สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้จะขอมาแกะกล่องพร้อมกับพรีวิว Xperia Z5 Premium รุ่น Dual Sim ซึ่งถือว่าตอนนี้ คงจะเป็นมือถือ Dual Sim ที่มีจอชัดที่สุดแล้วในตอนนี้ แต่คำโปรยด้านบนมันไม่ได้จบแค่นั้น เพราะมันยังมีแต่.. ตามมา แล้วแต่นั้นจะเป็นอะไรเดี๋ยวลองมาตามอ่านไปพร้อมกันครับ
สเปค Xperia Z5 Premium
- หน้าจอ 5.5 นิ้ว (จริงๆ แล้ว 5.46) ความละเอียด 4K 2160 x 3840 พิกเซล เป็นมือถือจอ 4K ตัวแรกของโลก
- CPU Snapdragon 810 64-bit octa-core
- GPU Adreno 430
- RAM 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB (เหลือให้ใช้ราว 27GB), รองรับ microSD สูงสุด 200GB
- กล้องหลังความละเอียด 23 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ขนาด 1/2.3 นิ้ว เลนส์มุมกว้าง 24 มิลลิเมตร มาพร้อมเทคโนโลยี Hybrid Auto Focus ช่วยให้โฟกัสภาพได้ในเวลา 0.03 วินาที รองรับ ISO สูงสุด 12800 สำหรับภาพนิ่ง และ 3200 สำหรับวิดีโอ และระบบกันสั่น SteadyShot ปรับปรุงใหม่
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้างขนาด 25 มิลลิเมตร รองรับการกันสั่นด้วย SteadyShot
- แบตเตอรี่ขนาด 3,430 mAh
- ขนาดเครื่อง 154.4 x 76.0 x 7.8 มิลลิเมตร หนัก 180 กรัม
- กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP65 และ IP68
- มีทั้งหมด 3 สี คือ โครม, ดำ, ทอง
- Android 5.1
- ฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Qualcomm QuickCharge 2.0, Dual Nano Sims
สำหรับตัว Dual Sim นี้ เท่าที่ทราบจะไม่วางขายในไทยนะครับ เครื่องที่นำมาแกะกล่องนี้ได้มาจากฮ่องกง ส่วน Xperia Z5 Premium เครื่องศูนย์ไทยที่ขายกันในราคา 27,990 บาท จะเป็นแบบ Sim เดียวเท่านั้น
เริ่มเปิดกล่อง
ขนาดกล่องใหญ่กว่ายี่ห้ออื่นๆตามประสา Sony ด้านหน้ากล่องจะโชว์เรื่อง 4K ไว้ชัดเจน รวมถึงเรื่อง 2 Sims ด้วย
ด้านหลังเป็นสเปคคร่าวๆ (รุ่นก่อนหน้านี้มักจะโชว์ความสามารถต่างๆเป็น icon ใหญ่บะเริ่มเอาไว้ มารุ่นนี้ เหลือเป็นขนาดเล็กๆแบบพอเพียง)
