ปลายไม่สุดเท่าไหร่ เสียงกลางชัด แต่เด่นสุดคือเสียงเบส ใครฟังเพลงแนวมันๆ น่าจะสนุก

Q : มีอะไรแตกต่างจาก MIUI ของ Xiaomi หรือไม่?

A : ที่เห็นตอนนี้ต่างกันแค่ Poco Laucnher เท่านั้น อย่างอื่นไม่แตกต่างเลย มีฟีเจอร์เท่าๆ กันหมด โคลนแอปได้ แบ่ง 2 หน้าจอได้ เมนูการตั้งค่าต่างๆ เหมือนกันแทบจะ 100% มีกระทั่ง Mi Account ให้ log in

Q : อัดเสียงสนทนาระหว่างโทรได้ไหม?

A : อัดได้เหมือน MIUI เลือกอัดแบบอัตโนมัติได้เหมือนกัน

Q : กล้องหน้าตัวเดียวกับ Mi 8 ถ่ายออกมาเป็นอย่างไร?

A : จากที่ลองถ่ายมาภาพสวยใช้ได้ครับ แต่เหมือนโทนสี และการเกลี่ยผิวบิวตี้จะไม่เหมือนกัน

Q : มีไฟแจ้งเตือนไหม?

A : ไฟแจ้งเตือนอยู่ด้านล่างจอครับ ติดขอบล่างเลย จะเห็นได้ชัดตอนเสียบชาร์จแบต

Q : กล้องถ่ายภาพมีกันสั่นหรือเปล่า?

A : จากที่ลองเหมือนจะไม่มี OIS นะครับ ลองถ่ายภาพ Indoor แสงน้อยๆ นี่สั่นง่ายมาก

Q : กล้องถ่ายวิดีโอมีกันสั่นหรือเปล่า

A : มี EIS ครับ ทำงานที่ Full HD 1080p ภาพนิ่งมาก ตอนถ่ายจะไม่เห็น แต่พอมากดเล่นแล้วเนียนเลย