หลังจากงาน Commart 2025 ปลายปีได้ผ่านพ้นไป หนึ่งในกระแสที่ถูกพูดถึงหนักมากคือเรื่องราคาแรมที่แพงขึ้นเยอะมาก จนคนที่ตั้งใจจะประกอบคอมใหม่หรืออัปเกรดเครื่องต้องตกใจไปตาม ๆ กัน เพราะตลอดช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา ราคา RAM กระโดดขึ้นแบบที่ไม่เคยเห็นมาหลายปี บางรุ่นราคาขยับขึ้น 50-300% ภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งจากที่เราก็ได้ไปสำรวจมาก็พบว่าแพงขึ้นจริง

สาเหตุของทั้งหมดนี้เริ่มจากโรงงานผู้ผลิตหน่วยความจำทั่วโลกที่ต้องจัดลำดับความสำคัญใหม่ เนื่องจากตอนนี้ตลาด AI มีความต้องการใช้ HBM (High Bandwidth Memory) สูงมหาศาล เพื่อนำไปใช้ใน GPU สำหรับงานปัญญาประดิษฐ์ ทั้งการเทรนโมเดลและประมวลผล ทำให้ผู้ผลิตหันไปทุ่มกำลังผลิต HBM เป็นลำดับแรก เพราะขายได้ราคาดี และกำไรสูงกว่า DRAM และ NAND แบบทั่วไปมาก เมื่อสายพานการผลิตขยับเช่นนี้ ย่อมทำให้ชิปหน่วยความจำสำหรับตลาดคอนซูเมอร์ถูกลดปริมาณลงแบบเลี่ยงไม่ได้

ผลลัพธ์จึงตามมาแบบโดมิโน DRAM สำหรับพีซี โน้ตบุ๊ก และสมาร์ทโฟน รวมถึง NAND ที่ใช้ทำ SSD มีจำนวนลดลงทันที ทำให้ราคาดีดตัว ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งหน้าโรงงาน ดีลเลอร์ และหน้าร้าน บวกกับผู้บริโภคบางกลุ่มเริ่มกักตุนเพราะกลัวราคาจะสูงขึ้นอีกยิ่งกลายเป็นแรงผลักให้ราคาพุ่งเร็วขึ้นไปอีก ตัวอย่างในตลาดตอนนี้อย่าง DDR5 32GB Bus 5600 ที่เคยขายแถวสามพันต้น ๆ ตอนนี้ขึ้นไปแตะ 5,000-6,000 บาท และถ้าเป็นรุ่น OC หรือซิงก์ระดับพรีเมียมราคายิ่งดันขึ้นไปใกล้หลักเก้าพันบาท ส่วน 48GB DDR5 Bus 6000 ที่เมื่อต้นปีเห็นกันราวเจ็ดพันกว่า ตอนนี้พุ่งขึ้นทะลุ 12,000 บาทแล้ว

เมื่อสถานการณ์ราคา RAM และ SSD แพงขึ้นมาก ๆ ก็เริ่มเกิดผลกระทบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน นั่นคือ เริ่มมีรายงานการขโมยแรมระหว่างขนส่งเกิดขึ้นจริงในหลายประเทศ เพราะสินค้ากลุ่มนี้มีมูลค่าสูงขึ้นรวดเร็วและมีลักษณะขนาดเล็ก พกง่าย ซ่อนง่าย และขายออกง่าย ทำให้ตกเป็นเป้าของมิจฉาชีพ

หนึ่งในเคสที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือโพสต์ของผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งในสหราชอาณาจักร เขาสั่ง Crucial 32GB DDR5 ผ่านร้านค้าออนไลน์ แต่พัสดุกลับถูกอัปเดตสถานะว่า “จัดส่งสำเร็จ” ตอนตีสี่กว่า แถมขึ้นสถานที่ที่อยู่ห่างบ้านเขากว่า 300 ไมล์ และลายเซ็นผู้รับก็เป็นลายเส้นประหลาดคล้ายสัญลักษณ์มากกว่าจะเป็นชื่อบุคคลปกติ เมื่อเขาได้รับกล่องจริง ก็พบว่าเป็นเพียงซองเปล่า ไม่มีแรมอยู่ข้างในแม้แต่นิดเดียว

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็มีคนจำนวนมากเข้ามาเล่าประสบการณ์คล้ายกัน ทั้งแรมถูกสลับของ, พัสดุถูกเปิดก่อนถึงบ้าน, หรือแม้แต่การเซ็นรับปลอมโดยเจ้าหน้าที่ขนส่งเอง ซึ่งปัญหานี้ยิ่งทวีความน่ากังวล เพราะร้านค้าออนไลน์ยังคงต้องรับผิดชอบตามกฎหมายจนกว่าสินค้าจะถึงมือผู้รับจริง ทำให้หลายร้านต้องออกมาตรการความปลอดภัยเพิ่ม เช่น หยุดขายแรมเป็นชิ้น ๆ ชั่วคราว หรือบังคับให้ลูกค้ามารับของที่จุดบริการแทนเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

สถานการณ์นี้ยังสะท้อนถึงความตึงเครียดในตลาดหน่วยความจำที่ยังไม่มีท่าทีคลี่คลาย เพราะการผลิตชิปไม่สามารถเพิ่มได้ในเวลาอันสั้น โรงงานต้องวางแผนล่วงหน้าเป็นปี กอปรกับความต้องการของฝั่ง AI ที่ยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ DRAM และ NAND ยังคงอยู่ในภาวะขาดตลาดอย่างหนัก ผู้เชี่ยวชาญเองยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ชัดเจนว่าราคาจะกลับมาปกติเมื่อไร อาจต้องรอจนกว่ากำลังผลิตใหม่จะเริ่มเดินเครื่องอย่างเต็มที่ หรือกระแส AI เริ่มชะลอตัวลง

ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังวางแผนประกอบคอมใหม่ อัปเกรด RAM หรือซื้อ SSD ในช่วงนี้ อาจต้องเตรียมงบเพิ่มไว้พอสมควร รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังเมื่อสั่งของออนไลน์ เช่น การอัดวิดีโอแกะกล่องหรือเช็กสถานะพัสดุอย่างละเอียด เพราะในยุคที่ราคาแรมแพงยิ่งกว่าทองแบบตอนนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้จริง ๆ

ที่มา : VideoCardz, Ars Technica