เปิดกล่องออกมา จะเจอเครื่องที่นอนแบมาในถาดเลย มีสติ๊กเกอร์ขุ่นปะหน้าหลังมาให้ (ในรูปเอาออกไปเรียบร้อยแล้ว) และเมื่อเอาถาดออกก็จะพบกับกล่องสามกล่องเรียงกัน (รุ่นเก่าๆ เปิดมาก็จะเป็นถาดที่วางอุปกรณ์เสริมเรียงๆไว้เลย) ดูเหมือนแถมมาให้แบบอัดแน่น สมเป็น Premium แต่จริงๆก็แถมไม่ต่างจากรุ่นอื่นๆ คือมีให้แค่ USB, หัวชาร์จ, และหูฟังเท่านั้น
หูฟังที่แถมเป็น Stereo Headset MH750
แถม Adapter แบบ QuickCharge 2.0 มาให้เลย ดีกว่ารุ่น Z5 ในบ้านเราที่แถม adaptor ปกติมา ส่วนใครที่ซื้อ Z5 Premium เครื่องศูนย์มาแล้วฝากมาบอกด้วยนะครับว่าได้ QuickCharge หรือเปล่า
ตัวเครื่องด้านหน้า ถ้าดูแบบไม่มีอะไรมาเทียบขนาด ก็ดูเหมือน Z5 ธรรมดาครับ เพราะดีไซน์เหมือนกัน และขนาดไม่ต่างกันมากเท่าไหร่
ด้านหลังอันเงาวับสะท้อนเงางามดั่งกระจก.. แต่ในภาพอาจจะเงาแล้วเนื่องจากติดกันรอยแบบด้านมา ผลก็ออกมาแบบที่เห็นครับ ตัวเครื่องจริงเป็นสีเงินแวววับอร่ามตา ซึ่งตรงนี้จะต่างกับ Z5 ธรรมดา ที่จะเป็นกระจกแบบด้าน งั้นเดี่ยวมาดูฝาหลังเปลือยๆ ว่ามันเงาแค่ไหนกันดีกว่า
คือเงานจนสะท้อนเป็นกระจกดังอย่างที่บอกเลยครับ แล้วเงาแบบนี้เรื่องคราบรอยนิ้วมือนั้นแน่นอนครับ.. มาเต็มสุดๆ
ไม่ใช่แค่ฝาหลัง เพราะขอบข้างเองก็เงาวับ
ปุ่ม Volume ถูกร่นลงมาจนแทบจะติดปุ่ม Shutter กล้องอยู่แล้ว ส่วนปุ่ม Power ก็ใช้เป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว
พอเอามาเทียบขนาดกับ Xperia Z3+ ด้านหน้า ก็เห็นความแตกต่างของขนาดได้ชัดขึ้น
หมุนมาด้านหลังบ้าง
เล่าเรื่องการใช้งานทั่วไป
1) ว่าด้วยจอ 4K
หลายคนอาจจะสงสัยว่าจอ 4K บน Xperia Z5 Premium จะชัดขนาดไหน… ขอบอกว่าจริงๆ แล้วไม่ต่างจาก Xperia Z2, Z3, Z3+, Z5 เลยครับ
เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากครับ เพื่อการประหยัดแบต Sony ได้ทำให้จอแสดงผลในการใช้งานทั่วไปมีความละเอียดที่ Full-HD เท่านั้น คือ 1080*1920 ทำให้มันดูแทบไม่ต่างจากรุ่นก่อนๆ เท่าไรนัก (ถ้าใครเคยได้ลองใช้ Xperia Z Ultra ซึ่งตัวนั้นจอ 6.4 นิ้ว ก็จะเห็นได้ว่าถึงจะละเอียด Full-HD เท่าพวกรุ่นที่จอ 5.2 นิ้ว แต่ก็เนียนตาดี ไม่มีเม็ด Pixel ให้เห็น)
App CPU-Z เห็นว่าจอละเอียดแค่ Full-HD
