เร็วสมคำร่ำลือและกระแสข่าวที่ได้ยินมา สำหรับมือถือรุ่นเรือธงครบรอบ 8 ปี ของ Xiaomi อย่าง Mi 8 ที่มีข่าวว่าจะพร้อมวางขายในหลายๆ ประเทศพร้อมกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีประเทศไทยด้วย แต่เครื่องที่มาแกะกล่องพรีวิวในวันนี้ไม่ใช่เครื่องไทยนะครับ เป็นเครื่องจีน ROM จีนทั้งดุ้นเลย

หน้าตากล่องและอุปกรณ์ภายในนั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษ ที่ดูเป็นการเฉลิมฉลอง 8 ปี สักเท่าไหร่ (สงสัยต้อง Explorer Edition) เรียกว่า MI MIX 2s ยังดูหรูและพรีเมี่ยมกว่ามาก ส่วนนึงก็อาจจะเป็นเพราะว่า Mi 8 นั้นไม่ได้เปิดตัวมาเป็นรุ่นพิเศษอะไรขนาดนั้น แต่ยังคงเป็นมือถือเรือธงที่ราคาคุ้มค่าเหมือนรุ่นก่อนๆ ที่ผ่านมา

ใบปะหน้าของ Mi 8 นั้นมีการชูจุดเด่นของฟีเจอร์อย่างกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล + ระบบ AI , ชิป Snapdragon 845 AIE และ GPS คู่ที่มาเสริมความแม่นยำในการนำทางและระบุตำแหน่ง ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องของระบบสแกนใบหน้า 3D ที่อุตส่าห์ใส่มาบนติ่งอันเบ้อเร่อแต่อย่างใด

ถ้าเป็นเครื่องใหม่กริ๊บๆ นอกจากใบปะหน้าแล้ว ที่ด้านหลังก็จะมีสติ๊กเกอร์แปะกล้องคู่และส่วนของ IMEI ติดมาด้วย

อุปกรณ์ในกล่องที่แถมมานั้นเหมือนกับของ MIX 2s เลยครับ คือมีสาย USB Type C

หม้อแปลง Quick Charge ตัวเครื่อง Mi 8 นั้นรองรับการชาร์จเร็วแบบ Quick Charge 4.0+

ตัวแปลง USB Type C เป็นช่องหูฟัง 3.5 มม. และเข็มจิ้มถาดซิม

นอกจากนั้นก็ยังมีเคสซิชิโคนใสมาให้ในกล่อง หนานิดๆ แต่ตอนที่ลองใส่เหมือนจะไม่ได้แน่นมาก อารมณ์ใส่ง่าย แกะสบาย แต่ก็ไม่ลื่นหลุดออกมา

ส่วนของ notch หรือรอยบากด้าบนนั้นมีการฝังอุปกรณ์ต่างๆ เอาไว้ 5 อย่างด้วยกัน จากซ้ายไปขวาคือกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์วัดระยะ, ลำโพงสนทนา, ตัวปล่อยแสงอินฟราเรด และเลนส์ตรวจจับอินฟราเรด ซึ่งคู่หลังนั้นเอาไว่สำหรับการสแกนใบหน้า

ด้านขวาเป็นปุ่มพาวเวอร์ และปุ่มปรับเสียงปกติ ไม่มีอะไรพิเศษ ขอบด้านข้างหรือตัวเฟรมเป็นโลหะ

ด้านล่างเป็นไมโครโฟนสำหรับสนทนา ช่อง USB Type C และลำโพงตัวเครื่องเรียงไปตามลำดับ

ส่วนด้านซ้ายบนคือตำแหน่งของถาดซิม แน่นอนว่า Mi 8 นั้นรองรับเป็น nano SIM ทั้ง 2 ช่อง

จิ้มออกมาให้ดูกันชัดๆ ว่าเพิ่มเมมไม่ได้นะครับ เพราะฉะนั้นเลือกรุ่นความจุให้เหมาะตั้งแต่ตอนแรก

ด้านหลังพอแกะสติ๊กเกอร์ต่างๆ ออกหมดก็เงางามสวยไม่หยอกเลยจริงๆ

ส่วนที่เป็นกล้องคู่ 12+12 ล้านพิกเซลด้านหลังนั้นตัวนึงเป็นกล้อง tele ซูม 2x ที่รำคาญมากๆ คือพอกล้องมันนูนแล้วฝุ่นมันชอบไปติดรอบๆ เช็ดยากสุดๆ นี่พยายามเช็ดแล้วเช็ดอีก จนเลิกพยายาม เลยถ่ายมาได้แบบนี้

เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังก็ยังมีให้ สำหรับคนที่อาจจะไม่ต้องการใช้ระบบสแกนใบหน้า และก็เพื่อความปลอดภัย ซึ่งถ้าสังเกตุจากที่ผ่านๆ มาระบบสแกนใบหน้านั้นโดนท้าทายและแฮคกันบ่อยมากๆ

ต้องยอมรับตามตรงว่าผมนั้นตื่นเต้นมากๆ ตอนที่ Mi 8 เปิดตัวนะครับ แต่พอได้มาแกะกล่องแล้วกลับพบว่ามือถือรุ่นนี้มันดูไม่ค่อยมีสเน่ห์เท่าที่ควร เรื่องดีไซน์ก็อาจจะเป็นส่วนนึง คือผมรู้สึกตื่นเต้นตอนที่ได้หยิบ MIX 2s ออกมาจากกล่องมากกว่า รวมถึงตอน Mi 7 Mi 6 มันก็ยังรู้สึกตื่นเต้นกว่านี้

