หลังจากที่ทีมงานได้รีวิวตัวรุ่น Pro ไปคราวนี้มาดูตัวรุ่นธรรมดากับบ้างกับ ASUS ZenBook Duo น้องเล็ก 2 หน้าจอไซต์ 14 นิ้ว ไฮไลท์เด็ดเลยคือตัวเครื่องมาพร้อมสเปคซีพียูที่เป็น Intel Gen 10 รุ่นแรกของค่าย มีทั้ง i5, i7 และที่สำคัญเลยคือมีการ์ดจอแยกของ NVIDIA ให้ด้วย ในราคาเริ่มต้นเพียง 34,900 บาทเท่านั้น การใช้งานจะเป็นยังไงบ้างไปดูกันเลยครับ

สเปคเบื้องต้น

  • CPU : Intel Core i5-10210U / i7-10510U
  • GPU : NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5)
  • Ram : 16 GB LPDDR3 2133MHz On Board
  • Storage :  SSD m.2 PCIe 512GB / 1TB
  • Display 1 : 14″ Full HD IPS 60 Hz
  • Display 2 : 12.6″ Full HD IPS TouchScreen
  • Interface : USB 3.1 Type A x2, USB 3.1 Type C, HDMI, micro SD card, Headset 3.5 mm
  • Network : Wi-Fi 6 802.11 ax, Bluetooth 5.0
  • WebCam : HD, IR Camera
  • Size : 32.3 x 22.3 x 1.99 cm
  • Weight : 1.50 Kg
  • Warranty : 2 Years
  • Price : 34,900 บาท (i5) / 39,900 บาท (i7)

ดีไซน์ตัวเครื่อง

บอกกันตามตรงว่าสำหรับดีไซน์ของ ASUS ZenBook Duo นั้นก็แทบไม่ต่างจากรุ่นตัว Pro เลยเพียงแต่ขนาดเล็กกว่า น้ำหนักเบากว่า ตัดฟีเจอร์ต่างๆ ออกนิดหน่อย โดยรุ่นที่ทีมงานได้มารีวิวจะเป็นรุ่นน้องเล็กสุดที่ใช้ซีพียูเป็น Intel Core i5-10210U วัสดุบอดี้ภายนอกทั้งหมดจะเป็นอะลูมิเนียมคุณภาพสูง ฝาหลังขัดรูปวงกลมตามแบบฉบับ Zen สวยงาม สี Celestial Blue ออกแนวน้ำเงินอมเขียว ซึ่งงานประกอบก็แน่นอนว่าผ่านมาตรฐานระดับ Military Grade แข็งแรงหายห่วง

แกนฝาพับเป็นแบบ ErgoLift ยกแป้นพิมพ์ทำมุมเอียง 5.5° ช่วยในเรื่องของข้อมือการพิมพ์งานให้สบายยิ่งขึ้น รวมถึงยังช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนและให้เสียงกระจายดีขึ้นอีกด้วย ด้านล่างจะมียางรองแผ่นใหญ่ พร้อมช่องระบายความร้อน และมีสติ๊กเกอร์บอกผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้ง Windows แท้, NVIDIA, Validated Pantone และใช้ Intel Core i5 Gen 10 สีเทาสวยงาม

ถัดมาดีไซน์ด้านข้างถือว่าค่อนข้างหนาพอสมควรสำหรับโน้ตบุ๊คสายบางเบา มีลำโพงสายขวาที่จูนเสียงโดย Harman Kardon และย้ายช่องระบายความร้อนไปอยู่ใต้แกนฝาพับแทน จะได้ไม่ร้อนมือเวลาใช้งาน

หน้าจอ ASUS ZenBook Duo ดีไซน์ออกมาเป็นแบบ NanoEdge ขอบบางพิเศษทั้งสี่ด้าน ขนาด 14 นิ้ว พร้อมกล้อง Webcam แบบ IR Camera ใช้หน้าปลดล็อค ช่วยในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยใช้งานสะดวกรวดเร็วขึ้น เปิดเครื่องสแกนหน้า เข้าหน้า Desktop ได้เลย

ส่วนจอด้านล่างจะเป็นจอสัมผัสขนาด 12.6 นิ้ว อยู่เหนือคีย์บอร์ดที่เป็นขนาดมาตรฐาน มีไฟคีย์บอร์ด Backlit สีขาวปรับความสว่างได้ 3 ระดับ ไม่มี Numpad และ Touchpad จะย้ายไปอยู่ด้านขวาพร้อมมีปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวาขนาดใหญ่แยกออกจากกันชัดเจน