สำหรับการแสดงผลแบบ 4K จะถูกเอาไปใช้กับการเล่นไฟล์วิดีโอ หรือการเปิดดูรูปภาพเท่านั้นครับ โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าจอ 2K ของ LG G3, G4 เป็นอะไรที่เห็นได้ชัดว่ามันคมกว่าจอ Full-HD จริงๆ (ถึงบางทีจะต้องเพ่งซักหน่อย) ในขณะที่ Z5 Premium ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรส่วนนี้ในหน้า UI เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน
2) การเล่น Video 4K เป็นอย่างไรบ้าง
ส่วนตัวผมบอกตรงๆ ครับ ว่าแยกแทบไม่ออก (เปิดเทียบกับ Z3+ โดยใช้ Video เดียวกัน แต่ความละเอียดต่างกัน) จริงๆแล้ว สำหรับเรื่องนี้ จะพอแยกได้เป็นสองกรณี
- Video ประเภท Music Video ที่มีการเคลื่อนไหวเยอะๆ แยกเกือบไม่ออกเลย ว่า 4K กับ Full-HD ต่างกันอย่างไร ถึงขนาดว่าลองดูที่ระยะจอห่างจากตาประมาณ 10 ซม. ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในความต่างเท่าไหร่
- Video ประเภทที่เอาไว้เปิดโฆษณาทีวี 4K ซึ่งพวกนี้จะเน้นเป็นภาพนิ่งๆ วิวจะไม่ค่อยขยับ แต่อาจจะมีองค์ประกอบอื่นๆขยับ เช่นวิวเมืองจากมุมสูง มีรถขยับ อันนี้สามารถแยกได้ง่ายขึ้นหน่อย ถ้าดูใกล้ๆ แต่ถ้าดูในระยะประมาณ 30-40 ซม. ผมว่าก็แยกไม่ค่อยออกเท่าไหร่
ทั้งนี้ ในเครื่องไม่มี Video ที่เป็นขนาด 4K ที่จะโชว์ประสิทธิภาพจอแถมมาในเครื่องให้เลย ต้องไปโหลดมาเอง และตอนนี้ ยังเปิด Youtube 4K ไม่ได้ (คงต้องรอ Youtube App Update ให้รองรับก่อน)
การเล่น Video 4K แบบ 60FPS (Video ปกติ 1วินาทีจะมี 20-30 เฟรม แต่ 60FPS คือมี 60เฟรม ดูแล้วการเคลื่อนไหวเนียนมาก) นั้นเล่นได้ แต่กระตุกจนทนดูไม่ไหว ต้องดู 4K แบบธรรมดา สรุปคือกลับไปดู Video 1080P แบบ 60FPS ดีกว่า สบายตากว่า
3) การใช้งาน 2 Sims
การใช้งานสองซิมตัวนี้จะเหมือนกับ Xperia 2 Sims รุ่นอื่นๆ คือเลือก Default Sim ที่จะโทรออกของแต่ละเบอร์ไม่ได้ ต้องเลือกทุกครั้งว่าจะเอาเบอร์ไหนโทร บางครั้งกดที่ชื่อแล้วไม่มีซิมขึ้นมาให้เลือกโทร ต้องกดย้ำลงไปอีกที ซึ่งส่วนนี้ก็เป็น bug ติดตัวมาหลายรุ่นแล้วเหมือนกัน
ในจุดนี้ผมชอบวิธีการสลับซิมของ LG มากกว่า คือมีปุ่มแยกโดยเฉพาะเลย ว่าตอนนี้อยากให้ทุกครั้งโทรออกด้วยซิมไหน ถ้าต้องการเปลี่ยน กดปุ่มเดียวก็เปลี่ยนแล้ว สะดวกมากๆ
กล้องของ Xperia Z5
