Qualcomm เปิดตัวชิปเซ็ตรุ่นใหม่ ครั้งนี้ไม่ได้เป็นรุ่นท็อประดับไฮเอนด์แต่อย่างใด แต่เป็นรุ่นระดับกลางอย่าง Snapdragon 778G+, Snapdragon 695, Snapdragon 680 และ Snapdragon 480+ โดยทั้งหมดจะถูกผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 6 – 8 นาโนเมตร และรองรับการใช้งาน 5G เกือบทุกรุ่น ว่าแต่จะมีอะไรใหม่บ้าง มาหาคำตอบได้ในบทความนี้เลยครับ

Snapdragon 778G+

เริ่มจากรุ่นท็อปสุดที่เปิดตัวกันในวันนี้อย่าง Snapdragon 778G+ โดยชิปตัวนี้ถือเป็นรุ่นตีบวกจาก 778G ที่ใช้ขับเคลื่อน Galaxy A52s และ Motorola Edge 20 ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตร ประกอบไปด้วย CPU ทั้งหมด 8 แกน ได้แก่ Cortex-A78 จำนวน 4 แกน และ Cortex-A55 จำนวน 4 แกน (ความเร็วสูงสุด 2.5GHz) จะสังเกตได้ว่า Qualcomm ยังเลือกใช้เทคโนโลยี ARMv8 เหมือนเดิม GPU ใช้เป็น Adreno 642L และหน่วยประมวลผลสำหรับ Machine Learning ใช้เป็น Hexagon 770

หน่วยประมวลผลการถ่ายภาพ ชิป Snapdragon 778G+ จะเลือกใช้เป็นตัว Spectra 570L สามารถถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงสุด 193MP นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายภาพ 64MP @30fps หรือ 22MP + 22MP + 22MP หรือจะเลือกเป็น 36MP + 20MP ก็ได้

Snapdragon 778G+ มีโมเด็ม X53 5G อยู่ด้านใน รองรับทั้ง mmWave และ sub-6GHz หน้าจอแสดงผลรองรับรีเฟรชเรทสูงสุดที่ 144Hz บนความละเอียด Full HD+, Bluetooth 5.2, WiFi 6E และ Quick Charge 4+

Snapdragon 695

Snapdragon 695 เป็นชิปเซ็ตภาคต่อจาก Snapdragon 690 ที่ใช้ขับเคลื่อน OnePlus Nord N10 และ Sony Xperia 10 III ตัว CPU ที่ใช้ด้านในจะมีความเร็วมากกว่าเดิมจาก 2GHz เป็น 2.2GHz ส่วน GPU ก็จะได้รับการอัปเกรดเช่นกันมาใช้เป็นตัว Adreno 619 ที่ประสิทธิภาพดีกว่าตัวเดิมเล็กน้อย ในส่วนนี้ทาง Qualcomm เคลมว่า Snapdragon 695 นั้นแรงกว่าในแง่ CPU และ GPU เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้วถึง 15% และ 30% ตามลำดับ นอกจากนี้ ชิปดังกล่าวยังรองรับการใช้งาน Bluetooth 5.2 อีกด้วย 

โดย Snapdragon ถูกผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาดจิ๋ว 6 นาโนเมตร เช่นเดียวกัน 778G+ รองรับการถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 108MP, 13MP + 13MP + 13MP , 25MP + 13MP และถ่ายวิดีโอ Slow-Motion 720p @240fps แถมด้านในยังมีโมเด็ม X51 รองรับ 5G, รีเฟรชเรท 120Hz บนความละเอียด Full HD+, WiFi 6 และ Quick Charge 4+

Snapdragon 680

Snapdragon 680 เป็นหนึ่งเดียวในสี่ชิปเซ็ตตัวใหม่ของ Qualcomm ที่รองรับสูงสุดเพียงแค่ 4G เท่านั้น เป็นซีรีส์ภาคต่อจาก Snapdragon 665 ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตร สเปค CPU ประกอบด้วย Cortex-A73 จำนวน 4 แกน และ Cortex-A55 อีก 4 แกน ความเร็วสูงสุด 2.4GHz ส่วน GPU ใช้เป็นตัวเดิมจากรุ่นก่อนหน้านี้ หน่วยประมวลผล AI ใช้เป็น Hexagon 686 และรองรับ Quick Charge 3

Snapdragon 680 รองรับรีเฟรชเรทหน้าจอสูงสุด 90Hz บนความละเอียด Full HD+, Bluetooth 5.1 และโมเด็ม X11 ที่รองรับได้สูงสุดเพียงแค่ 4G เท่านั้น

Snapdragon 480+

ปิดท้ายกันด้วย Snapdragon 480+ เป็นรุ่นอัปเกรดจาก Snapdragon 480 มีความเร็ว CPU มากกว่าเดิม 200MHz จาก 2GHz เป็น 2.2GHz ที่เหลือสเปคคล้ายเดิมแทบทุกประการ ยกเว้นความสามารถในการใช้งาน Bluetooth ที่รอบนี้รองรับเป็นเวอร์ชั่น 5.2 แล้ว 

แหล่งข่าวระบุว่า CPU และ GPU ของ Snapdragon 480+ คล้ายเดิมกับรุ่นก่อนหน้าทุกประการ ผลิตบนสถาปัตยกรรม 8 นาโนเมตร มีโมเด็ม X51 รองรับ 5G แบบ mmWave ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ Snapdragon 480+ ก็จะรองรับรีเฟรชเรท 120Hz บนความละเอียด Full HD+, WiFi 6, ถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 64MP, 25MP + 13MP หรือ 13MP + 13MP + 13MP และ Quick Charge 4+

Xiaomi ได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะใช้ Snapdragon 778G+ และ Snapdragon 695 ขับเคลื่อนสมาร์ทโฟนของพวกเขา ส่วน OPPO ก็ออกมาคอนเฟิร์มเหมือนกันว่าจะใช้ Snapdragon 695 ในขณะที่ HMD Global บอกใบ้เป็นกลาย ๆ ว่าจะใช้ Snapdragon 480+ นอกจากนี้ยังมีแบรนด์อื่น ๆ อย่าง HONOR, Motorola และ Vivo ออกมาบอกอีกว่าจะใช้ชิปเหล่านี้แน่นอน แต่ไม่ระบุว่าเป็นรุ่นไหน

 

ที่มา: Android Authority