จากที่ลองดูข้อมูลในตัวเครื่องพบว่ายังมาพร้อมกับ MIUI 9.5 น่าจะต้องรออัพเดทเป็นเวอร์ชั่น 10 แล้วอาจจะได้เห็นความสามารถของ Mi 8 เพิ่มขึ้นอีก แต่ในเบื้องต้นของการใช้งานยังไม่รู้สึกต่างจาก MIX 2s (เว้นแต่ไม่ต้องกลับหัวกล้องเพื่อเซลฟี่)

ฟีเจอร์ใหม่ก็ต้องขอลองนิดนึง ระบบสแกนใบหน้าด้วยแสงอินฟราเรดนั้นรวดเร็วสุดๆ ใช้เวลาไม่ถึง 2 วินาทีในการจดจำใบหน้าครับ และการปลดล็อคนั้นก็ยกขึ้นมาติดเลยเช่นกัน

โดยเท่าที่สังเกตุคือมันจะฉายอินฟราเรดเห็นเป็นสีแดงๆ ออกมาเพื่อทำการสแกน และผมลองหลับตามันก็จะไม่ปลดล็อคให้ ต้องลืมตาเท่านั้น แถมองศาในการสแกนนั้นค่อนข้างกว้างมาก ไม่ต้องเล็งเป๊ะๆ มันก็ปลดล็อดได้

โหมดกล้องหลัง Portrait ที่มีฟีเจอร์ปรับแสงโบเกต์เป็นเอฟเฟคต่างๆ ได้นั้นอันนี้เจ๋งดีครับ ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้ใน MIX 2S มีให้เล่นหรือยังเพราะจริงๆ แล้วเป็นฟีเจอร์ที่เปิดตัวมากับรุ่นนั้น แต่ตอนทดสอบเครื่องเหมือนฟีเจอร์นี้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ใน  Mi 8 นี่มีแล้ว เล่นได้แล้ว

โดยหลังจากถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอเรียบร้อยก็สามารถจะเอาไปแต่งเป็นเอฟเฟคแสงไฟแบบต่างๆ ได้ โดยสามารถเซฟเป็นภาพนิ่งหรือวิดีโอก็ได้

เรื่อง Dual GPS นี่ผมยังไม่แน่ใจว่าการทดสอบด้วยแอปมันเดิมๆ ของ Android มันจะเห็นผลเลยหรือไม่ แต่จากที่ลองก็พบว่าสัญญาณที่จับได้ของ GPS นั้นแรงขึ้น คือเป็นสีเขียวและค่อนข้างสูง (แต่ผมอาจจะมโนไปเองก็ได้ เอาไว้หาเครื่องมาลองทดสอบพร้อมๆ กันอีกที)

ส่วนกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซลที่มีขนาดพิกเซลใหญขึ้นนั้น ผมว่าภาพได้รายละเอียดเยอะและคมชัดขึ้น แต่ก็ยังไม่มีตัวช่วยในเรื่องของการถ่ายย้อนแสงอยู่ดี เรียกว่าต้องหามุมที่แสงเข้าเอง อัพเดท น่าจะเป็นบั๊กที่ตัว software กล้อง หรือไม่ก็หน้าผมอาจจะไม่ค่อยเหมือนคน (ฮ่าๆ) มันเลยมองไม่เห็น ล่าสุดที่ลองคือถ้ามันจับหน้าได้ ก็จะปรับ exposure เร่งแสงให้หน้าคนสว่างขึ้นได้ครับ

กล้องหลังคู่เป็นเลนส์ wide + tele ซูม 2 เท่า เพราะฉะนั้นภาพก็จะคมทั้ง 2 ระยะครับ

ลองใช้เลนส์ซูม 2x ในการถ่าย รายละเอียดก็ยังได้อยู่

 วันนี้ฟ้าจะครึ้มๆ ทั้งวัน สีมันก็เลยจะตุ่นๆ หน่อย ได้ AI มาพอช่วยเรื่องของสีสันได้ในหลายๆ ภาพ

ภาพกลางคืนแบบยกขึ้นมาถ่ายหรือ point & shoot นั้นก็พอได้ แต่ส่วนตัวยังไม่รู้สึกว่ามันแตกต่างจาก MIX 2s มากเท่าไหร่ อาจจะต้องไปทดสอบให้มากกว่านี้ แต่ที่แน่ๆ กล้องหน้าของ Mi 8 นั้นชนะแน่นอน

สำหรับพรีวิว Mi 8 ก็อาจจะขอตัดจบเอาประมาณนี้ก่อนละกันนะครับ เพราะนี่ก็ลองฟีเจอร์ใหม่ๆ ไปเยอะเลย ส่วนอื่นๆ ที่ติดค้างเอาไว้ยังไงก็ขอยกเอาไปใส่ในรีวิวแล้วกัน ไม่งั้นจะไม่เหลืออะไรให้เขียนอีก แหะๆ ถ้ามีคำถามอะไรมาทิ้งไว้ได้นะครับ จะทะยอยตอบให้