ตรงนี้คงจะไม่อธิบายอะไรมาก เพราะว่ามีหลายๆ ที่ ได้รีวิวกล้องของ Z5 หรือ Z5 Compact ไปแล้ว (กล้องของ Z5 ทั้ง Series เป็นตัวเดียวกัน)
หลักๆคือ ถ่ายรูปได้สวยขึ้นทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ภาพสดขึ้น คมขึ้น ไม่แย่เหมือนที่ขึ้นชื่อใน Z-Z3 แล้ว ทั้งนี้ ส่วนตัวแล้วผมชอบการปรับโทนสีของภาพแบบอัตโนมัติของ Z3+ มากกว่า Z5 Premium แต่เรื่องความคมยังต้องยกให้ Z5 Premium ชนะไป
สรุปข้อดีของรุ่นนี้
1. เป็น Xperia ตัว Top รุ่นแรกที่มาพร้อมจอ 5.5 นิ้ว
– หลังจากใครที่รอมานานว่าเมื่อไหร่ Xperia ตัว Top จะจอใหญ่ขึ้นซักที งวดนี้ Sony ก็ส่งมาให้แล้ว (ขอไม่นับ Z Ultra เนื่องจากกล้องที่เหมือนไม่ตั้งใจใส่มา รวมถึงออกมาทีเดียวแล้วก็หายไปยาวๆ)
2. หลังจาก Sony สร้างชื่อ (เสีย) ไว้มาก กับ Z3+ ที่ร้อนอย่างจริงจัง ตอนนี้แก้ตัวได้แล้ว
– Z5 Premium ร้อนน้อยกว่า Z3+ มาก และในช่วงที่เครื่องทำงานหนัก ก็จะไม่มีอาการร้อนจี๋เหมือนที่ Z3+เป็น (แต่ Firmware ล่าสุดของ Z3+ก็แก้ปัญหานี้ไปได้มากแล้ว)
3. แบตดีขึ้นพอสมควร
– ในส่วนนี้ หลังจากลองเล่นแบบต่อเนื่องก็พบว่า ถ้าไม่ได้เปิด Video 4K แต่เล่นอย่างอื่นที่ต้องเปิดจอตลอด แบตค่อนข้างทนทานดีมาก และดีขึ้นแบบชัดๆเมื่อเทียบกับ Z3+ คิดว่าน่าจะใกล้ๆกับ Z3 Dual
4. มี Quick Charge 2.0 ชาร์จได้เร็วมาก
5. เมมในเครื่องให้มาเยอะ (32GB) เพิ่มเมมภายนอกได้อีก ทำให้พื้นที่เก็บ Video หรือเพลง ไม่ต้องไปเบียดเบียนกับที่เก็บ App
6. ตัวอ่านลายนิ้วมือแม่นดีมาก
– ผมเองก็ใช้โทรศัพท์ด้วยมือซ้ายเป็นหลัก การที่ใช้นิ้วกลางไปปลดล็อคเครื่อง(ด้วยมุมที่ถือปกติ) ทำได้สะดวกและแม่นมาก (แนะนำว่าการตั้งค่าลายนิ้วมือครั้งแรก ให้วางนิ้วไปหลายๆมุมด้วย)
7. เสียงสนทนารื่นหูดีมาก
– ตั้งแต่ใช้ Xperia Z, Z Ultra, Z2, Z3, Z3+ มา ขอบอกเลยว่า Z5 Premium คุยโทรศัพท์ได้สบายหูที่สุดเลยครับ โทนเสียงกำลังดีไม่บาดหู
8. แถบสไลด์รับสายสั้นลง
– ตรงนี้เป็นข้อดีที่มาแบบแอบๆ ผมเองเจอปัญหากับ Z3+ อยู่หลายครั้ง เนื่องจากเวลาสายเข้าแล้วต้องสไลด์เพื่อรับสาย รูดไปไม่สุดแล้วรับสายไม่ได้ แต่ Z5 Premium ทำแถบให้สั้นลง รับสายได้ง่ายขึ้นอีก(ไม่)นิด
สรุปข้อเสียบ้าง
