บทความที่เกี่ยวข้อง
-
ข้อมูลจาก App Annie เผย Google Play มีจำนวนการโหลดแอพเยอะกว่า App Store แต่ตามหลังในเรื่องรายได้
การแข่งขันระหว่าง Android และ iOS นั้น นอกจากจะดูเรื่องฟีเจอร์และฮาร์ดแวร์แล้ว แอพพลิเคชั่นก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักในการแข่งขันเช่นเดียวกัน โดยตอนนี้ทาง App Annie ได้ทำการเปรียบเทียบสถิติจากฝั่ง Android และ iOS ซึ่งเผยให้เห็นถึงยอดการดาวน์โหลดแอพจาก Google Play และ App Strore ของปี 2015 รวมไปถึงรายได้ที่ทั้ง 2 ค่ายได้รับอีกด้วย
-
Google Play Store ทำยอดดาวน์โหลดเป็น 2 เท่าของ App Store ในปี 2017 แต่รายได้ยังคงตามอยู่
จากรายงานสถิติของ SensorTower ดูเหมือนว่าในปี 2017 ที่ผ่านมาจะเป็นปีที่ดีสำหรับทั้ง Google และ Apple ที่ทั้งคู่กวาดเงินจากผู้ใช้ไปได้ทั้งจากการขาย in-app purchase, ค่าบริการรายเดือน และแอพแบบเสียเงินรวมไม่ต่ำกว่า 5.86 หมื่นล้านเหรียญ (ประมาณ 2 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปี 2016 อีก 35%
-
เกม RPG ฟอร์มยักษ์ Genshin Impact สร้างรายได้กว่า 12,000 ล้านบาท หลังจากเปิดตัวไปแค่สองเดือน
จากที่ก่อนหน้านี้เกมมือถือฟอร์มยักษ์ Genshin Impact คว้าอันดับ 1 ของเกมที่ทำรายได้เยอะที่สุดของเดือนตุลาคม 2020 หลังเปิดตัวได้เพียงแค่ 1 เดือน ตอนนี้ Sensor Tower ได้ออกมาเผยเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเกมมือถือดังกล่าวทำรายได้รวมไปแล้วกว่า 393 ล้านดอลลาร์ หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 11,800 ล้านบาท ภายในช่วงเวลา 2 เดือนหลังจากเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 63
-
สมการรอคอย Street Fighter :Duel เตรียมเปิดตัวบนมือถือ เป็นเกมต่อสู้บทใหม่สไตล์ RPG สุดดุเดือด
Street Fighter เป็นเกมต่อสู้ ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1987 เป็นเกมระดับตำนานขึ้นหิ้ง ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซึ่งคราวนี้ได้เตรียมเปิดตัวบนมือถือสำหรับแฟรนไชส์แรก โดยใช้ชื่อว่า Street Fighter: Duel เป็น เกมมือถือแนว RPG ที่มาพร้อมการต่อสู้ในบทบาทใหม่ ไม่ใช่แค่สู้อย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องราวสนุก ๆ รอคอยให้ผู้เล่นสู้ไปกับเพื่อน ๆ ได้อีกด้วย เรียกได้ว่ากลิ่นอายความคลาสสิคมาเต็ม สนุกไม่แพ้กัน สามารถลงทะเบียนได้ทั้ง iOS และ Android
จากรายงานของ App Annie พบว่าในไตรมาสที่ 4 ปี 2017 ทางด้าน Play Store มียอดดาวโหลด app ถึง 19,000 ล้านครั้ง ซึ่งมากกว่า App Store ถึง 145% เมื่อเทียบยอดดาวโหลดในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว Play Store มียอดดาวโหลดเพิ่มขึ้นถึง 10% จากรายงานระบุว่า ยอดดาวโหลดที่เพิ่มขึ้นของ Play Store เกิดมาจากการเข้าไปเจาะตลาดสมาร์ทโฟนเกิดใหม่อย่างในประเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย และ บราซิล
โดยเฉพาะอินเดียที่สร้างยอดดาวโหลดสูงมาก สูงถึงขนาดเอายอดรวมการดาวโหลด app ทั้ง iOS และ Android ของอเมริกา 3 ปี (2015-2017) มารวมกันยังน้อยกว่าอินเดียถึง 3 เท่า
ในยอดของรายได้จาก app ทั้ง Google Play และ App Store มีรายได้เติบโตขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้วถึง 20% แต่ถึงแม้ Google Play จะสามารถสร้างยอดดาวโหลดได้สูงมาก แต่ในแง่ของรายได้ App Store ยังทำรายได้ดีกว่า Play Store เกือบเท่าตัว (95%) ในไตรมาสที่แล้ว App Store ทำรายได้สูงถึง 11.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ Play Store ทำรายได้เพียง 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับการใช้จ่ายผ่าน app พบว่ายอดใช้จ่ายผ่าน app สูงขึ้นถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับ 2 ปีที่แล้ว และประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการใช้จ่ายผ่าน app สูงที่สุด โดยการใช้จ่ายที่ว่านี้หมายถึง การซื้อของ online ผ่าน app หรือใช้ app มือถือจ่ายเงินแทนเงินสด โดยในสถิติพบว่ายอดใช้จ่ายผ่าน app ในวัน Alibaba’s Single Day มียอดใช้จ่ายสูงถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ยอดการใช้จ่ายในด้านบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง พบว่ามียอดใช้จ่ายมากขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2015
