เทรนด์สองหน้าจอนี่มีทั้งโน้ตบุ๊คและมือถือจริงๆ ซึ่งเจ้าตัว ASUS ZenBook 14 UX434F ก็เป็นโน้ตบุ๊คที่สองหน้าจอด้วยเช่นกัน โดยจอที่สองจะเป็นแบบ ScreenPad 2.0 ตัวใหม่ อัปเดตจากตัว ZenBook UX433 รุ่นเก่าให้ใช้งานได้ดีขึ้นกว่าเดิม บอดี้ตัวเครื่องก็มีขนาดเล็ก ขอบจอเรียกได้ว่าบางสุดๆ ทั้งสี่ด้าน สเปคก็ตีบวกมาใหม่ใช้ Intel Gen 10 รุ่นล่าสุดพร้อมมีการ์ดจอแยก MX250 ด้วย รีวิวการใช้งานจะเป็นไงบ้างไปดูกันครับ
สเปค ASUS ZenBook 14 UX434F
- CPU : Intel Core i5-10210U / i7-10510U
- GPU : On Board / NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5)
- Ram : 8 GB LPDDR3 2133MHz On Board
- Storage : SSD m.2 PCIe 512GB
- Display : 14″ Full HD IPS 60 Hz, 100% sRGB
- ScreenPad : 5.65” FHD+ Super IPS display
- Interface : USB 3.1 Type A, USB 3.1 Type C, USB 2.0, HDMI, micro SD card, Headset 3.5 mm
- Network : Wi-Fi 6 (802.11 ax), Bluetooth 5.0
- WebCam : IR Camera
- Size : 31.9 x 19.9 x 1.69 cm
- Weight : 1.26 Kg
- Warranty : 2 Years
- Price : เริ่มต้น 26,990 บาท (i5) / 29,990 บาท (i5+MX250) / 35,990 บาท (i7+MX250) *รุ่นที่รีวิว
ดีไซน์ตัวเครื่อง
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่ารุ่นที่ทีมงานได้มารีวิวในบทความนี้จะเป็น ASUS ZenBook 14 UX434F รุ่นท็อปสุดที่เป็นตัว i7-10510U พร้อมการ์ดจอแยก MX250 โดยสีที่ทีมงานได้มานั้นจะเป็นสีเงินทอง Icicle Silver วัสดุบอดี้ภายนอกเป็นโลหะทั้งหมด รับรองว่าแข็งแรงทนทานผ่านมาตรฐาน Military Grade ระดับ MIL-STD-810G กันตก กันสั่น ความกดอากาศสูง และความร้อนได้ดีในระดับหนึ่ง
ฝาหลังตัวเครื่องจะดีไซน์แบบแนว Zen เช่นเดียวกับ ZenBook รุ่นอื่นๆ คือจะเป็นลายวงๆ เหมือนน้ำหยดลงแม่น้ำ มิติตัวเครื่องขนาดค่อนข้างเล็กเทียบเท่ากระดาษ A4 ดีไซน์ด้านหน้าตัวอันนี้พิเศษหน่อยคือมีการเซาะร่องตรงกลางไว้เพื่อสำหรับเอามือมาเปิดฝาพับเครื่องได้สะดวก ถัดมาที่ด้านหลังตัวเครื่องก็จะมีช่องระบายความร้อน 1 ช่อง พัดลม 1 ตัว และใช้แกนฝาพับแบบคู่กางได้สูงสุด 145° ด้วยกันครับ
นอกจากนี้ฝาหลังตัวเครื่องก็ดีไซน์มาเป็นแบบ ErgoLift ที่ช่วยยกแป้นพิมพ์ทำมุม 3° สังเกตว่าหน้าจอจะยาวลงมายกตัวเครื่องขึ้น ซึ่งช่วยทั้งในเรื่องของการวางมือเวลาพิมพ์งาน การระบายความร้อน และการกระจายเสียงของลำโพงให้มีมิติมากขึ้น โดยลำโพงจะอยู่ด้านล่างซ้ายขวา
ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อตัวฝั่งด้านขวาจะมี Micro SD Card Reader, USB 2.0, Headset 3.5 mm และไฟแสดงสถานะสองจุด ส่วนทางด้านซ้ายก็จะมี รูเสียบสายชาร์จ, HDMI, USB 3.1 Type A และ USB 3.1 Type C นอกจากนี้ภายในกล่อง ASUS ZenBook 14 UX434F ก็ได้แถมสายแปลง USB to Lan มาให้ด้วยไม่ต้องไปหาซื้อแยก