1. หนักไปหน่อย
2. จอสว่างน้อยลงเมื่อเทียบกับ Z3+ แต่ก็ไม่ได้น้อยลงจนน่าเกลียดแต่อย่างใด
3. เวลาดูภาพที่มีขนาด 4K ที่แถมมาในเครื่อง เครื่องจะใช้เวลาประมาณ 4 วินาทีต่อภาพ ในการทำให้ตัวเองรู้ว่าต้องแปลงจอให้เป็นความละเอียดสูง (ขนาดรูปภาพประมาณ 8 MB) แต่กับรูปภาพทั่วๆไป จะไม่ได้ใช้เวลานานขนาดนี้ (รูปทั่วๆไปขนาดประมาณ 3MB บางรูปก็ไม่ต้องรอ)
4. ปุ่ม Volume ลงไปอยู่ล่างเกินไป กดยาก โดยเฉพาะเวลาคุยโทรศัพท์อยู่
5. ลำโพงแย่กว่าที่คาดไว้
– ตั้งแต่ Sony ออก Xperia Z มา ลำโพงแต่ละรุ่นดีขึ้นเรื่อย จนมาดีที่สุดที่ Z3 ซึ่งเสียงดังมาก และค่อนข้างมีมิติ หลังจากนั้น Z3+ กลับไปแย่กว่า Z2 ส่วน Z5 Premium นั้นอยู่ในอาการหนักกว่า Z3+ อีก เสียงทั้งพร่าและแบน (แต่ความดังพอได้อยู่)
6. ราคาค่อนข้างสูง (เทียบกับ Samsung Note5 และ S6Edge+)
สรุปสั้นๆ ส่งท้าย
Xperia Z5 Premium เป็น Xperia Z Series ที่รวมๆ แล้วดีขึ้น จอใหญ่ขึ้น แบตกลับมาอึดเหมือนที่ควรจะเป็นแล้ว มีสแกนลายนิ้วมือตามสมัยนิยม แฟนเดนตาย Xperia คงจะต้องหามาใช้จนได้ จะมีข้อเสียหลักๆ เรื่องลำโพงเท่านั้น (ส่วนเรื่อง 4K ไม่เชิงเป็นข้อเสีย เพราะจอ Full-HD ก็ไม่ได้แย่ จะมีก็แต่ผิดความคาดหวังที่คิดว่ามันจะทำให้ร้อง “ว้าว” ได้ก็เท่านั้น)
งวดนี้ขอจบการ Preview เท่านี้ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ
(ปล. งวดนี้ผมคงไม่ทำ Review เพราะเห็นว่าเนื้องหาในส่วนรายละเอียดคงจะไม่ต่างจากที่เคยทำของ Z3+ ไว้มากนักครับ)
*ภาพและเนื้อหาในบทความนี้เป็นของท่าน @romeokk ทีมงาน droidsans มีการหาภาพมาเพิ่มเติมให้ (สังเกตุภาพที่มีโลโก้) และเพิ่มเติมข้อความบางส่วนเพื่อที่จะอ่านได้ง่ายขึ้น โดยไม่ทำให้เนื้อหาจริงของผู้เขียนเสียไปครับ
จอ 4k แบบนี้เรียกว่ามีไว้โชว์อย่างเดียว 555
สำหรับผมมือถือจอแค่นี้ขอแค่จอ 2k พอละ
ช่างงามมากๆๆเลย แต่ซื้อจริงก็ซื้อ Z5 อยู่ดี ครับ 55
พักหลังมานี้ sony ได้ใจตรงอัพเวอร์ชั่นก็เร็ว อัพเดทก็ไว
อัพยกแผงด้วยครับ เอาใจสาวกไปเลย 🙂
ถ้าซื้อมาเพื่อเน้นเอามาทำ VR กับ Google Card Board จะคุ้มไหมครับเนี่ย
สนใจเรื่องจอ 4K กะ Card Board เหมือนกัน …. จอ 1080p นี่เห็นเป็นเม็ดๆ เลย 555+