พอร์ตเชื่อมต่อ

ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อ ASUS ZenBook Duo ทางด้านขวาจะมี USB 3.1 Gen 1, Headset 3.5 mm, micro SD Card และไฟแสดงสถานะสองจุด ส่วนทางด้านซ้ายก็จะมี รูเสียบสายชาร์จ, HDMI, USB 3.1 Gen 2 และ USB 3.1 Type C Gen 2 ซึ่งถือว่าให้มาครบเพียงพอต่อการใช้งานยุคใหม่ ถ้าหากใครต้องการพอร์ต Lan หรือ SD Card กล้องตัวเต็มต้องหาซื้อ Hub ต่อเพิ่มเอาเองนะครับ

การใช้งาน / ทดสอบประสิทธิภาพ

สำหรับเจ้า ASUS ZenBook Duo ถือเป็นโน้ตบุ๊คตัวแรกของค่าย ASUS ที่ใช้ Intel Gen 10 ตัว i5-10210U ซีพียูประหยัดพลังานรุ่นใหม่ หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันดีขึ้นกว่าเดิมเยอะไหม ขอบอกตรงนี้ก่อนเลยว่ามันดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมากพอสมควร ในเรื่องของทั้งการประหยัดพลังงานที่สามารถจัดการได้ดีขึ้น และความแรงของตัวซีพียูเองก็ตามที่สามารถบูสได้ไปถึงระดับ 4 GHz+

การใช้งานทั่วไปถือว่าเหลือๆ ลื่นไหลรวดเร็วไม่เจออาการสะดุด เพราะด้วยสเปคที่ให้มาโอเคมากๆ ทั้ง i5 + การ์ดจอแยก MX250 + Ram 16GB + SSD 512GB เพียงพอต่อการใช้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเอามาดูหนังฟังเพลง ใช้งานตัดต่อ แต่งรูปก็สามารถทำได้ หน้าจอสีสันสดใจ ขอบเขตสีเที่ยงตรงใช้ได้ ปุ่มกดคีย์บอร์ดพิมพ์มันมือเด้งรับสัมผัสดีมาก แต่ติดนิดหนึ่งตรงที่ปุ่ม Shift ด้านขวามีขนาดเล็กเกินไปกดผิดบ่อย (ยังไม่ชิน)

และที่ชอบที่สุดเลยคือสามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรม Adobe ต่างๆ ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะ Ligthroom ที่สามารถนำแถบ Import มาไว้จอสอง หรือ Premirer Pro ที่สามารถเอาแถบ Timeline ที่ใช้ตัดต่อมาไว้ด้านล่างได้ด้วยเช่นกัน

ทางสเปค ASUS ZenBook Duo เลือกใช้ซีพียูที่เป็น Intel Core i5-10210U ความเร็ว 1.60 – 4.20 Ghz แบบ 4 Core/ 8 Thread ขนาด 14 nm ค่า TDP 15w การ์ดจอแยกใช้เป็น NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5),  Ram ตัวเครื่องจัดเต็มให้มาถึง 16GB  ส่วน SSD m.2 PCIe ขนาด 512GB

ทดสอบความเร็วของ SSD m.2 PCIe บนเครื่องได้ค่า Read อยู่ที่ 1644.5 MB/s และ Write อยู่ที่ 881.8 MB/s ถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ไม่ได้เร็วมาก

ถัดมาทดสอบ ASUS ZenBook Duo ในการเล่นเกม พร้อมเปิดหน้าจอด้านล่าง 3 จอเล่น Facebook ดู YouTube พร้อมกันก็สามารถทำได้ลื่นไหล โดยเกมที่ทีมงานนำมาทดสอบคือเกม PUBG และ Dota 2 (เล่นบนความละเอียด Full HD) โดยได้ค่า FPS ดังนี้

  • PUBG ปรับ Lowest : เฟรมเรทเฉลี่ย 45FPS / ต่ำสุด 23FPS / สูงสุด 68FPS
  • Dota 2 ปรับ Best Looking : เฟรมเรทเฉลี่ย  54FPS / ต่ำสุด 32FPS / สูงสุด 78FPS

