Razer เปิดตัว Razer Edge อย่างเป็นทางการ หลังจากเปิดเผยข้อมูลล่วงหน้าบางส่วนออกมาตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน — เครื่องเกมพกพานี้ทำงานอยู่บบระบบปฏิบัติการ Android สามารถดาวน์โหลดเกมจาก Google Play มาเล่นได้แบบเนทีฟบนตัวเครื่อง ทั้งยังสามารถเล่นเกมจากพีซีหรือคอนโซลในแพลตฟอร์มที่รองรับผ่านการสตรีม เช่น Xbox Cloud Gaming และ GeForce Now จุดเด่นคือจอยทั้งสองข้างสามารถถอดแยกออกมาได้ในลักษณะเดียวกับ Nintendo Swtich

Razer Edge มากับหน้าจอ AMOLED แบบสัมผัส ความละเอียด Full HD+ บนขนาด 6.8 นิ้ว อัตรารีเฟรช 144Hz ภายในขับเคลื่อนด้วยชิปเซต Snapdragon G3x Gen 1 ที่ Qualcomm ออกแบบมาสำหรับเครื่องเกมพกพาโดยเฉพาะ พ่วงมากับหน่วยความจำ 8GB และสตอเรจ 128GB รองรับ microSD card เพิ่มความจุได้สูงสุด 2TB

ตัวเครื่อง Razer Edge มีลำโพง 2 ตัว แยกเสียงซ้ายขวาเป็นสเตอรีโอ รองรับระบบเสียงตามตำแหน่ง และมีกล้องหน้า 1 ตัว ความละเอียด 5MP รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที สำหรับใช้ในการไลฟ์สตรีมขณะเล่นเกมหรืออื่น ๆ

ด้านจอยควบคุม Razer ระบุชื่อเป็น Razer Kishi V2 Pro ซึ่งในทางเทคนิคแล้วน่าจะถอดแยกออกมาใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน Android ได้แบบเดียวกับ Razer Kishi V2 ที่วางจำหน่ายอยู่แล้วในปัจจุบัน ตัวจอยรองรับการกำหนดปุ่มมาโคร และรองรับระบบสั่น HyperSense

Razer Edge แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น Wi-Fi ที่เป็นรุ่นมาตรฐาน และรุ่นที่รองรับ 5G ซึ่งจะวางจำหน่ายในภายหลัง นอกจากนี้ยังมี Razer Edge Founders Edition ที่เป็นชุดบันเดิลรวมรุ่นมาตรฐานกับหูฟัง Razer Hammerhead True Wireless ด้วย

  • Razer Edge รุ่น Wi-Fi : ราคา 400 ดอลลาร์ (ประมาณ 13,990 บาท)
  • Razer Edge รุ่น 5G : ราคา 500 ดอลลาร์ (ประมาณ 14,990 บาท)
  • Razer Edge รุ่น Founders Edition : ราคายังไม่ประกาศ

เบื้องต้น Razer Edge ยังเปิดจำหน่ายเฉพาะในสหรัฐฯ เพียงแห่งเดียว ประเทศอื่น ๆ ต้องรอติดตามการประกาศเพิ่มเติม — หากในระหว่างนี้ไม่มีผู้ผลิตรายใดชิงตัดหน้า Razer Edge รุ่น 5G จะกลายเป็นเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นแรกที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G ในตัว

ก่อนหน้านี้ Logitech G พึ่งเปิดตัวเครื่องเล่นเกมพกพาชื่อ CLOUD ไป เป็นเครื่องเล่นเกมพกพาลักษณะเดียวกับ Razer Edge ในราคา 350 ดอลลาร์ (ประมาณ 13,190 บาท) แต่ไม่สามารถถอดจอยได้

 

ที่มา : Razer