ผมก็สนใจเหมือนกัน ไม่รู้ Sony ให้ปรับความละเอียดแอพ Google Cardboard ที่ระดับ 4K ได้ไหม
ผมใช้จอ 720p ดูหนัง 3D ด้วย Google Cardboard ไม่ได้เรื่องเลย เพราะจอความละเอียดต่ำเกินไป เห็นเม็ด pixel ชัดเจน ยังนึกว่าจอ 1080p น่าจะเพียงพอ แต่เห็นบอกว่า 1080p ก็ยังเห็น pixel ชัด แบบนี้คงต้องเล่นจอ 4K ซะแล้ว … 555
4k ปลอมชัดๆครับ
พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกครับ แต่ก็ไม่ผิด มันเป็นแค่บ้าง โหมด เพราะ ทั่งตัวแบตเตอร์ และ GPU เองยั่งไปไม่ถึงจุดที่จะ RUN แบบ Full Time ได้
จริงหรอครับ โหห ละทำไม GPU มันรันตลอดเวลาไม่ได้หว่าา
งั้นดูหนัง 4K นานๆก็แย่สินะครับ 5555
ขอบคุณสำหรัยการรีวิวแบบถึงลูกถึงคนไม่มีหมกเม็ด
ปล.เข้ามาเพราะ แต่…
ตามนั้นแล 4k เมื่อดูภาพ และวิดิโอ เท่านั้น ( แต่ราคาเต็มๆ เลย 😛 )
4k เกินความจำเป็นไปเยอะ รอบนี้
Z5 ธรรมดาน่าจะพอ
HR-Vin
ไม่มีประโยชน์เลย ผมว่าจอมือถือขนาดนี้หน้าจอ 2K ก็เยอะเกินไปละ ผมยังอยากได้ 1080p เลย จะได้ประหยัดแบต ยัดสเป็คมาเกินจำเป็นจริงๆ
ใช้งานทั่วไปรันที่ Full HD นะครับ รัน 4K ตอนดูรูปกับวิดีโอ
แล้วแบตก็ให้มา 3400 mAh กว่าๆ ผมว่าอึดกว่าหลายๆยี่หอละครับ
สายตายาวอย่างผมต้องรอ
Z 5 ULTRA จอ 6 นิ้วอัพ 5555555
เปิดแค่ตอนดูรูปกับดูวิดีโอก็พอแล้วครับ จะเปิดตลอดให้มันเปลืองแบตทำไม
ยังไงตอนนี้ยังไม่มีค่ายไหนมีปัญญาทำ 4K Full Time ได้แน่นอน ฟันธงได้เลย
เพราะมันกระทบ Performance หลายๆด้าน
พวกที่ใช้จอ QHD ตลอดเวลานี่เอาให้รอดก่อนเถอะ เล่นเกมทีเฟรมเรทตกฮวบ
ส่วนผมซื้อมาใช้ ผมไม่ได้หวังกับจอ 4K อะไรมากมาย เพราะ ppi การมองปกติ
มันแทบเกินสายตาคนทั่วไปจะมองออก แต่ผลที่ได้มันไม่ใช่เรื่องความคมชัดที่สังเกตยาก
แต่เป็นเรื่องของสีสรรและคอนทราสของจอที่ทำได้ดีกว่ายี่ห้ออื่นๆ ผมมีเทียบกับ Z2 กับ Note 4
รีวิวที่อื่นๆก็มีให้ดูอีกเยอะครับ อย่าไปเชื่ออะไรจากแค่คนๆเดียวหรือรีวิวเดียว (ถ้าคิดจะหาดูจริงๆนะ)
ปล. 2K คือ 2048 x 1080 หรือ 1920 x 1080 (16:9)
ส่วน 2560 x 1440 คือ QHD หรือ 2.5K ไม่ใช่ 2K
สเป็คเดี่ยวกับ Nexus 6P แต่ Xperia z5 ตัวนี้ ใส่ SD ได้ ….ชอบค่ายไหน body ยังไง ก้อเลือกกันเอาทุกๆท่าน.