ที่มา App Annie ผ่าน Android Police
บทความที่เกี่ยวข้อง
-
ข้อมูลจาก App Annie เผย Google Play มีจำนวนการโหลดแอพเยอะกว่า App Store แต่ตามหลังในเรื่องรายได้
การแข่งขันระหว่าง Android และ iOS นั้น นอกจากจะดูเรื่องฟีเจอร์และฮาร์ดแวร์แล้ว แอพพลิเคชั่นก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักในการแข่งขันเช่นเดียวกัน โดยตอนนี้ทาง App Annie ได้ทำการเปรียบเทียบสถิติจากฝั่ง Android และ iOS ซึ่งเผยให้เห็นถึงยอดการดาวน์โหลดแอพจาก Google Play และ App Strore ของปี 2015 รวมไปถึงรายได้ที่ทั้ง 2 ค่ายได้รับอีกด้วย
-
Google Play Store ทำยอดดาวน์โหลดเป็น 2 เท่าของ App Store ในปี 2017 แต่รายได้ยังคงตามอยู่
จากรายงานสถิติของ SensorTower ดูเหมือนว่าในปี 2017 ที่ผ่านมาจะเป็นปีที่ดีสำหรับทั้ง Google และ Apple ที่ทั้งคู่กวาดเงินจากผู้ใช้ไปได้ทั้งจากการขาย in-app purchase, ค่าบริการรายเดือน และแอพแบบเสียเงินรวมไม่ต่ำกว่า 5.86 หมื่นล้านเหรียญ (ประมาณ 2 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปี 2016 อีก 35%
-
เกม RPG ฟอร์มยักษ์ Genshin Impact สร้างรายได้กว่า 12,000 ล้านบาท หลังจากเปิดตัวไปแค่สองเดือน
จากที่ก่อนหน้านี้เกมมือถือฟอร์มยักษ์ Genshin Impact คว้าอันดับ 1 ของเกมที่ทำรายได้เยอะที่สุดของเดือนตุลาคม 2020 หลังเปิดตัวได้เพียงแค่ 1 เดือน ตอนนี้ Sensor Tower ได้ออกมาเผยเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเกมมือถือดังกล่าวทำรายได้รวมไปแล้วกว่า 393 ล้านดอลลาร์ หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 11,800 ล้านบาท ภายในช่วงเวลา 2 เดือนหลังจากเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 63
-
สมการรอคอย Street Fighter :Duel เตรียมเปิดตัวบนมือถือ เป็นเกมต่อสู้บทใหม่สไตล์ RPG สุดดุเดือด
Street Fighter เป็นเกมต่อสู้ ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1987 เป็นเกมระดับตำนานขึ้นหิ้ง ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซึ่งคราวนี้ได้เตรียมเปิดตัวบนมือถือสำหรับแฟรนไชส์แรก โดยใช้ชื่อว่า Street Fighter: Duel เป็น เกมมือถือแนว RPG ที่มาพร้อมการต่อสู้ในบทบาทใหม่ ไม่ใช่แค่สู้อย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องราวสนุก ๆ รอคอยให้ผู้เล่นสู้ไปกับเพื่อน ๆ ได้อีกด้วย เรียกได้ว่ากลิ่นอายความคลาสสิคมาเต็ม สนุกไม่แพ้กัน สามารถลงทะเบียนได้ทั้ง iOS และ Android
18 Comments
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ps000000 Post on January 28, 2018 at 4:44 pm
#986878
เป็นมานาน และ คงเป็นแบบนี้ตลอดกาล
mrkittisak Post on January 28, 2018 at 5:03 pm
#986882
อ่านแลวรู้สึกดี แล สบายกระเป๋า ยิ่งล่าสุดกล่อมภรรยา ย้ายมาลอง S8 ยิ่งสบายกระเป๋าในระยะยาว เพราะ กูเกิ้ลมีช่องทางทำเงินจากหลายด้านมั๊งครับ
pureblackheart Post on January 28, 2018 at 5:30 pm
#986884
Google ยังไงก็มีรายได้ครับ แต่ที่เศร้าคงเป็นนักพัฒนามากกว่า ถ้าทำลง play store แล้วรายได้น้อยกว่า app store แบบนี้
iyhsi Post on January 28, 2018 at 5:09 pm
#986883
ตัวเลขนี้รวมin app purchaseป่าวอะ
kadeep Post on January 28, 2018 at 6:49 pm
#986885
Thank you google ทำให้เราได้ใช้แอพฟรีๆ ที่มีคุณภาพ ระดับเดียวกับที่ขาย 10-20 us ใน app store.
