ในยุคที่การรับส่งไฟล์ผ่านระบบคลาวด์ทำได้ง่าย สะดวก รวดเร็วกว่าสมัยก่อนมาก ทำให้หลายคนได้ตั้งคำถามว่าสื่อบันทึกข้อมูลอย่างแฟลชไดรฟ์ (Flash Drive) หรือ External HDD ยังมีความจำเป็นในการรับส่งไฟล์ระหว่างเครื่องอยู่หรือไม่ แต่ในการใช้งานจริงแล้วยังมีความจำเป็นอยู่ เพราะรับส่งข้อมูลได้สะดวก เข้าใจง่ายกว่าระบบคลาวด์ค่อนข้างมาก วันนี้ทีมงานมีแฟลชไดรฟ์คุณภาพสูงที่เร็วมีความเร็วแรงแบบ External SSD มารีวิวให้ดูกัน บอกเลยใช้แล้วจะลืมภาพแฟลชไดรฟ์ช้า ๆ แบบเดิมไปจนหมดได้เลย

ดีไซน์งานออกแบบ

ดีไซน์ภายนอกจะดูเรียบ ๆ แต่แข็งแรงดุดัน วัสดุที่ใช้เป็นโลหะสีดำ ตัดด้วยข้อความสีขาว จับแล้วรู้สึกพรีเมียม ทนทาน ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาง่าย น้ำหนักเบา ไม่ต่างกับแฟลชไดรฟ์ทั่วไปเลย

ส่วนด้านหัวและท้ายจะมีฝาปิดสีดำแบบ Built-in ไม่ต้องกลัวทำฝาปิดหล่นหาย วัสดุตัวทำมาจากยางให้สัมผัสแบบเดียวกับวัสดุที่ใช้ทำเคสกันกระแทก โดยตัวฝาจะถอดออกไม่ได้ เป็นแบบยึดติดกับตัวแฟลชไดรฟ์เลย ช่วยปกป้องพอร์ต USB-A และ USB-C จากการหล่นกระแทกได้ดี

แต่อาจจะไม่ได้ช่วยกันฝุ่นได้สักเท่าไหร่นัก เพราะตัวฝาปิด ไม่ได้คลุมทุกด้านของพอร์ต เวลาจะใช้งานเราต้องเอามือง้างฝาเพื่อให้เปิดออก แล้วกดค้างไว้ ไม่อย่างนั้นแล้วตัวฝาจะคืนตัวกลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมทำให้เรานำไปเสียบใช้งานได้ยาก

ด้านบนมีไฟ LED แสดงสถานะการทำงานด้วย ซึ่งว่ากันตามตรงแฟลชไดรฟ์หลายรุ่นที่วางขายในตอนนี้ไม่ค่อยมีการใส่ไฟ LED มาให้แล้ว

พอร์ตการเชื่อมต่อที่ให้มาเป็น USB 3.2 Gen 2 Type-A และ USB 3.2 Gen 2 Type-C รองรับความเร็วระดับ 1000 MB/s ทั้งสองหัว

ทดสอบประสิทธิภาพ

ความเร็วการอ่านเขียนที่ทำได้พบว่าทำได้ใกล้เคียงตามสเปคที่เคลมไว้ โดยความเร็วการอ่านอยู่ที่ 1053 MB/s และเขียนที่ 926 MB/s เรียกได้ว่าแรงพอ ๆ กับ SSD พกพาหลายรุ่นเลย

ทดสอบก๊อปปี้ไฟล์เกมขนาด 20 GB พบว่าทำงานได้ดี ความเร็วไม่ค่อยดรอป สามารถเขียนไฟล์ได้อย่างต่อเนื่อง ต่างกับแฟลชไดรฟ์ปกติทั่วไป ที่มีความเร็วในการเขียนที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และเมื่อเขียนไฟล์เป็นเวลาความเร็วมักดรอป หรือไม่สม่ำเสมอ ทำให้เราใช้เวลาในเสียเวลาเพิ่มขึ้นพอสมควร

เมื่อใช้งานไปสักพัก ความร้อนที่รู้สึกได้มีน้อยมาก เมื่อเทียบกับแฟลชไดรฟ์ หรือ External SSD ที่ใช้วัสดุเป็นโลหะเหมือนกัน แต่ถ้าใช้งานโหด ๆ อ่านเขียนไฟล์ขนาดใหญ่เวลานาน ก็จะมีความร้อนสะสมให้รู้สึกอุ่น ๆ อยู่บ้าง

ทั้งนี้การที่จะทำให้ Silicon Power DS72 วิ่งได้ความเร็วสูงตามที่สเปคเขียนไว้ พอร์ตการเชื่อมต่อต้องมีความเร็วเกิน 10 Gbps ขึ้นไปด้วย ทั้ง USB-A และ USB-C (10 Gbps = 125 GB/s หรือ 1250 MB/s)

จุดเด่น

  • วัสดุดี แข็งแรงทนทาน
  • ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก
  • อ่านเขียนได้เร็วกว่า Flash Drive ปกติมาก
  • ความเร็วไม่ดรอป ใช้งานหนัก 

ข้อสังเกต

  • ราคาสูง เริ่มต้นก็พันกว่าบาทแล้ว
  • มีขายแค่ Shop Online บางร้าน และบางทีรุ่นที่ต้องการของมักหมด
  • ฝาปิดใช้งานไม่สะดวก
  • ต้องใช้กับเครื่องที่มีพอร์ตความเร็วสูง 10 Gbps ขึ้นไป ถึงจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

สรุป

จากที่ใช้งานมาได้สักพักพบว่าแฟลชไดรฟ์ประเภทนี้ใช้งานได้สะดวกกว่า External SSD ค่อนข้างมาก เพราะมีขนาดที่เล็กกระทัดรัด กว่า แต่ความเร็วที่ได้นั้นใกล้เคียงกัน ต่างกับแฟลชไดรฟ์ทั่วไปที่ทำได้ช้ากว่ามาก เลยมีโอกาสหยิบจับมาใช้งานบ่อยกว่า

เรียกได้ว่าถ้ามีงบประมาณ และเน้นการพกพา สามารถนำไปใช้งานกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย เช่น พีซี เครื่องเล่นเกม สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต Silicon Power DS72 ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ

เพราะใช้ง่ายเหมือนแฟลชไดรฟ์ธรรมดา แต่ได้ความเร็วการอ่านเขียนที่สูงกว่ามาก หรือใครที่รู้สึกว่าแฟลชไดรฟ์ธรรมดามันช้าเกินไปแล้วอยากได้แฟลชไดรฟ์ดี ๆ ไว้ใจได้สักตัว รุ่นนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์อยู่เหมือนกันครับ

สเปคของ Silicon Power DS72

  • ขนาด : 80.95 x 21.3 x 10.4mm
  • น้ำหนัก : 15.6 g 
  • การเชื่อมต่อ USB 3.2 Gen 2 Type-A, USB Type-C
  • ความจุ : 250GB/ 500GB/ 1TB
  • ความเร็วการอ่านสูงสุด : 1050 MB/s 
  • ความเร็วการเขียนสูงสุด : 850 MB/s
  • ประกัน 5 ปี 
  • ราคา : 1,390 / 2,490/ 3,690 บาท
  • ตามไปตำได้ที่ : Link