ตอนแรกใช้จอทีวี 65 นิ้ว Full HD ก็รู้สึกว่าชัดอยู่แล้ว แต่พอซื้อ
ทีวี 4k curve จอ 65 นิ้วมา รู้สึกอลังการมาก แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งๆที่ดูไฟล์ Full HD เหมือนกัน เพราะจอมัน Upscale ไปเป็น 4k ให้ด้วย
ส่วนของ Z5 premium ไม่มีความรู้สึกแตกต่างกับ FHD 5.5 นิ้วธรรมดาเลย
น่าจะเพราะจอมันเล็กเกิน ตาคนปกติไม่น่าจะแยกออก อีกอย่างตัวเครื่องใหญ่มาก
ทำ Z5 ออกมาใหญ่เท่ากับ G4 เป๊ะๆ แต่ตัว Z5 Premium นี่ ขนาดเครื่องใหญ่
ขึ้นไปเท่ากับพวกหน้าจอ 5.7-6 นิ้ว เลย
ตกใจ ฝาหลังจริงๆ เห็นกล้องที่ใช้ถ่ายอย่างชัด
** ฝาหลังถ้าปิดรูกล้องกับไฟแฟลชไว้ นึกว่าถ่ายกระจกมาให้ดูจริงๆนะเนี้ย
ผมใช้เครื่องศูนย์ครับ สีเดียวกันเลย เครื่องสวยมากครับ ต่างจาก Z5 ธรรมดาเลยครับ
ที่ชาร์ตไม่มีเครื่องหมายชาร์ตเร็วนะครับ น่าจะแบบธรรมดา
ส่วนเรื่องจอ ผมว่า Sony คิดออกมาดีแล้วนะครับที่ไม่ให้เครื่องแสดง 4k ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้เคยใช้ทั้ง G3 G4 และ S6 ทั้งหมดเป็นจอ 2K มีปัญหาเครื่องกินแบตมากๆครับ ยิ่งถ้าเล่นเกมส์ยิ่งหมดไวครับ ไปทำงานต้อวพกที่ชาร์ตติดไปด้วย ไม่งั้นไม่มีแบตกลับบ้านครับ
ส่วน Z5 Premium จะแสดง 4K เฉพาะเวลาเราเปิดแอพที่ต้องการความละเอียดหน้าจอสูง เช่น รูปภาพ หรือ Video ครับ ปกติทั่วๆไป UI เครื่องจะแสดง FHD ผมว่าเพียงพอแล้วคับ สำหรับผม ประหยัดแบตด้วย เครื่องชาร์ตครั้งนึงใช้งานแบบเดียวกับตอนใช้ G4/S6 Sony Z5 Premium เหลือแบตกลับบ้านเกิน 50% ทุกวันเลยคับ Happy มากครับ ^^
ปล.พึ่งใข้เครื่อง 2 วันเองครับ ยังไม่ได้เทสอะไรเยอะ ไว้วันหยุดจะมาเล่าให้ฟังนะครับ
กล้องถ่ายที่มืดดีมากครับ ^^
แบทโอเค ครับ จากที่ลองใช้มา 4 วันอึดดี ส่วนการแสดงปกติจะแสดงที่ 1080 ผมก็ว่าพอเพียงไม่ได้รู้สึกว่ามันทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนะ แต่ตอนเล่น 4K นี่คงมีร้อนๆแน่ ติตรงที่แพงไปหน่อยกับ ขัดใจปุ่ม Volume มาก มันดันมาอยู่ตำแหน่งที่มือจับพอดี ทำให้เวลาจับเครื่องเล่นจะเผลอไปกดปุ่ม Volume ตลอดเว ส่วน Fingerprint ทำงานตอบสนองไวมาก และอยู่ตำแหน่งที่ดีมาก ขณะจับเครื่องแค่แปะนิ้วนิดเดียวก็ปลดล๊อคอย่างไว
ผมใช้ G4 ปกติเดินทางบ่อย พอแบตหมดก็เปลี่ยนแบตอีกก้อน
ส่วนก้อนที่หมด ก็เอาใส่กล่องชาร์ตเสียบ Powerbank
ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย เพื่อไม่ต้องมีสายห้อยกับ Powerbank
พอก้อนใหม่หมด ก้อนที่ชาร์ตไว้ก็เต็มพอดี เปลี่ยนได้อีก
ส่วน Powerbank 13,000 ชาร์ตได้หลายรอบ สะดวกมากครับ
กระหน่ำใช้แบตเล่นเวป ดูหนังแบบแบตไม่มีวันหมด
ไม่ต้องเสียบ Powerbank ให้มีสายห้อยติดน่ารำคาญอีกด้วย
http://news.pdamobiz.com/review-lg-g4-battery-charging-kit/
อยากทราบครับว่าเวลาคุยโทรศัพท์อีกซิมนึงแล้วจะสามารถเล่นเน็ตอีกซิมนึงไปได้ด้วยหรือป่าว