ntw-tlk Post on January 29, 2018 at 9:29 am
#986899
"แอพฟรีๆ ที่มีคุณาพ ระดับเดียวกับที่ขาย 10-20 US ใน app store" นี่เช่นแอพอะไรบ้างหรอคับ?
kirafd Post on January 28, 2018 at 8:04 pm
#986886
มีแอปฟรีเป็นทางเลือกให้เยอะ แอปเสียงตังมีคุณภาพก็มี เรียกว่ามีตลาดหลากหลายจะดีกว่า จะมีรายได้น้อยกว่าก็ไม่แปลกอะไร
angelknight Post on January 28, 2018 at 8:51 pm
#986888
playstore แอปแบบเดียวกันมันเยอะ ที่สำคัญมันฟรี หากินกับads เอา
Toven Post on January 28, 2018 at 9:08 pm
#986889
แสดงว่าราคาเป็นมิตรกับลูกค้า
casnovii Post on January 28, 2018 at 9:59 pm
#986890
แอพเยอะก็จริง แต่อย่าลืมพวก APK ด้วยหละครับ นี่แหละเหตุผลหลักที่ยังไงก็ยังตามอยู่
theproject Post on January 29, 2018 at 2:13 am
#986893
แอพไหนถูกใจผมก็ซื้อนะ
iPood Post on January 29, 2018 at 6:35 am
#986894
ปัญหาบนแอพบน Playstore หลายตัวที่ใช้งานประจำ แอพไม่ optimize ตัดฟังชั่นออก เด้งบ้างอัพเดทช้าทั้งๆที่เป็นแอพเดียวกับ Appstore เลยต้องไปใช้แอพบน iOS แทน >_<
ntw-tlk Post on January 29, 2018 at 9:30 am
#986900
สงสารนักพัฒนานะครัับ
ยอดดาวน์โหลดสูงก็จริง แต่เก็บรายได้ไม่ได้ เพราะต้องทำให้มันเป็น"ของฟรี"
Oakyman Post on January 29, 2018 at 10:00 am
#986902
ผมว่าเผลอๆ รายได้จาก Ad ในฝั่ง Android อาจจะเยอะกว่าฝั่ง iOS
เพราะ App Android ฟรีเยอะ แต่ก็โฆษณาเยอะเช่นกัน
kornselo Post on January 29, 2018 at 12:20 pm
#986909
รายได้
คือ รวมทั้งหมดทุกอย่างนั้นแหละ
ทั้งรายได้จากโฆษณา ทั้ง in app perches
ไม่ใช้นับแค่ แอ็บซื้อ อย่างเดียว
ไม่ใช่นับรายได้ iphone ซื้อแอ็บ = 1
แอดรอย แอ็บ ฟรี = 0 ซะที่ไหน
Akescreamo Post on January 30, 2018 at 9:32 am
#986932
คุณ Oakyman ผมไม่เห็นมีเขียนว่ารวมทั้งหมดนะ ผมแค่สงสัยว่าดูจากไหนที่ว่ารายได้รวมแล้วทั้งหมดไม่ว่าจะทาง Ads และ In app perches คือผมไม่เห็นจริงๆ เลยอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยครับ
JEDPED Post on January 29, 2018 at 2:05 pm
#986914
สาเหตุที่แอพ ios ออกมาก่อน android
เป็นใครก็ต้องเอาที่เงินเยอะไว้ก่อน
Pegasus7th Post on January 30, 2018 at 6:02 pm
#986943
น่าจะรวมรายได้จากค่า App และ In App Purchase เพราะข้อมูลมันมีอยู่แล้วแต่ละ Store เก็บไว้ได้
แต่คงไม่ได้รวม Ads แน่นอน เพราะแต่ละโปรแกรมใช้ Ads ของเจ้าไหนก็ได้ และมันเข้ากระเป๋าเจ้าของ App กับเจ้าของโฆษณา (Google ก็เป็นหนึ่งในนั้น)
ส่วนทาง iOS เหมือนจะไม่มีมั้งครับโฆษณา