มาดูที่ดีไซน์ด้านในตัวเครื่องกันบ้างจะเห็นว่าที่หน้าจอดีไซน์มาเป็นแบบขอบบางที่สี่ด้าน ซึ่งบางมากแทบจะไร้ขอบอยู่ล่ะ โดยตัวจอเป็นจอกระจก อาจจะมีแสงสะท้อนนิดหน่อยเวลาอยู่ที่แสงจ้า ตัวจอมีขนาด 14 นิ้ว พร้อม Webcam อยู่ตรงกลางด้านบน ซึ่งรองรับการใช้ IR Camera เพื่อปลดล็อคหน้าจอด้วย
คีย์บอร์ดตัวเครื่องก็ให้มาขนาดมาตรฐานไม่มี Numpad แต่สามารถใช้ ScreenPad ด้านล่างเป็น Numpad ได้ โดยแป้นพิมพ์เองการจัดวางเลเอาท์ต่างๆ มีไฟ Backlit ปรับได้ 3 ระดับ ที่ชอบเลยคือปุ่ม Shift ด้านขวาทำมาขนาดใหญ่ ใช้นิ้วก้อยกดได้ง่ายดี
การใช้งาน / ทดสอบประสิทธิภาพ
การใช้งานทั่วไปสำหรับ ASUS ZenBook 14 UX434F ไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลง ท่องเน็ต พิมพ์งาน แต่งรูป ทั้งหมดหมดนี้สามารถใช้งานได้ลื่นไหลแบบหายห่วง ใช้งานได้ทั้งสองหน้าจอสบายๆ โดยไม่มีติดขัด โยนหน้าต่างสลับไปมาได้ หน้าหลักเปิด Facebook หน้า SceenPad เปิด YouTube ได้พร้อมกัน ส่วนแป้นพิมพ์เด้งรับติดมือดี แต่รู้สึกว่าปุ่มระยะกดตื้นไปสักนิดอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบ
ถัดมาดูการใช้งาน IR Camera อันนี้ก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานปกติ ปลดล็อคไว เปิดฝาเครื่องปุ๊บสแกนปั๊บไม่มีพลาด หรือถ้าใครไม่ชอบอยากใส่ Pin ธรรมดาก็ได้
คราวนี้มาดูการใช้งาน ScreePad ที่อัปเดตมาเป็นเวอร์ชัน 2.0 กันบ้าง จากที่ทดลองใช้ถือว่าทำได้ดีขึ้น จากรุ่น ZenBook Pro ตัวเก่า อาการค้าง แลคน้อยลง ติดมือมากยิ่งขึ้น โดยหลักๆ ที่สามารถใช้งานได้คือ ทำเป็น Numpad, ใช้เป็นคำสั่ง Quick Key กับโปรแกรมอื่นๆ, เขียน Handwriting, จอดูพรีเซนต์สไลด์ และใช้เปิดแอพต่างๆ เช่น Spotify ไว้คอยควบคุมเพลง
สเปคเครื่อง ASUS ZenBook 14 UX434F ใช้ซีพียูที่เป็น Intel Core i7-10510U ความเร็ว 1.80 – 4.90 Ghz แบบ 4 Core/ 8 Thread ขนาด 14 nm ค่า TDP 15w การ์ดจอแยกใช้เป็น NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5), Ram 8GB LPDDR3 2133MHz และ SSD m.2 PCIe ให้มาขนาด 512GB
ผลทดสอบความเร็วของ SSD m.2 PCIe บนเครื่องด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark ได้ค่า Read อยู่ที่ 1768.4 MB/s และ Write อยู่ที่ 975.5 MB/s ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติของ PCIe ซึ่งครอบคลุมการทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกันได้โดยไม่มีอาการหน่วง เปิดปิดเครื่องใช้เวลาแค่ไม่กี่วิ
ส่วนผลทดสอบ ASUS ZenBook 14 UX434F ในการเล่นเกม ทีมงานจะทดสอบโดยการเปิดจอ ScreenPad ดู Youtube พร้อมกับเล่นเกมไปด้วย ซึ่งเกมที่ทีมงานนำมาทดสอบคือเกม PUBG และ Dota 2 (เล่นบนความละเอียด Full HD) โดยได้ค่าเฟรมเรทดังนี้
- PUBG ปรับ Lowest : เฟรมเรทเฉลี่ย 33FPS / ต่ำสุด 15FPS / สูงสุด 44FPS
- Dota 2 ปรับ Best Looking : เฟรมเรทเฉลี่ย 42FPS / ต่ำสุด 21FPS / สูงสุด 56FPS
คราวนี้มาทดสอบซีพียูด้วยโปรแกรม Cinebench R20 ผลได้คะแนนรวมอยู่ที่ 1097 pts และวัดแบบ Single Core จะได้คะแนน 420 pts