หลังจากที่ทดสอบเล่นเกมไปแล้วมาดูที่อุณหภูมิตัวเครื่องกันบ้างจะเห็นว่า CPU วิ่งไปสูงสุดอยู่ที่ 91 องศา กับ GPU วิ่งสูงสุดอยู่ที่ 72 องศา ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติยอมรับได้ ไม่ร้อนจนเกินไป (ทีมงานทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 25 องศา)

มาดูทางด้านระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่กันบ้าง โดย ASUS ZenBook Duo จะให้ขนาดแบตมา 70Wh 4-cell ทดสอบโดยการต่อ WiFi ดู YouTube ปรับแสงหน้าจอต่ำสุด โดยได้ผลทดสอบดังนี้คือ

  • เปิดหนึ่งหน้าจอ : 10 ชั่วโมง 52 นาที
  • เปิดสองหน้าจอ (จอสองแสงระดับกลาง) : 7 ชั่วโมง 40 นาที

สรุป

จากการใช้งานมาตลอดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับเจ้า ASUS ZenBook Duo ส่วนตัวคือว่าประทับใจกว่ารุ่น Pro Duo ก่อนหน้านี้เสียอีก เพราะด้วยน้ำหนัก และขนาดตัวเครื่องที่เล็ก ทำให้พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกสบายๆ จริง ด้วยน้ำตัวเครื่องแค่ 1.5 กิโลเท่านั้น อะแดปเตอร์ก็มีขนาดเล็ก แถมมีปากกาและซองหนังอย่างดีแถมมาให้อีกครบเซตสุดๆ

หน้าจอที่สองที่เป็นจอสัมผัสด้านล่างก็สามารถใช้งานได้จริงแถมได้ทำดีอีกต่างหาก โดยเฉพาะสายทำ Content ต้องชอบมาแน่ๆ เพราะไม่ต้องสลับเปิดปิดหน้าจอไปมา ลากจอมาวางทิ้งไว้ได้ถึง 3 หน้าจอ รวมถึงสามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรม Adobe ต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

นอกจากนี้ ASUS ZenBook Duo หากจะใช้งานกราฟิกหนักๆ ก็ถือว่ายังพอไหว ด้วยตัวเครื่องที่มีการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA MX250 ผสานกับ Ram 16GB ทำให้สามารถทำงานหนักได้ดีระดับหนึ่งเช่นกัน

และอีกสิ่งที่หนึ่งไม่พูดไม่ได้เลยคือเรื่องแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นานสุดๆ ที่ได้อานิสงส์มาจาก Intel Gen 10 รุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากเดิมถือว่าดีมากๆ ซึ่งถ้าหากเปิดใช้งานแค่จอเดียว สามารถใช้ทำงานได้เกือบ 11 ชั่วโมงด้วยกัน แบตถึกทนมาก พกพาไปทำงานข้างนอกสบายใจได้ไม่ต้องกลัวแบตหมด

ส่วนทางด้านราคาแม้ว่าอาจจะเริ่มต้นสูงไปนิดสำหรับ i5 ที่ราคา 34,990 บาท แต่เชื่อเหอะว่ามันคุ้มค่าพอที่จะยอมจ่ายเพื่อประสบการณ์ใหม่ๆ ที่แตกต่างจากโน้ตบุ๊คแบบเดิมๆ ครับ

จุดเด่น

  • มีสองหน้าจอในเครื่องเดียว โดยจอด้านล่างเป็นสัมผัส
  • สเปคเลือกใช้ซีพียู Intel Gen 10 รุ่นใหม่ล่าสุด ประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ
  • มีการ์ดจอแยกมาให้ด้วยเป็น NVIDIA GeForce MX250
  • Ram ตัวเครื่องให้มา 16GB เหลือๆ
  • รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6 มาตรฐานใหม่
  • แบตเตอรี่อึดมากใช้งานได้จริงสูงสุดเกือบ 11 ชั่วโมง (เปิดจอเดียว)
  • น้ำหนักเบาเพียง 1.5 กิโลกรัม
  • กล้องเป็น IR Camera สแกนใบหน้าปลดล็อคหน้าจอได้
  • มี Windows 10 แท้ติดตั้งพร้อมใช้งานได้เลย

ข้อสังเกต

  • Touchpad แปลงเป็น Numpad ไม่ได้
  • ตัวเครื่องค่อนข้างหนา
  • ปุ่ม Shift ด้านขวาเล็กไปหน่อย
  • ไม่มีปุ่ม Fn เพื่อเปิดปิด Wireless
  • การแกะอัปเกรดทำได้ยากมาก