Razer แบรนด์เกมมิ่งชื่อดังได้เปิดตัวหูฟังเกมมิ่งไร้สายรุ่นใหม่ Hammerhead True Wireless Pro ที่มาพร้อมกับระบบตัดเสียงที่ดีกว่าเดิม สามารถปรับความกระชับให้พอดีกับหูด้วยจุกหูฟังถึง 7 ขนาด และแบตเตอรี่ที่อึดกว่าเดิม

Hammerhead True Wireless Pro เป็นหูฟังเกมมิ่งไร้สายแบบ In-Ear ที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งพัฒนาขึ้นมาจากหูฟังไร้สายรุ่นก่อนอย่าง Hammerhead True Wireless ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว โดย Razer ได้ปรับแต่งเสียงขึ้นมาเองเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายด้วยค่า Latency ที่มีการลดความหน่วงของสัญญาณเสียงที่ต่ำมากๆ เหลือเพียงแค่ 60ms ทำให้การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.1 ได้อย่างไม่มีปัญหา เสียงไม่ดีเลย์ไม่ต้องกลัวว่าเสียงจะไม่ตรงกับปาก

หูฟังรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับจุกหูฟัง 7 ขนาด/คู่ เพื่อความเหมาะสมในการใช้งานและสามารถปรับความกระชับให้พอดีกับลักษณะหูของผู้ใช้ได้ ซึ่งมีทั้งซิลิโคนแบบเรียบ 3 คู่, ซิลิโคนแบบนุ่ม 3 คู่ และแบบโฟม Comply อีก 1 คู่ และได้ใช้ไดรเวอร์ขนาด 10mm ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้าจากการเพิ่ม Hybrid Active Noise Cancellation ระบบตัดเสียงรบกวนเข้ามา แต่จะไม่ทำให้คุณภาพเสียงลดลงไป เพราะระบบตัดเสียงได้รับการรับรองจาก THX สถาบันที่กำหนดมาตรฐานคุณภาพเสียงสำหรับอุปกรณ์การดูหนัง

ระบบ Hybrid Active Noise Cancellation จะช่วยตัดเสียงรบกวนที่เหมือนกับในหูฟัง Razer Opus ด้วยไมค์ทั้งด้านในและด้านนอกตัวหูฟังที่ทำหน้าที่แบบ Hybrid ทั้งทำการวิเคราะห์จากการรับเสียงต่างๆ และป้องกันเสียงรบกวนผ่านการเก็บเสียงให้การดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกมเป็นไปอย่างไม่มีสะดุด และผู้ใช้งานยังสามารถใช้แอป Razer Hammerhead True Wireless ทำการปรับแต่งคุณภาพเสียงให้เหมาะกับจุกหูฟังที่เลือกใช้งาน และเพื่อให้ได้เสียงที่ดีที่สุดในการฟังอีกด้วย

นอกจากนี้ Hammerhead True Wireless Pro สามารถใช้งานต่อเนื่องได้แบบเพลินๆ ถึง 4 ชั่วโมง ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (สามารถชาร์จกับเคสได้อีก 20 ชั่วโมง) แต่การใช้งานก็อาจจะน้อยลงไปกว่านั้นหากเปิดระบบตัดเสียงรบกวน ANC แต่น่าเสียดายที่หูฟังรุ่นใหม่นี้จะไม่ได้มาพร้อมกับระบบการชาร์จแบบไร้สาย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถชาร์จผ่าน USB Type C ได้แทน

โดยราคาของหูฟังรุ่นใหม่นี้ จะอยู่ที่ 199.99 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 6,000 บาท สามารถสั่งซื้อได้แบบออนไลน์แล้วที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Razer และจะเริ่มวางจำหน่ายในร้านค้าปลีกของสหรัฐฯภายในสิ้นเดือนนี้ แต่เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อไหร่ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ

 

ที่มา : Razer via GSMArena