หลังจากที่ทดสอบเครื่อง ASUS ZenBook 14 UX434F ต่างๆ ไปทั้งหมดมาดูที่อุณหภูมิซีพียูและการ์ดจอของตัวเครื่องกันบ้าง โดยมีผลเป็นดังนี้ คือ
- ซีพียู i7-10510U มีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 90 องศา
- การ์ดจอ NVIDIA MX250 มีอุณหภูมิอยู่ที่ 77 องศา
ส่วนทางด้านระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของ ASUS ZenBook 14 UX434F ให้ขนาดแบตมา 3-Cell 50Wh ทีมงานทดสอบโดยการต่อ WiFi ดู YouTube ปรับแสงหน้าจอ 2 ขีด ผลคือสามารถใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมง 48 นาทีด้วยกัน (ปิดจอ ScreenPad)
สรุป
ตลอดระยะเวลาการใช้งาน ASUS ZenBook 14 UX434F สามารถทำได้ดีในทุกๆ ด้าน เพราะด้วยสเปคที่สดใหม่เป็น Intel Gen 10 จะเอามาดูหนังฟังเพลง ท่องเน็ต แต่งรูป ทำงานเอกสารสบายๆ หรือจะเอามาเล่นเกมหนักๆ ก็พอเล่นได้บ้างในรุ่นที่มีการ์ดจอ NVIDIA MX250 การพกพาก็ทำได้สะดวกเครื่องและหัวชาร์จมีขนาดเล็กน้ำหนักเบา นอกจากนี้ภายในกล่องก็มีหัวแปลง USB to Lan และซองผ้าไว้ใส่เครื่องแถมมาให้ด้วย
ทางเรื่องวัสดุงานประกอบถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน ZenBook วัสดุภายนอกเป็นโลหะทั้งหมดแข็งแรงเรื่องนี้หายห่วง แต่เรื่องของการดีไซน์รูปลักษณ์อันนี้ยังคงเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปสักเท่าไร อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเหมือนกัน ส่วนระยะการใช้งานแบตก็ถือว่าทำได้พอดีๆ ราว 8 ชั่วโมงกว่า ความร้อนตัวเครื่องก็ร้อนสุดอยู่ที่ 90 องศา สอบผ่านสบายๆ
ถัดมาสำหรับการใช้งาน ScreenPad ที่เพิ่มเข้ามาก็ถือว่าใช้งานจริงพอได้ แยกมาเปิดดู YouTube ระหว่างทำงานก็โอเค แต่ก็อยากให้มีขนาดจอที่กว้างกว่านี้อีกสักนิดกับลำโพงเสียงเบาไปหน่อย โดยส่วนตัวทีมงานชอบแบบ ScreenPad Plus ของ ZenBook Duo มากกว่า เพราะได้จอที่ใหญ่กว่าทำให้สามารถใช้งานได้ครอบคลุมมากกว่านั่นเอง
โดยรวมแล้วสำหรับ ASUS ZenBook 14 UX434F ก็ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊คไซส์เล็กอีกรุ่นที่น่าจับจองมาใช้งานไม่น้อย ทุกอย่างดูลงตัว และมีจอ ScreenPad เพิ่มเข้ามาให้ใช้งานได้อีกหลากหลายไม่เหมือนใคร ซึ่งก็มีราคาเริ่มต้นเพียง 26,990 บาทเท่านั้นถือว่าไม่แพงเลยครับ
ข้อดี
- มิติตัวเครื่องขนาดค่อนข้างเล็ก ความกว้างความยาวเท่าๆ กับกระดาษ A4
- สเปคที่ใช้เป็น Intel Gen 10 รุ่นใหม่รองรับ WiFi 6
- วัสดุบอดี้ภายนอกตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งหมดแข็งแรงทนทาน
- มีจอ ScreenPad เพิ่มเข้ามา ใช้งานเสมือนเป็นจอที่สองได้
- แบตเตอรี่ใช้งานจริงได้ 8 ชั่วโมงกว่า
- น้ำหนักเบาเพียง 1.26 กิโล
- มี Windows 10 แท้ในเปิดเครื่องใช้งานได้เลย
ข้อสังเกต
- เสียงลำโพงแอบเบานิดนึง
- จอ ScreenPad เล็กไปหน่อย อยากให้กว้างกว่านี้อีกสักนิด
สุดยอด แบทอืด แถมเบาอีกต่างหาก 🙂 🙂
การ์ดจอแยก แค่คำโฆษณา พอๆกับออนบอร์ด