ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่พยายามผลักดันกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างจริงจังในช่วงหลัง โดยมีเป้าหมายหลักคือการกำกับดูแลสองยักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Apple ซึ่งล่าสุดทางรัฐบาลกำลังพิจารณานำเสนอร่างกฎหมาย Smartphone Competition Promotion Act เพิ่มเติม โดยหลาย ๆ ส่วนจะค่อนข้างคล้ายคลึงกับกฎ Digital Markets Act (DMA) ของทางฝั่งยุโรปที่พึ่งบังคับใช้ไปไม่นานนี้ พร้อมทั้งเตรียมขึ้นค่าปรับเป็น 20% ของรายได้

ตัวอย่างแนวปฏิบัติบางส่วนตามที่สื่อต่างประเทศนำเสนอ เช่น

  • ห้ามมีการแทรกแซง ปิดกั้น และกีดกันการดำเนินการใด ๆ กับแอปโตร์ภายนอก
  • ห้ามให้น้ำหนักกับสินค้าหรือบริการของตนบนผลการค้นหา มากกว่าสินค้าหรือบริการจากค่ายอื่น
  • ผู้ใช้งานต้องสามารถเปลี่ยนการตั้งค่า ‘แอปเริ่มต้น’ ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เช่น เว็บเบราว์เซอร์ และเสิร์ชเอนจิน

เดิมที กฎหมายต่อต้านการผูกขาดของหลาย ๆ ประเทศ จะมีค่าปรับที่ประมาณ 10% โดยคำนวณจากรายได้ที่เกิดขึ้นจริงของแพลตฟอร์ม เช่นเดียวกับญี่ปุ่นจนถึงขณะนี้ แต่ร่างกฎหมายใหม่ของญี่ปุ่นจะปรับขึ้นสองเท่า เป็น 20% และหากมีการทำผิดซ้ำแบบเดิมอีก ก็จะปรับขึ้นอีกรอบ ซึ่งกรณีจะกลายเป็น 30%

ภาพจาก Japan Fair Trade Commission

นอกจากนี้ ร่างกฎหมาย Smartphone Competition Promotion Act ยังรวมถึงบทบัญญัติ ที่อนุญาตให้คณะกรรมาธิการการค้าที่เป็นธรรมของญี่ปุ่น (JFTC) สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอคำสั่งฉุกเฉิน ในการหยุดการดำเนินการใด ๆ ของบริษัทไอทีที่ฝ่าฝืนกฎเป็นการชั่วคราวได้ และกฎยังกำหนดให้บริษัทไอทีต้องส่งสายงานให้คณะกรรมาธิการการค้าฯ ตรวจสอบทุกปี เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินการต่าง ๆ นั้นเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

คาดว่าร่างกฎหมายข้างต้นจะถูกนำเข้าที่ประชุมของคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นภายในเดือนเมษายนนี้ ถึงตอนนั้นคงมีประกาศทางการตามออกมาให้ได้ทราบกันอีกทีหนึ่ง

ที่มา : Nikkei Asia